เครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุร่วมไว้อาลัย-เรียกร้อง นายกฯ จัดการจริงจัง “พวกเมาแล้วขับ”

(กทม.:19 พ.ย.2560) ที่ บริเวณหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ถนนราชดำเนิน มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน จัดกิจกรรม วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย  รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 Ms. Jo Yee Yung Fung, Chief, Transport Policy and Development Section, ผู้แทนองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย, ผู้แทนภาคีรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน ครอบครัว นายสมชาย ยามดี รปภ., กระทรวงสาธารณสุข เหยื่อเมาแล้วขับ พร้อมด้วยเครือข่ายผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ร่วมงานด้วยเป็นจำนวนมาก

สำหรับกิจกรรมในปีนี้ มูลนิธิเมาไม่ขับ จัดให้มีกิจกรรมยืนไว้อาลัยและวางดอกกุหลาบต่อหน้ารูปเหยื่อผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน เพื่อเตือนใจประชาชนให้ตระหนักถึงพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนน และเป็นการร่วมกันรำลึกถึงเหยื่ออุบัติเหตุทางถนนที่จากไป
ด้าน นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า องค์การสหประชาชาติ  (UN) เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาอุบัติเหตุจราจร ซึ่งคร่าชีวิตประชากรทั่วโลกมากถึงปีละ 1.3 ล้านคน บาดเจ็บและพิการอีกประมาณปีละ 50 ล้านคน ผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นประชากรวัยหนุ่มสาว ซึ่งมีอายุระหว่าง 15-29 ปี ในปี พ.ศ.2548 จึงได้กำหนดให้วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็น วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ( WORLD DAY OF REMEMBRANCE FOR ROAD CRASH VICTIMS ) โดยในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้เชิญชวนให้ประเทศสมาชิกทั่วโลกจัดกิจกรรมเพื่อสร้างการรับรู้ให้สังคมได้ตระหนักถึงผลกระทบอันเกิดจากอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้เกิดมาตรการในการป้องกันและควบคุมปัญหา ตลอดจนมาตรการในการดูแลช่วยเหลือเหยื่อหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบให้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีคุณภาพ
นายแพทย์แท้จริง กล่าวอีกว่า มูลนิธิเมาไม่ขับ ใคร่ขอเรียกร้องไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  (คสช.) นายกรัฐมนตรี ให้มีมาตรการจัดการกับคนเมาแล้วขับบนท้องถนนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ใน 2 ประเด็นสำคัญ ก่อนเทศกาลปีใหม่ 2561 ที่กำลังจะมาถึง ได้แก่ มาตรการยึดรถ ยึดคน และการตรวจแอลกอฮอล์กรณีเกิดอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตทันทีทุกราย  
ถ้อยแถลงจาก มูลนิธิเมาไม่ขับ

ตายจริงเจ็บจริง..22,356 ศพต่อปี

ตามที่ สหประชาชาติ ประกาศให้ทุกวันอาทิตย์ที่ 3 เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็น วันรำลึกถึง 

เหยื่อผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนของโลก เพื่อให้ประเทศสมาชิกได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักในเรื่องความสูญเสียอันมหาศาลที่เกิดจากอุบัติเหตุทางถนน และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำอีก ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ย.

ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีอัตราการตายของประชากรบนท้องถนนสูงเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย และเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งมีแนวโน้มจะขึ้นสู่อันดับ 1 ในเร็วๆนี้ นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีคนไทยอีกเป็นล้านคนที่ต้องบาดเจ็บ เป็นหมื่นคนที่ต้องพิการทุกปี คิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจสูงถึง 5 แสนล้านบาทต่อปี  โดยใน พ.ศ.2559 คนไทยเสียชีวิตบนท้องถนน 22,356 ศพต่อปี คิดเป็น 61 ศพ ต่อวัน หรือ 2.5 ศพ ต่อชั่วโมง

ไม่มีสงครามหรือภัยพิบัติใดๆ ในประเทศไทยที่สามารถก่อให้เกิดความสูญเสียได้มากมายถึงขนาดนี้ 

สิ่งที่เราต้องทำคือ หยุดการตายที่สามารถป้องกันได้นี้ ด้วยการลงมือทำทันทีทุกวิถีทางที่พวกเราทุกคนสามารถทำได้

ในโอกาสนี้มูลนิธิเมาไม่ขับขอเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีอำนาจ ได้ลงมือทำหน้าที่อย่างเป็นรูปธรรม จริงจัง เพื่อลดความตายและความสูญเสีย ดังนี้

1.ความปลอดภัยบนท้องถนนต้องได้รับการยกระดับให้เป็นนโยบายสำคัญ 1 ใน 3 อันดับแรกของรัฐบาล

2.มีรูปธรรมการดำเนินการอย่างชัดเจนที่จะลดความสูญเสียและมีการติดตามประเมินผลทุก 3 เดือน

3.ให้มีการบังคับใช้กฎหมายจราจรที่มีอยู่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเมาแล้วขับ การขับรถเร็ว และการไม่สวมหมวกกันน็อก

4.ยกระดับความผิดของการเมาแล้วขับและขับรถเร็ว เป็นการขับขี่ที่อันตรายร้ายแรงและเล็งเห็นผลได้แทนเป็นแค่ความประมาท

5.นำเรื่องความปลอดภัยทางถนนเข้าสู่สถานศึกษาทุกระดับชั้น เริ่มตั้งแต่ประถมศึกษา