Park Café – International Restaurant วันพิเศษกับเมนูสุดพิเศษ จากเชฟรางวัลเหรียญเงิน งาน “ TICC 2017”



วันนี้กองบก. Btripnews จะพามารู้จักกับเชฟชูชาติ แก้วนาง ชาวเชียงรายวัย 46 ปี เชฟใหญ่ของห้องอาหาร ปาร์ค คาเฟ่ โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค รัชดาภิเษก ตามเวลานัดหมาย เมื่อเข้าไปบริเวณชั้น G ของโรงแรม เราก็เห็นหนุ่มใหญ่หน้าตาใจดีกำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอาหารบุฟเฟ่ต์สำหรับมื้อกลางวัน ส่งยิ้มทักทายผู้มาเยือน


ขณะที่เชฟอีกคนหนึ่งเตรียมจัดผลไม้ อาหารที่ตกแต่งพร้อมเสริฟส่งกลิ่นหอมชวนลิ้มชิมรสผสานกับการตกแต่งหน้าตาดูแล้วน่าทานดีแท้ 



   

ที่ห้องอาหารนานาชาติ ปาร์ค คาเฟ่ แห่งนี้ ได้ถูกออกแบบตกแต่งให้เป็นสไตล์ยุโรปโมเดิร์น เรียบง่ายแต่มีความโปร่งสบายด้วยอาคารเพดานสูงและผนังกระจกรอบทิศทาง เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์รอบข้าง ที่นั่งที่ไม่เบียดเสียดชิดกันเกินไปนี้สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 180 ที่นั่ง พร้อมห้องส่วนตัว 2 ห้องที่รองรับได้ถึง 15-30 คน

      

   

โดยเน้นความสด สะอาด ใส่ใจพิถีพิถันทุกขั้นตอนการผลิต โดยใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เพื่อนำเสริฟทุกจานอร่อย พร้อมคอนเซ็ปต์สไตล์คาเฟ่ อาหารที่สามารถแบ่งปัน ร่วมแชร์กันรับประททานได้ และยังเหมาะสำหรับครอบครัว และคนทำงานที่สามารถเข้ามาจัดเลี้ยงสังสรรค์หรือปาร์ตี้เล็กๆ ในแบบส่วนตัว

   

เท่าที่เห็น อาหารมีทั้งอาหารหนักอิ่มท้องและอาหารทานเล่นแบบเบาๆ เช่น บุฟเฟ่ต์ ให้เลือกอิ่มไม่อั้นในมื้อกลางวัน กับอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น และยุโรป ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ลูกค้าได้เลือกลิ้มลองแบบไม่ซ้ำ

   

   

   

อีกทั้งเมนูตามสั่ง สำหรับร่วมกันแบ่งปันความอร่อย อาทิ อาหารชุดเมืองเหนือ อาหารชุดอีสาน เมี่ยงส้มโอ แซลมอนราดซอสพริก พาสต้าผัดซอสครีมไข่กุ้งกับไข่ออนเซน หรือไส้กรอกรวม ที่การันตีจากฝีมือเชฟ เพราะทำเองกับมือ โดยเน้นคัดสรรวัตถุดิบที่ดีผ่านกระบวนการทำที่สะอาดจนได้ไส้กรอกเนื้อแน่น เสริฟพร้อมซอสหัวหอม มันบด เข้ากันได้เป็นอย่างดี มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ และร่วมแบ่งปันไปด้วยกันที่ ห้องอาหารนานาชาติ – ปาร์ค คาเฟ่

      

   

และที่ได้เล่ามาทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้การดูแลด้านอาหารของเชฟ ชูชาติ เชฟใหญ่ที่เพิ่งไปคว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันด้านอาหารมาหมาดๆ คงต้องไปรู้จักกันหน่อยละ 

หลังจัดเตรียมอาหารบุฟเฟ่ต์เรียบร้อย เชฟ ชูชาติ แก้วนาง ก็เข้ามานั่งสนทนาพลางเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาว่า “...สำหรับที่โรงแรมแห่งนี้เพิ่งทำงานได้หนึ่งปี แต่อยู่ในแวดวงอาหารมา 23 ปี ร้านอาหารบ้าง ภัตตาคาร โรงแรม ก็งานจัดเลี้ยงได้เข้าไปคลุกคลี คอฟฟี่ช็อป ห้องอาหาร สลับกันแต่ละที่ไม่เหมือนกัน บางที่ เราเป็นเชฟเอง ดูแลทุกอย่างเอง

.... ผมเป็นคนเชียงราย แต่มาเริ่มทำงานอาชีพเชฟครั้งแรกในปี 2533 ด้วยตำแหน่งสจ๊วตก็คือคนล้างจาน ทำความสะอาดภาชนะ อยู่ในครัวของร้านอาหารที่จังหวัดลำปาง แต่ละวันจะมีเชฟรุ่นพี่จะชอบใช้ให้ไปหยิบจับนู่นนี่ ปลอกผักหรืออะไรหลายๆ อย่าง จึงเกิดความซึมซับ เขาเอ็นดูเห็นว่าเราเป็นเด็กล้างจานคนหนึ่งและใครให้ทำอะไรก็ไม่เคยเกี่ยง พอดีกับเป็นช่วงที่ผู้ช่วยกุ๊กลาออก

จุดเปลี่ยนในอาชีพจริงๆ คือมีอยู่วันหนึ่งตัดสินใจที่จะกลับไปอยู่บ้านที่ลำปาง จะไม่ทำงานแล้ว เชฟเรียกไปคุยว่า ทำไมถึงจะกลับบ้าน ทุกวันนี้ยังไม่รู้อีกหรือว่าที่ใช้งานให้ทำหลายอย่างๆเพราะอะไร เพราะต้องการดันมาเป็นผู้ช่วยกุ๊ก อาหารถือเป็นปัจจัยสี่ของคน ถ้าเราทำอาชีพเชฟจะไม่มีคำว่าตกงาน ถ้าขยันและใส่ใจ

เชฟชูชาติ เล่าต่อว่า....ทำให้ผมคิดได้ ก็เริ่มทำงานต่อโดยเป็นผู้ช่วยกุ๊กทำอยู่หกเดือน แต่เป็นผู้ช่วยที่ยังไม่ได้ปรุงอาหาร ส่วนมากเป็นการเตรียมวัตถุดิบ ทั้งของสด ของที่อยู่ในตู้ ในงานเลี้ยง หลังจากหนึ่งปีมีโอกาสไปทำงานร้านอาหารเล็กๆ ทำเสริม แต่ยังไม่ได้ออกจากที่เก่า จนทำงานได้ห้าปี ตอนนั้นยังเป็นผู้ข่วยกุ๊กอยู่ ชีวิตเริ่มเปลี่ยนเมื่อเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำงานและหาเงินเรียนให้จบปริญญาตรี”

“... ตั้งใจว่าแค่อยากมาทำงานหาเงินและเรียนหนังสือให้จบปริญญาตรี ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยก็ยังทำงานครัว เริ่มอยู่โรงแรมแถวดอนเมือง ไต่เต้าจากผู้ช่วยกุ๊กจนไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ ทำงานที่โรงแรมแต่ละแห่งประมาณ 2-3 ปี โดยการชักชวนของหัวหน้างาน ของเพื่อนร่วมงาน เพราะต้องการเรียนรู้ และได้ประสบการณ์ใหม่ๆ นอกเหนือจากการหาความรู้จากตำราต่างๆ เพิ่มขึ้น รวมๆก็ยี่สิบกว่าปีเป็น เอ็กซ์คลูทีฟ เชฟ บริหารจัดการทั้งหมดในด้านการทำอาหาร ทั้งวัตถุดิบ ต้นทุน

แต่คิดว่ายังไม่ใช่ ยังไม่จบ น่าจะไปต่อก็ต้องหาสิ่งที่ยังขาด คือสิ่งที่เราอยากเรียนรู้ ได้เข้ามาเจอเชฟเพื่อนร่วมงาน เพื่อนเชฟแต่ละคนจะมีความรู้ที่แตกต่างกันไป เราก็เรียนรู้และพัฒนาตัวเองด้วย”

และเมื่อถามถึงการเข้าร่วมการแข่งขันด้านอาหารมาหลายต่อหลายครั้งพร้อมรางวัลเพียบ ไม่ว่าจะเป็น งาน THAILAND RETAIL , FOOD & HOSPITALITY SERVICES 2008 ได้รางวัลที่ 3 ประเภท FREE STYLE WHITE BOX COMPETTITION 2008 , งาน FOOD & HOTEL THAILAND ครั้งที่ 14 ได้รับรางวัล SILVER MEDAL AWARDED WITH HONOUR TO A DUCK FREE STYLE COOKING CONTEST , งาน Thailand Ultimate Chef Challenge 2017 , งาน TRAFS 2017 เหรียญทองแดง

การแข่งขัน PROFESSIONAL CATEGORY – Thailand Best ‘Knockout’ Freestyle Culinary Challenge in Thailand Retail, Food & Hospitality service 2017

และรางวัลล่าสุด เหรียญเงิน จากการแข่งขัน The Best of Culinary Team ( 3 Course Free Style Set Menu Live ) ในงาน TICC 2017 กับเมนู SEA MOUSEE , SOLF & HARD and CRYTAL ICE FRUITS

เชฟชูชาติเล่าให้ฟังการเตรียมตัวเข้าสู่การแข่งขันว่า “....เมื่อถึงการแข่งขันแต่ละครั้ง ต้องคิดเมนูขึ้นมาหรือทำตามโจทย์ การจะทำอะไรไปแข่ง ไม่ใช่ว่าทำเพียงจานหรือสองจาน ในแต่ละจานนั้นจะมีรายละเอียดอะไรเยอะมาก แน่นอนว่าอาหารรูปร่างหน้าตาต้องมาก่อน และสมัยนี้อาหารไม่เหมือนเดิมมีการพัฒนาเรื่อยมา

ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการจัดพรีเซนเทชั่นอาหาร ซึ่งปัจจุบันเป็นแบบนั้น หน้าตาดี ไม่เยอะเกินไป อาหารเป็นคำๆ นำวัตถุดิบมาผสมผสานให้น่าทานขึ้น เราต้องเอามาฝึกฝนก่อน เมื่อคิดเมนู คิดคอนเซ็ปต์ได้แล้วก็เอามาซ้อม ต้องพยายามซ้อมให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะต้องทำงานอยู่หน้างานประจำ แต่ต้องแบ่งเวลาให้ได้  ก่อนจะถึงวันแข่งก็ซ้อม

และเมื่อถึงวันแข่งก็ไม่ต้องคิดอะไร ทำให้ดีที่สุด อย่าไปคิดว่าจะชนะหรือเป็นที่หนึ่ง คิดแค่เพียงว่าทำให้ถูกต้องและทำให้ดีที่สุด และทำให้เขากินให้ได้ คิดแค่นี้พอจะได้ไม่ไปกดดันตัวเอง

ครั้งนี้ได้ 81 คะแนนได้เหรียญเงิน ตอนขึ้นไปรับเหรียญมีอารมณ์ตื่นเต้นว่าเราทำสำเร็จได้ขนาดนี้เลยหรือ เกินคาดเพราะไม่ได้แข่งแค่ทีมหรือสองทีม วันนั้น 36 ทีม ตอนคล้องเหรียญก็ยังตื่นเต้นเหมือนเดิม ดีใจกับตัวเองที่ทำแล้ว”

 “....หัวใจของการเป็นเชฟ ต้องมีจรรยาบรรณ การทำอาหารไม่ใช่จะเน้นแค่ความสวยงามไม่ได้ ต้องกินได้และต้องดีต่อสุขภาพ ต้องซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ตัวเองก่อน ส่วนของการทำงาน เวลา การเสียสละต่อส่วนรวม เรื่องของการรับฟังความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นในแผนกตัวเอง ต่อลูกค้า ต่อเพื่อนร่วมงาน ต่อองค์กร ต้องรับฟังและนำมาแก้ไข จุดนี้สำคัญมาก”

และแล้วก็ได้เวลา ลูกทีมเชพชาติ นำเมนู SEA MOUSEE , SOLF & HARD and CRYTAL ICE FRUITS ที่ได้รับรางวัลเหรียญเงินมาตั้งตรงหน้าเพื่อให้เราได้ชื่นชมและร่วมชิมกับผลงานที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษอีกครั้ง

   

เชพชูชาติ กล่าวเล่าถึงเมนูชุดนี้ว่า “ เมนูชุดนี้เราได้รับโจทย์เป็น western Free style set และเป็นการแข่งแบบทีม ๆ ละ 3 คน โดยใช้เวลาเสริฟ 120 นาที ในเรื่องของวัตถุดิบทางผู้จัดให้เราเป็นคนเตรียมคิดเมนูและออกสูตรอาหารและเตรียมวัตถุดิบเอง


    

จึงมาคิดและตั้งชื่อเมนู เมนูแรกคือ มูซ เอาซีฟู๊ดทั้งหมดมารวบรวมในก้อนเดียวกันและเรื่องดีไซน์ก็จะใส่เข้าไปว่าใช้แบบไหนให้ลงตัว สีขาวที่เห็นถือเนื้อปูเป็นมูซ สีชมพูใช้ปลาแซลมอน ด้านบนเป็นหอยเชลล์ ซอสที่นำมาใช้เป็นอโวคาโด้โยเกิร์ต และใส่วาซาบิเข้าไปด้วยให้มีรสชาดเพื่อดับกลิ่นคาว ให้เป็นฟรีสไตล์

ถัดมา เมนคอร์ส ชือว่า SOLF & HARD ตัว SOLF เป็นส่วนผสมของเนื้อแกะ ส่วนของเนื้อทำให้สุกแบบปานกลางเช่นกัน นำสองตัวนี้มาผสมผสานในจานเดียวกัน แมสโปเตโต้ใช้ใบมิ้นต์กับใบโหระพาซึ่งจะเป็นเฮิร์บ เนื้อทั้งสองรายการนี้ใช้บรั่นดีซอสในการทานด้วยกันได้

เมนูสุดท้าย CRYTAL ICE FRUITS ใช้แอปเปิ้ล คริสตัลเอาผลไม้มาทำเป็นเจลลี่แต่แช่ในรูปแบบผลไม้ ตัวซอสสามารถทานได้เป็นคาราเมลใส่ส้ม  เวลาทานแล้วจะแก้เลี่ยนของสองคอร์สที่ผ่านมา

โดยเมนูชุดนี้ เตรียมนำเสนอเป็นโปรโมชั่นของเดือนธันวาคม  ซึ่งจะเข้าสู่ช่วงปีใหม่เป็นการเฉลิมฉลอง มีนักท่องเที่ยวเข้ามา เมนูนี้เรามองว่าคนไทย ต่างชาติ เอเชีย ยุโรป ทานได้หมด แต่ก่อนเราทำเมนูจะเจาะว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ฝรั่งหรือคนไทย แต่เดี๋ยวนี้ไม่เสมอไป ลูกค้าจะชนชาติไหนก็มาได้ในช่วงโปรโมชั่น นำเสนออาหารให้ตอบสนองกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่มดีกว่า เด็กๆ ก็ทานได้”

แต่สำหรับช่วงนี้ อยากแนะนำให้มาทานบุฟเฟ่ต์กันก่อน โดยเฉพาะ โปรโมชั่นพิเศษ ! ลด 20 % สำหรับบุฟเฟ่ต์ เมื่อจองตั้งแต่ 5 ท่าน 

เปิดให้บริการทุกวัน : บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันเวลา 11.30- 14.30 น. ราคา 799 บาท สอบถามข้อมูลเพิมเติมโทร 02-290 0125