คณะกรรมการตัดสินรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 11 ลงพื้นที่ นครพนม สกลนคร อุดรธานี

2-4 เมษายน 2560 – วิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตัดสินรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 11 ประจำปี 2560 (11th Thailand Tourism Awards 2017) หรือ รางวัลกินรี ททท. รายการนำเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศ (Domestic Tour) ร่วมเดินทางตามรายการทัวร์ที่ส่งเข้าประกวดเพื่อประเมินให้คะแนนตามเกณฑ์ของผลงานชื่อ “ตามรอยพระบาท นครพนม สกลนคร อุดรธานี” ทัวร์ 3 วัน 2 คืน เส้นทางจังหวัดนครพนม สกลนคร อุดรธานี ที่บริษัททัวร์นำเสนอ

   

 เริ่มต้นวันแรกด้วยการต้อนรับ ณ สนามบินนครพนม โดยมีมัคคุเทศก์มาต้อนรับ และนำขึ้นรถเริ่มต้นด้วยทัวร์เมือง (City Tour) จ.นครพนม เมืองแห่งความสุข “สุขที่สุด@นครพนม” บนถนนสุนทรวิจิตร เก็บภาพความประทับใจที่จุดถ่ายภาพริมฝั่งโขง “ฮอดแล้วเด้อนครพนม” และ ร่วมสักการะด้วยเครื่องบายศรีองค์ “พญาศรีสัตตนาคราช” (แลนด์มาร์คนครพนม)

หลังจากนั้น ชมพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) ก่อนนำคณะรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านสบายดี 13.00 น. เดินทางสู่พระธาตุพนม อ.พระธาตุพนม 15.00 น. ออกเดินทางสู่จังหวัดสกลนคร

ต่อมา ได้นำคณะเข้าชม “ครามสกล” ศูนย์รวมวิถีผ้าครามสำหรับคนรักผ้า ได้มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับต้นคราม การก่อหม้อ การย้อมคราม จนผลิตออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากผ้าจากผ้าย้อมคราม ซึ่งแนวทางของร้านก็เน้นที่การต่อยอดภูมิปัญญาผ้าครามของสกลนคร 18.30 น. นำคณะรับประทานอาหารค่ำในร้านท้องถิ่นแบบที่มีอาหารหลากหลายชนิดให้สั่งตามอัธยาศัยเหมือน street food แต่อยู่ภายในห้องแถว 3-4 คูหารวมกัน ชื่อร้าน “ครัว 11 พี่น้อง”

หลังจากนั้น นำชมวัดพระธาตุเชิงชุมวรมหาวิหาร ยามค่ำ และ ถนนคนเดิม ซึ่งเป็น Walking Street ที่ถนนผ้าคราม โดยออกจากวัดพระธาตุเชิงชุม ฯ ที่ตั้งอยู่ถนนเดียวกัน โดยที่นี่เป็นแหล่งผ้าครามตามชื่อจริง ๆ แต่ที่นี่จะเก็บร้านไม่ดึกมากประมาณทุ่มครึ่งก็ทะยอยเก็บของกลับบ้านกันแล้ว และนำคณะเข้าที่พัก โรงแรม เอ็มเจ มาเจสติก นครพนมเพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย ราตรีสวัสดิ์ พบกันใหม่

วันที่สอง เวลา 05.00 น. ร่วมกิจกรรมทำบุญใส่บาตรยามเช้า ก่อนรับประทานอาหารเช้า หลังจากนั้น ออกเดินทางไปยัง “ศูนย์การศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อรับฟังประวัติความเป็นมาของศูนย์,

และนำชมโครงการต่าง ๆ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยรถราง อาทิ ฝายชะลอน้ำตามรอยพ่อ, การพัฒนาดินและหญ้าแฝก, การสาธิตปลูกข้าวแบบโยนนา, การทำปศุสัตว์ พร้อมเลือกซื้อสินค้าผลผลิตจากโครงการ อาทิ ผ้าไหม ผ้าคราม ข้าวสาร ของฝากของที่ระลึก จากนั้นนำคณะชมวัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร เพื่อกราบสักการะเกจิอาจารย์ พระอาจารย์มั่น ภูริทัติโต ก่อนนำคณะไปรับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านสะบันงา

และต่อด้วยการเดินทางไปคำชะโนด ป่าคำชะโนด หรือ เมืองชะโนด หรือ วังนาคินทร์คำชะโนด ที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เป็นป่าที่มีลักษณะเหมือนเกาะที่โผล่ขึ้นอยู่กลางนาเต็มไปด้วยต้นชะโนด เป็นสถานที่ที่ปรากฎในตำนานพื้นบ้านที่เชื่อกันว่าเป็นที่สิงสถิตของพญานาค และสิ่งลี้ลับต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาจากประชาชนเป็นจำนวนมาก

แม้วันนี้เป็นวันจันทร์แต่ก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่มาสักการะด้วยเครื่องบายศรีต่อ “เจ้าปู่ศรีสุทโธนาคราช และ เจ้าย่าปทุมมานาคี” ซึ่งมีการจัดระเบียบการเข้าชม และต้องถอดฝากรองเทัาไว้ด้านนอกก่อนเดินตามเป็นแถวเข้าไปภายในที่เป็นเขตป่าประมาณ 100 เมตร ที่มีสะพานทางเดินเป็นคอนกรีต เวลา 15.00 น.

เดินทางต่อไปยัง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เพื่อไปเยี่ยมชมและผ่อนคลายกับการแช่เท้าในน้ำร้อนจากบ่อนาเกลือที่มีความมหัศจรรย์โดยใช้แรงดันน้ำเย็นจากถังเก็บน้ำลงมายังบ่อนาเกลือที่มีน้ำเย็นและดันน้ำจากบ่อในเวลาเดียวกันขึ้นมาเพื่อแช่ตัว หรือเท้า ที่กลายเป็นน้ำร้อนที่มีความร้อนถึง 50 องศาเซลเซียส อย่างน่าอัศจรรย์ ณ สปาบ้านกุญณภัทร

ซึ่งประโยชน์คือรักษาโรคต่าง ๆ และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งได้ ด้วยความโดดเด่นของสปาที่มาจากน้ำร้อนที่มีแร่ธาตุที่สามารถนำมาใช้ได้แบบแหวกแนวราคาค่าบริการไม่แพง และมีวัตถุดิบน้ำร้อนจากบ่อเกลือที่มีเฉพาะที่อำเภอบ้านดุง จ.อุดรธานี

   

ต่อจากนั้น เดินทางสู่ตัวเมืองจังหวัดอุดรธานี และรับประทานอาหารเย็น ณ ร้านบึงไม้หอม ก่อนนำเข้าที่พัก โรงแรมประจักษ์ตรา และพักผ่อนตามอัธยาศัย ราตรีสวัสดิ์ ในเช้าวันที่สาม รับประทานอาหารเช้าและเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก เดินทางมุ่งสู่ตำบลบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง หรือ แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO เมื่อปี พ.ศ. 2535 เป็นแหล่งทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทยที่จัดแสดงวิถีชีวิตมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปราว 5,600 ปี

และนั่งรถรางเทศบาลตำบลบ้านเชียงชมหลุมขุดค้นทางโบราณคดีวัดโพธิ์ศรีใน, ชุมชนไทยพวน (บ้านเชียง), ศูนย์เรียนรู้สิ่งทอและหัตถกรรมไทย (กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองเทศบาลตำบลบ้านเชียง), และหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry Village – CIV) “พวนคอลเลคชั่น”

หลังจากนั้น เดินทางกลับตัวเมืองจังหวัดอุดรธานี และรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน VT แหนมเนือง ต่อจากนั้น ได้นำคณะไปยังวัดโพธิสมภรณ์ (อยู่ตรงข้ามร้านวีทีแหนมเนือง) พระอารามหลวง ภายในวัดเป็นที่ตั้งของพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพนะบรมสารีริกธาตุ และ อัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโน และ ปูชนียวัตถุมหามงคลหลายชิ้น

เวลา 15.00 น. นำคณะเข้ากราบไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี และ ชมพิพิธภัณฑ์ไทย จีน อุดรธานี ที่บอกเรื่องราวประวัติความเป็นมาของชาวจีนที่เข้ามาทำการค้าขายในสมัยเริ่มแรกของจังหวัดอุดรธานีขนถึงปัจจุบัน ได้เวลาอันสมควรได้นำคณะออกเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติอุดรธานีเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร เป็นอันสิ้นสุดการให้บริการ