สธ.รุดเยี่ยมและให้กำลังใจ หนุ่มโรคอ้วน บูรณาการรักษาเร่งด่วน

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากการนำเสนอข่าวนายลัทธพล พุกนุ่น หรือน้องอ๊อฟ อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก  ป่วยเป็นโรคอ้วน จนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้นั้น ในเบื้องต้นกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์ ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านพักของน้องอ๊อฟ และพบว่าผู้ป่วยมีน้ำหนักตัวมากกว่า 250 กก. มีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจโต หอบหืด ความดันโลหิตสูง และด้วยน้ำหนักตัวที่มาก ส่งผลทำให้มีปัญหาในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน ต้องได้รับการดูแลจากมารดา ผู้ป่วยจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลกและต่อมาส่งต่อการรักษามาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แต่เนื่องจากภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางตลอดจนผู้ป่วยมีความลำบากในการเดินทางไกล กระทรวงสาธารณสุข จึงได้บูรณาการความช่วยเหลือการรักษา

 โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก ส่งตัวน้องอ๊อฟเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อวินิจฉัยสาเหตุของโรคและวางแผนการรักษาด้วยการลดน้ำหนักของผู้ป่วยลง 10 เปอร์เซ็นของน้ำหนักตัว ภายใน 1 เดือน ส่งผลให้สามารถควบคุมอาการของโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ความดันโลหิต อยู่ในระดับปกติหรือใกล้เคียง ทั้งนี้ยังเตรียมผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะและการดูดซึมของอาหารซึ่งในระยะยาวจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีสุขภาพที่ดีและมีน้ำหนักตัวลดลง



นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพิษณุโลกและองค์การบริหารส่วนตำบลวัดจันทร์ ลงพื้นที่ติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของผู้ป่วยและบุคคลใกล้ชิด ให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถทำงานหารายได้แบ่งเบาภาระของครอบครัวตามวัตถุประสงค์ของผู้ป่วยได้   


อธิบดีกรมการแพทย์  กล่าวต่อไปว่า นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การดูแลตนเองให้แข็งแรง ถือเป็นยาที่ดีที่สุด จึงอยากฝากไปถึงประชาชนให้ดูแลสุขภาพตนเอง โดยสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยหลัก 3 อ 2 ส คือ อ ที่ 1 อาหาร โดยรับประทานอาหารแต่พอดี งดอาหารหวาน มัน เค็ม ควรมีผักหรือผลไม้ในอาหารทุกมื้อ อ ที่ 2 คือ ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ วันละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน อ ที่ 3 คือ อารมณ์ ทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนให้เพียงพอ

 สำหรับ ส ที่ 1 คือ ไม่สูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่  และ ส ที่ 2 คือ งดดื่มสุรา เบียร์ และเครื่องดื่มมึนเมา ที่สำคัญ ประชาชนควรตรวจเช็คสุขภาพอย่างน้อยปีละครั้ง หากพบความผิดปกติของร่างกายให้รีบพบแพทย์ทันที และสิ่งที่ควรทำบ่อยๆ เพื่อประเมินสุขภาพ คือ การชั่งน้ำหนัก การวัดรอบเอวของตนเอง วัดค่าความดันโลหิต ซึ่งการตรวจเช็คสิ่งเหล่านี้ สามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านและเป็นการช่วยให้สุขภาพดีห่างไกลจากโรคต่างๆได้