ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. พริมา มารีน (PRM) เริ่มซื้อขาย 14 ก.ย. นี้

บมจ. พริมา มารีน ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเหลวทางเรือ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 14 ก.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 20,000 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “PRM”      


ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. พริมา มารีน เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มบริการ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “PRM” ในวันที่ 14 กันยายน 2560


PRM เป็นผู้นำด้านบริการขนส่งและจัดเก็บสินค้าทางเรืออย่างครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ครอบคลุมธุรกิจ 4 ด้าน ได้แก่ 1) การขนส่งน้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป และปิโตรเคมีเหลว 2) การขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป (floating storage unit) 3) การขนส่งและสนับสนุนปฏิบัติการทางทะเล (offshore support vessel) และ 4) การบริหารจัดการเรือ (ship management)


PRM มีทุนชำระแล้ว 2,500 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 2,000 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 500 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้รวม 650 ล้านหุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนที่ 500 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ จำนวน 150 ล้านหุ้น ต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 6-8 กันยายน 2560 ในราคาหุ้นละ 8.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 4,000 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 20,000 ล้านบาท โดยมี บล. กสิกรไทย และ บมจ. ธ. ไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ ผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย


ว่าที่เรือตรีชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พริมา มารีน เปิดเผยว่า การระดมทุนจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทฯ มีฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น สามารถรองรับแผนการขยายกิจการ ซึ่งบริษัทมีแผนการต่อเรือใหม่เพื่อทดแทนเรือเดิม และการขยายกองเรือ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนเรือไทยที่ให้บริการอีกเท่าตัวภายในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งจะส่งผลให้รายได้ กำไร และอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง และสร้างความมั่นคงทางธุรกิจอย่างยั่งยืน


หลัง IPO PRM มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มบริษัท นทลิน จำกัด ถือหุ้น 74.00% (แบ่งเป็นบริษัท นทลิน จำกัด 54.20% และ Austin Asset Limited 19.80%) Bank of Singapore Limited ถือหุ้น 0.50 % และ นายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู ถือหุ้น 0.40% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนสถาบัน (book building) ในแต่ละระดับราคา (price range) โดยราคา IPO เท่ากับ 8.00 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ของบริษัทฯ เท่ากับ 20.46 เท่า โดยพิจารณาจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ 

ในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด (fully diluted) ซึ่งมีค่าเท่ากับ 0.39 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการของบริษัทฯ หลังหักภาษีและเงินสำรองตามที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ กำหนด โดยมีเงื่อนไขว่าการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความเหมาะสมอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควร


 ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th  และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.primamarine.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th