แพคเกจชิล ชิล กับทริป ผู้หญิงเที่ยวไทย ไปเกาะกูด

   



 ....สมัยก่อนการที่ผู้หญิงจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ใดสักแห่ง ดูจะเป็นเรื่องคิดหนักพอควร ไหนจะเรื่องความปลอดภัย ไหนจะความสะดวกสบายที่ต้องไปผจญกันเอาดาบหน้า อีกทั้งข้อมูลข่าวสารใดๆก็หายากเต็มทน แต่นั่นคือ อดีต....เพราะทุกวันนี้... จะหันไปทางไหน พี่กูเกิล ก็มีบริการข้อมูลแทบจะทุกอย่าง  โลกโซเชียลเปิดกว้างให้การเดินทางในทุกมุมโลกแคบลง การเฟ้นหาข้อมูลต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการรีวิว การแชร์ การแฮคแทค และ..... อื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งการนำเสนอแพคเกจที่น่าสนใจจากผู้ประกอบการต่างๆ 

ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่ง ที่ Btripnews ที่ได้มีโอกาสร่วมบันทึกการเดินทางสำหรับผู้หญิง กับโครงการ “ผู้หญิงเที่ยวไทย 2017” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างททท.และกลุ่มพันธมิตร เพื่อแสดงศักยภาพและขยายฐานนักท่องเที่ยว โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มผู้หญิง

จากข้อมูล บ่งบอกว่า กลุ่มผู้หญิง ถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่มีอำนาจและกำลังซื้อสูงในตลาดเชิงคุณภาพ เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวผู้หญิงให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศและมีการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า นั่นทำให้ได้มีการจัดโครงการแพ็กเกจท่องเที่ยว 5 ภูมิภาค โดยมีเส้นทางนำร่อง 6 เส้นทาง อาทิ เชียงราย , สกลนคร , นครราชสีมา , ประจวบคีรีขันธ์ , ตราด และ ภูเก็ต

ซึ่งทุกแพ็กเกจนี้จัดทำเพื่อกลุ่มนักท่องเที่ยวผู้หญิงโดยเฉพาะ โดยคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม ที่พัก สะดวกสบาย ปลอดภัย รวมถึงกิจกรรมท่องเที่ยวที่กลุ่มผู้หญิงชื่นชอบ โดยเฉพาะทริปนี้มีศิลปินจากช่อง 3 วาววา หนึ่งในผู้ร่วมเดินทางด้วย

.... เช้าตรู่ของวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา คณะสื่อมวลชนและศิลปินก็เริ่มบินลัดฟ้าด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จากกรุงเทพฯ มุ่งสู่ จังหวัดตราด  ใช้เวลาไม่นาน ก็มาถึงสนามบินตราด ที่ตั้งอยู่บริเวณรอยต่ออำเภอเขาสมิงและอำเภอแหลมงอบ ทำให้การเดินทางสู่เมืองเกาะครึ่งร้อยที่อยู่สุดปลายทางบูรพาภาคตะวันออกของไทยง่ายดายและสะดวกสบาย โดยเฉพาะกับการได้เข้าไปนั่งจิบกาแฟ ทานอาหารเช้าแบบชิล ชิล กันที่เลาจน์ของบางกอกแอร์เวย์ อิ่มอร่อยกันก่อนในช่วงรอการขึ้นเครื่องอีกด้วย

เสร็จสรรพคือ นั่งเครื่อง 1 ชั่วโมง ตามด้วยการนั่งรถตู้ต่อไปยังท่าเรือแหลมศอกราว 1 ชั่วโมงและลงเรือสปีดโบ้ทที่มารอเทียบท่ารับนักท่องเที่ยวสาวๆ อีกราว 1 ชั่วโมง เพื่อมุ่งหน้าสู่ "เกาะกูด" เรียกว่าเดินทางกันครบรสทีเดียว

   

   

แม้จะดูยาวนาน ...แต่เมื่อไปถึง ความสวยงามของเกาะกูดและที่พักทำเอาหลายคนหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง อืมมม....ตอนนี้รู้สึกว่า จากที่ให้พัก 2 คืนน่าจะอยู่ยาวซะแล้วซี

รู้จักเกาะกูดกันก่อนค่ะ เกาะกูด เป็นเกาะสุดท้ายของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลตราด ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเกาะช้าง และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศด้วย แต่ความสนใจของเกาะแห่งนี้ ไม่ใช่แค่ขนาดที่ใหญ่โต แต่เป็นน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ที่สวยงามดั่งต้องมนต์เสน่ห์ ทำให้เกาะกูดกลายเป็นสวรรค์ของคนรักทะเล เพื่อมาสัมผัสชายหาดทรายขาวเนียนละเอียด เคียงข้างน้ำทะเลใสแจ๋ว อีกทั้งยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์และแนวปะการังนานาชนิด จนได้รับสมญานามว่า "อันดามันแห่งทะเลตะวันออก"





เมื่อมาถึง The Beach Natural Resort Koh Kood”  รีสอร์ทน่ารักสไตล์  Small Luxury Resort ที่สวยงามตั้งอยู่หาดบางเบ้า จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดบนเกาะกูด เราได้เห็นเจ้าหน้าที่ยืนรอต้อนรับตั้งแต่เรือยังไม่เทียบท่า ทำเอาคณะยิ้มแก้มปริไปตามๆ 

   





   

   

   

หลังจากเข้าห้องพักแสนสบาย ดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติสักพัก ช่วงบ่าย คณะของเราก็เตรียมตัวเพื่อไปตะลุยกิจกรรมแรกกัน นั่งเรือ Speed Boat ไปดำน้ำดูปะการัง ที่หมู่เกาะรัง


   

ครั้งแรกสาวๆ บางคนถึงกับทำหน้าปูเลี่ยน นั่งเรืออีกแล้วเหรอ ด้วยเพราะเมื่อช่วงมาถึงยังกระอักกระอ่วนกับคลื่นลมทะเลในช่วงขามา แต่เมื่อไปถึงหมู่เกาะรัง เห็นฝูงปลาหลากสี บนพื้นน้ำสีเขียวมรกต ถึงกับอดใจไม่ไหว



บริเวณนี้ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาของฝูงปลาน่ารักที่แหวกว่ายอยู่ในทะเล และปะการังหลากสีสัน เหมาะแก่การดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นมากที่สุด หมู่เกาะรังนั้นประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวนมาก ได้แก่ เกาะรังใหญ่ เกาะรังเล็ก เกาะกระ เกาะเทียน เกาะทองหลวง เกาะยักษ์ เกาะสามพี่น้อง เกาะมะปริง เกาะตุ๊น และเกาะกำปั่น โดยจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมไปดำน้ำกัน อยู่บริเวณหน้าเกาะรังกับเกาะกระ

   

“ ท่านใดยังใช้สน็อคเกิลไม่เป็นบ้างครับ”  พี่ยงค์ เจ้าหน้าที่ของโรงแรมซึ่งครั้งนี้นำทีมดำน้ำพาสาวๆ มาด้วยตัวเอง ส่งเสียงไถ่ถามน้องๆ พร้อมแนะนำการใช้และใส่เสื้อชูชีพให้ทะมัดทะแมงรัดกุมสำหรับผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็น

หลังจากแนะนำกันเพียงครู่เดียว ทุกคนก็กระโดดน้ำจ๋อมลงตา เจ้าหน้าที่โดยไม่กลัวกันเลยทีเดียว

   

   

บางคนขอเกาะห่วงยางให้เจ้าหน้าที่พาดำน้ำตื้นกันไป บ้างก็ก้มหน้าก้มตาแหวกว่ายดูปลาด้วยตัวเอง ขณะที่บางคนก็ตีน้ำกระจายเพื่อให้ว่ายเวียนไปหาปลาสีสวย ราวกับว่าจะตามทันงั้นหล่ะ 555

เพียงแค่มุมที่ลงในจุดแรก เราจะเห็นฝูงปลาเยอะแยะ แต่ยิ่งตื่นตาตื่นใจมากขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่พาไปอีกมุมของเกาะ ใต้น้ำสามารถชมปะการังขนาดใหญ่มาก เรียงรายอย่างน่าตื่นตาตื่นใจพบเห็นฝูงปลาตัวเล็กจำนวนมาก สวยงามจริงๆ ซึ่งบริเวณนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้วางทุนลอยเอาไว้ไม่ให้เรือเข้าไปในเขต ทำให้ยังคงรักษาความงามของธรรมชาติได้อย่างพิสุทธิ์เหลือเกิน เรียกว่า อิ่มอกอิ่มใจกันไปตามๆ

   



......  บ่ายคล้อยเต็มที เจ้าหน้าที่พากลับขึ้นมาสู่ที่พัก ก่อนจะเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายภาพ วาววา ณิชารีย์ โชคประจักษชัด 

....... ช่วงอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า “วาววา” เดินเล่นเลียบหาดขาว เริงร่าท้าเกลียวคลื่นคราม เปิดโอกาสให้ถ่ายภาพเพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้สาวๆ ร่วมเดินทางไปกับเธอ ดูนางแบบจะคุ้นชินกับเสียงชัตเตอร์เป็นอย่างดี ไม่นานภารกิจถ่ายแบบก็เรียบร้อยด้วยการพรีเซนต์แบบสบายๆ ตามคอนเซ็ปต์งาน

   


วาววา เล่าให้ฟังถึงการร่วมทริปในครั้งนี้ ในช่วงทานอาหารค่ำร่วมกันว่า “โครงการผู้หญิงเที่ยวไทย 2017 เป็นโครงการของททท. ที่อยากให้ผู้หญิงออกมาเที่ยว และเที่ยวในประเทศไทย จริงๆ ทั่วโลกก็มีที่เที่ยวหลายที่ที่เป็นความใฝ่ฝันของสาวๆ แต่วาวอยากบอกว่าในเมืองไทยยังมีที่ที่คนทั่วโลกใฝ่ฝันอยากจะมาเยอะแยะมากมาย ซึ่งเราเป็นคนไทยเองควรจะไปให้ทั่วถึง


   

   



อย่างที่วาวไปมา ระนองก็เป็นจังหวัดที่คนไม่ค่อยนึกถึง ถ้าทะเลคนจะนึกถึงภูเก็ต แต่ภูเก็ตก็เป็นเดสทิเนชั่นที่มีแอคทิวิตี้ให้ทำหลากหลาย แต่ระนองเป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก มีเกาะสวยๆ ให้เที่ยวเยอะ เป็นเกาะเปิดใหม่ มีน้ำพุร้อนเหมือนออนเซ็น ไปเชียงรายก็มีอาร์ตติสอยู่มากมาย มีหอศิลป์มีงานศิลปะให้เยี่ยมชม มีเสน่ห์และมีหลายที่ที่เราไม่ต้องไปไหนไกล ใช้วันหยุดสั้นๆ เราก็สามารถไปเที่ยวที่สวยๆ ที่ในความฝันของคนทั่วโลกได้ เช่นเกาะของไทยเราไม่แพ้ชาติใดในโลก

วาวไปอังกฤษมา วาวนึกถึงทะเลไทยเลย ทรายบ้านเราละเอียดสุดแล้ว ขาวมาก ยิ่งไปที่ระนอง เกาะเปิดใหม่ แถวแนวชายแดน เดินลงไปเหยียบทรายยวบลงไปเกือบครึ่งแข้ง ละเอียดเหมือนแป้ง คิดว่าโลกใบนี้ยังมีแบบนี้เหรอ

หรือว่าดำน้ำ ในโซนหมู่เกาะสิมิลัน หลีเป๊ะ อันดามันเหนือ อันดามันใต้สวยมากเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่สวยมาก เพราะวาวชอบดำน้ำ ก็จะรู้สึกว่าทะเลไทยนี่สุดๆ แล้วน้ำใส หาดสวย ใต้น้ำก็ยังมีดีอีก ผู้หญิงเที่ยวไทยก็อยากชวนให้ผู้หญิงได้ไปเที่ยวที่สวยๆ ในไทย รับรองว่าไม่แพ้ที่ไหนในโลก”

ส่วนเรื่องความปลอดภัย วาววา บอกว่า “อังกฤษก็มีการก่อการร้าย หรือแต่ละที่ก็มีอันตราย แต่เราอยู่ในโซนที่ท่องเที่ยว เลือกที่จะเดินทาง เปอร์เซ็นต์ก็น้อยมาก เราเดินบนถนนในกรุงเทพฯ ไปทำงานทุกวัน ถ้าจะมองว่าอันตรายมันก็มีความเสี่ยง ทุกที่อันตรายหมด ข้ามถนนก็เสี่ยงแล้ว แต่ถ้าไปเที่ยวเราก็เซฟ เรื่องความปลอดภัย

ตอนนี้วาวรู้สึกว่าคนไทยเที่ยวไทยกันมากขึ้น อาจจะเพราะการโปรโมทด้วย สมัยก่อนยังไม่มีใครรู้จักเกาะตาชัย เดี๋ยวนี้การตลาด โซเชี่ยล ทำให้คนเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น อย่างทุ่งวัวแดง มีคนไปลงรูปในโซเชียลก็ทำให้คนรับรู้สถานที่เที่ยวต่างๆ มากขึ้น เรื่องโซเชี่ยลถือว่าทำให้คนเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น เพราะเวลาใครไปไหนก็จะมาแชร์กัน ผู้หญิงเที่ยวไทยก็เป็นประมาณนั้น เวลาไปเที่ยวที่ไหนเราก็จะแฮคแทค ผู้หญิงเที่ยวไทย 2017 พอลงไปคนก็สามารถกดเข้ามาดูได้ว่า เราไปไหนมาบ้าง และที่ไหนน่าไป

.... อยากฝากช่วง low season ช่วงที่ดี ประหยัด อะไรต่างๆ ก็ไม่ต่างเท่าไหร่จะเป็นหน้าหนาว จะเป็นไฮ หรือจะเป็นโลว์ซีซั่น คือบรรยากาศทุกอย่างของไทย เราก็รู้ว่า เมืองไทยคือมีหน้าเดียวคือ หน้าร้อนกับร้อนมาก เพราะฉะนั้นบรรยากาศก็ใกล้เคียงกัน ราคาก็ถูกกว่าด้วย คนน้อยด้วย สามารถมาชิลได้ ที่ไหนก็ได้ คนไทยน่ารักไม่แพ้คนญี่ปุ่น วาวว่านะคะ ดูแลดี”

และเมื่อถามถึง ความรู้สึกกับการมาเยือนเกาะกูด วาววา กล่าวว่า “เกาะกูด เป็นเกาะที่ไม่ไกลมากเดินทางสะดวก คือไม่ได้พลุกพล่านมากส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง เหมาะแก่การมานั่งชิลๆอ่านหนังสือ นอนริมหาด ชิลแบบสุดๆ ไปเลย ไม่ได้เป็นเกาะปาร์ตี้แบบ ฟูลมูน สมุย ไม่ได้เป็นเกาะวัยรุ่นแบบเสม็ด หรือฟิลภูเก็ตที่เป็นเมืองไปแล้ว แต่ที่นี่เป็นเกาะสงบๆ เหมาะแก่ครอบครัว มาพักใจ อกหักอะไรแบบนี้ เหมาะแก่การทอดอารมณ์ มองอาทิตย์ตกดิน อะไรอย่างนี้ค่ะ (หัวเราะ)....”



..... ดินเนอร์ริมหาดยังคงดำเนินต่อไป อาหารซีฟู้ดจากเตาขนาดเขื่องด้านข้าง บริกรเสริฟไม่ขาดสาย เสียงเกลียวคลื่นกระทบผืนทรายดังเป็นระยะๆ ทำเอาหลายคนเจริญอาหารจนลืมสุขภาพกันไปเลยทีเดียว

....... และแล้วราตรีแรกบนเกาะกูด ก็จบลงด้วยความประทับใจ

   



..................................................................................................................................

รุ่งอรุณ วันใหม่

   

   

กิจกรรมวันที่สองบนเกาะกูด วันนี้กิจกรรมส่วนใหญ่อยู่บนบก โดยรถสองแถวของรีสอร์ท คราวนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารรีสอร์ทขับรถพาชมวิวทิวทัศน์กันโดยเริ่มที่จุดชมวิวซึ่งเผยให้เห็นเบื้องล่างอันเป็นเวิ้งหมู่บ้านอ่าวสลัด เป็นหมู่บ้านชาวประมงเชื้อสายเวียตนามที่อพยพหนีสงครามเข้ามาในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 อาศัยอยู่รวมกันอย่างสงบ ปัจจุบันหมู่บ้านอ่าวสลัด ได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจ โดยเกิดขึ้นจากการเอาใจใส่ดูแลชุมชนและจากคุณป้าวาสนา สิงหพันธ์ ปัจจุบันสมาชิกอบต. ที่ยังคงเดินให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวด้วยอัธยาศัยไมตรีดีเยี่ยม

   

   

วันนี้ถือว่าเป็นโชคดีจริงๆ สำหรับฉัน ที่บังเอิญได้พบและพูดคุยกับคุณป้าวาสนาเจ้าของพื้นถิ่นประมงแห่งนี้

คุณป้า วาสนา เล่าให้ฟังขณะพาเดินเยี่ยมชมหมู่บ้านว่า “ที่นี่เป็นหมู่บ้านประมงที่รุ่นปู่รุ่นทวดคนเวียตนามเข้ามาอาศัยพึ่งใบบุญตั้งแต่เมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 ช่วงสงคราม เข้ามาทำอาชีพประมงกัน ถึงวันนี้ก็ยังทำอาชีพเดิมส่วนหนึ่ง แต่ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงบางบ้านก็ทำเป็นร้านอาหาร รวมทั้งให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมเดิมๆ

ที่นี่เป็นลักษณะ อีโค่มิวเซียม เป็นการฟื้นฟูประวัติศาสตร์เมืองท่าและมรดกอุตสาหกรรมชุมชนบ้านอ่าวใหญ่ ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นอ่าวขนาดใหญ่ เรือประมงมักเข้ามาหลบภัยยามมีลมพายุ ทำให้กลายเป็นเมืองท่าที่ติดต่อค้าขายกับเรือประมงต่างชาติจนร่ำรวยทางเศรษฐกิจ”

ปัจจุบันชุมชนบ้านอ่าวใหญ่กำลังประสบวิกฤต ม้าน้ำและแนวปะการังลดจำนวนลงเนื่องจากมีการลักลอบนำไปจำหน่าย การก่อตั้งนิเวศพิพิธภัณฑ์บ้านอ่าวใหญ่จึงจัดขึ้นเพื่อฟื้นฟูมรดกนิเวศและประวัติศาสตร์ของชาวบ้านอ่าวใหญ่ให้กลับคืนมา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีบทบาทแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว โดยเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วม

คุณป้าวาสนา เล่าต่อว่า “มีโครงการธนาคารปู ไข่นอกกระดอง ช่วงหน้ามรสุม ให้ชาวบ้านเอาปูไข่มาฝากกัน มีกิจกรรมนิเวศพิพิธภัณฑ์บ้านอ่าวใหญ่ เกาะกูด มีภารกิจที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการหมักน้ำปลาโบราณ ซึ่งชาวอ่าวใหญ่มีภูมิปัญญาการหมักน้ำปลาในโอ่งเพื่อใช้เองมาแต่โบราณก่อนที่จะพัฒนาเป็นโรงงาน้ำปลาที่มีชื่อเสียงตราสามกระต่าย

แต่เนื่องจากประสบปัญหาการขนส่งและเกิดอบัตเหตุเรือบรรทุกน้ำปลาอับปางลง 2538  จึงได้ย้ายโรงงานไปตัวเมืองตราด ทำให้โรงงานน้ำปลาเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเกาะกูดต้องปิดตัวเองลง และเพื่อเป็นการรักษามรดกอุตสาหกรรมโรงงานน้ำปลาสามกระต่าย ทางชุมชนจึงได้ปรับปรุงพื้นที่ในโรงงาน ให้เป็นสถานที่ถ่ายทอดภูมิปัญญา การหมักน้ำปลาโบราณแก่ผู้มาเยือน”

ส่วนกิจกรรม บ้านปะการัง เกิดขึ้นจากการเล็งเห็นว่าปัจจุบันปะการังลดลงทำให้สัตว์น้ำ พวก ม้าน้ำ ปลาการ์ตูน ลดจำนวนลง ชุมชนบ้านอ่าวใหญ่จึงได้ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งทะเลตราด จัดหาพันธุ์ปลาทะเลหายากมาให้ชุมชนและผู้มาเยือนช่วยกันเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ เช่น ปูไก่ ปลลาเก๋าปะการังลายจุด เป็นต้น เพื่อฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งชุมชนจะมอบภารกิจให้ผู้มาเยือนเข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำและลงมือทำแนวปะการังเทียมจากท่อพีวีซีอันเป็นกิจกรรมที่ช่วยลดจำนวนขยะในชุมชนอีกด้วย

กิจกรรมอีกอย่างหนึ่งคือ ธนาคารสีฟ้า ชุมชนบ้านอ่าวใหญ่พยายามกู้วิกฤตนิเวศของเกาะกูดโครงสร้างเครือข่ายกับศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งตราด ในการเพาะเลี้ยงและแพร่พันธุ์ปลาเก๋าลายจุดและม้าน้ำ ซึ่งมีจำนวนลดลงอย่างมากเนื่องจากมีการลักลอบนำออกไปจำหน่ายตามความต้องการของตลาด

นอกจากชุมชนจะมอบภารกิจให้ผู้มาเยือนร่วมกันปล่อยพันธุปลาทะเลกลับสู่แหล่งอนุรักษ์ในนิเวศพิพิธภัณฑ์แล้ว จะได้สัมผัสประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากตำนานกองทัพเรือของพระนเรศวรที่ชุมชนและเด็กๆ จัดการแสดงแบบโรงละครกลางแจ้ง ได้นั่งเรือใบโบราณล่องทะเล เพื่อไปสักการะ ศาลสมเด็จเจ้าพ่อองค์ดำอันเป็นศูนย์รวมจิตวิญญาณของชุมชน

จากทางเข้าชุมชน จะพบพิพิธภัณฑ์ไห ซึ่งเป็นการเก็บสะสมไหที่จมลงอยู่ในทะเล โดยชาวบ้านเมื่อรับรู้จากคุณป้าว่าเป็นสิ่งที่จะต้องเก็บรักษาเพื่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ศึกษา จึงเริ่มมีชาวบ้านเมื่อไปลากแหลากอวนติดมาก็จะนำมาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้

   

   

แม้จะเป็นเพียงพิพิธภัณธ์เล็กๆ ที่คุณป้ากับครอบครัวทำชั้นไม้สำหรับวางไหรูปทรงต่างๆ หอยมือเสือ ซากกระดองเต่า และเครื่องใช้จากท้องทะเล แต่แสดงให้เห็นถึงความรักษ์ในวิถีและจิตสำนึกรักษ์บ้านเกิดที่สืบต่อจากรุ่นต่อรุ่นแม้จะสืบเชื้อสายมาจากชาวเวียตนามก็ตาม

   

หลังจากนั้น คุณป้าวาสนา พาเราเดินลัดเลาะตามสะพานปูนที่สร้างขึ้นมาใหม่ เพื่อชี้ให้ดูสะพานไม้ของเก่าดั้งเดิมที่ป้าบอกว่า เสียดายเสน่ห์และเอกลักษณ์ของหมู่บ้านไป แต่เพราะความจำเป็น

“ถ้าสะพานไม้ไม่แข็งแรง ป้าทำสะพานปูนแบบนี้ไปแล้ว แต่หาวัสดุลายไม้มาปูไปบนปูนดีมั๊ยคะ สมัยนี้มีวัสดุเลียนแบบลายไม้ที่สวยงามทนทาน ทำเนียนๆ ให้ดูเหมือนสะพานไม้ ”  เราลองเสนอบ้าง

ป้าวาสนา พยักหน้าก่อนจะบอกว่า “จะลองไปปรึกษากันดู เพราะป้าเองก็ชอบสะพานไม้มากกว่า แต่สะพานไม้ไม่แข็งแรง ทรุดโทรมและต้องซ่อมแซมกันบ่อย”

เดินตามคุณป้ามาเรื่อย ก็พบเด็กน้อยตั้งหน้าตั้งตากับการจมจ่อมสายเบ็ดหย่อนลงบนผืนน้ำทะเลใต้ถุนเรือน เหยื่อปลาหมึกสดทำหน้าที่ ไม่นานปูตัวจ้อยก็ตอด ตอดๆ เด็กน้อยกระตุกสายเบ็ด

จ๋อม ..... 

ปูตัวจ้อยติดกับดักแต่ชะตายังไม่ถึงคาด สะบัดก้ามหล่นลงน้ำต่อหน้าต่อตา ท่ามกลางความเสียดายของสองสาวเพื่อนซี้

   

หลังจากคุยพัก ทักทายหลบร้อนกันสักพัก ฉันกับคุณป้าก็เดินกันต่อไปจนถึงบ้านของหมอนวดภูมิปัญญาชาวบ้านสปาญวน

“สปาญวน เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านอ่างใหญ่สืบทอดกันมา สปาญวนหรือการบำบัดอาการปวดเมื่อยด้วยขวดแก้วลนไฟ เชื่อมโยงประวัติศาสตร์องค์เชียงสือ กษัตริย์ญวนที่เคยลี้ภัยมาเกาะกูด เราก็ได้รื้อฟื้นความทรงจำและได้สร้างเตียงสปาที่ดัดแปลงมาจากเครื่องโบยนักโทษแบบโบราณเพื่อมอบประสบการณ์แปลกใหม่และดื่มด่ำกับการทำสปากลางทะเล เป็นอีกหนึ่งบริการสำหรับผู้มาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้

สำหรับผู้ที่สนใจ กิจกรรมต่างๆ สามารถติดต่อมาที่ป้า เบอร์โทร 062 8956693 ป้าก็จะบอกหมอคนญวนที่มาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพื่อทำให้ ค่าทำสปาญวนครั้ง 300 บาท โดยทำทั้งตัว  ต้องทำตอนเย็นหลังจากอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เพราะทำแล้วจะอาบน้ำไม่ได้ ผิวหนังจะปูดตามแรงดูดของแก้วที่ลนไฟ แต่ก็มีสมุนไพรคลึง หายปวดเมื่อยแต่รอยจะหายใช้เวลาห้าวัน”

.... ก็เอาเป็นว่า หากมาเยือนเกาะกูด ลองแวะมาเยี่ยมเยียนหมู่บ้านประมงแห่งนี้กันดู เพราะนอกจากเราจะได้รับประสบการณ์กับวิถีที่น่าสนใจแล้ว ยังถือเป็นการช่วยส่งเสริมกิจกรรมพื้นบ้านของชุมชนอีกด้วย เพราะที่นี่ก็มีร้านค้า ช้อปปิ้งเสื้อผ้า ร้านอาหารให้ลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ และกิจกรรมต่างๆ  

และก็ถึงเวลาไปต่อกันที่ น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาสเมื่อ พ.ศ.2454 ทรงพระราชทานนามว่า “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อระลึกถึงองค์เชียงลือ กษัตริย์ญวนที่เคยลี้ภัยมาที่เกาะกูดในสมัยรัชกาลที่ 1 และไปชมพระปรมาภิไธยย่อ “วปร” ของรัชกาลที่ 6 ที่จารึกไว้ที่ก้อนหินใหญ่ด้านหน้าน้ำตก

ใช้เวลาเดินจากลานจอดรถสู่น้ำตกเพียง 300 เมตร และทางค่อนข้างสะดวก มีเสื้อชูชีพเอาไว้บริการหากใครต้องการลงเล่นน้ำตก ดูจะเป็นน้ำตกที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจพอสมควร เห็นได้จากจำนวนที่เข้ามาเยือน

   



หลังจากนั้นก็เป็นช่วงเวลาพักผ่อนชิล ชิล นอนฟังสียงคลื่นริมหาดทรายขาว เอกเขนกอ่านหนังสือ หรือเล่นน้ำทะเลให้สดชื่น ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติช่วงอาทิตย์อัสดงกันอย่างเต็มที่

.........................................................................................................

วันสุดท้ายของการพักผ่อนบนเกาะกูด 

วันนี้แล้วซีนะ... สำหรับการพักผ่อนแบบ 3 วัน 2 คืน บนเกาะกูด เกาะสวรรค์ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่มากมาย

ที่นี่เหมาะสำหรับการเที่ยวในไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนในระยะเวลาอันสั้น แต่เพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายทั้งการเดินทางและที่พัก เพื่อให้การเที่ยวเมืองไทยเป็นตัวเลือก ของวันพักผ่อนสำหรับผู้หญิงทุกคน 

หลังอาหารเช้าที่ห้องอาหารริมทะเลของรีสอร์ท ยังมีเวลาให้ได้เดินเล่นเพื่อร่ำลาธรรมชาติก่อนเดินทางกลลับกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส

หากใครสนใจที่จะมาชาร์ทแบตพักผ่อน และได้รับการดูแลอย่างที่ Btripnews ได้รับ ....สามารถซื้อแพ็กเกจของโครงการผู้หญิงเที่ยวไทย 2017 : แพ็กเกจห้องพัก 3 วัน 2 คืน ที่ The Beach Natural Resort  Koh  Kood  หรือแพ็กเกจท่องเที่ยวอื่นๆ ของโครงการฯ คลิ๊กเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.budgetd.com/ผู้หญิงเที่ยวไทย2017 ตั้งแต่วันนี้ - สิงหาคม 2560

**สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีเที่ยวบินตรงจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ถึง สนามบินตราด ทุกวัน วันละ 3 เที่ยวบิน  

สุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) – ตราด           ตราด –สุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ)

PG 301 08.30 - 09.30                          PG 302  10.10-11.10 

PG 305 11.40 - 12.40                          PG 306  13.10-14.10

PG 307 17.00 - 18.00                          PG 308  18.30-19.30

ต้องการสอบถามข้อมูลโครงการผู้หญิงเที่ยวไทย 2017 เพื่อการประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม ที่บริษัท วิท แอนด์ วิสดอม จำกัด  โทร.02 652 0777-80  คุณปัทมา (แอน) 02 652 0777 -80 ต่อ 131 , 089 922 5397 ppoubon@yahoo.com

.... และอย่าลืม แชร์มาให้ชมกันบ้างนะคะ บ๊ายบาย ไว้พบกันใหม่ ทริปหน้ากับ ผู้หญิงเที่ยวไทย 2017  ในเดือนสิงหาคม ส่วนจะเป็นที่ไหนคงต้องติดตามกันต่อไป 

.........................................................................................................

The Beach Koh Kood 

www.thebeachkohkood.com

   

      

Khun . Malee Trongpradit

General Manager

Khun . Sompong Trongpradit

Area Operation and Purchasing

Khun . Radakarn Trongpradit

Asst.General Manager/Room Division Manager

Khun . Yanyong BaiKwang

Resort Operation Manager