พาณิชย์จัดงาน e-commerce Big Bang : วิถีการค้าไทย สู่วิถีออนไลน์ เปิดเว็บ ‘ของดีทั่วไทย’ 

กระทรวงพาณิชย์ ขานรับนโยบายรัฐบาลจัดงาน e-commerce Big Bang : วิถีการค้าไทย สู่วิถีออนไลน์ เปิดตัวเว็บไซต์ ‘ของดีทั่วไทย’ รวบรวมผู้จำหน่ายสินค้าและบริการแล้ว 3,264 ร้านค้า สินค้าทั้งหมดจำนวน 5,786 รายการ เพิ่มช่องทางใหม่สำหรับธุรกิจที่พร้อมก้าวสู่โลกออนไลน์ รวมถึงมีพิธีลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) การจับมือครั้งยิ่งใหญ่ระหว่าง 33 หน่วยงาน เดินหน้าขับเคลื่อน e-Commerce ทั้งประเทศไทยไปพร้อมกัน


  

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในวันนี้ (17 พฤษภาคม 2561) กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จัดกิจกรรม e-Commerce : Big Bang วิถีการค้าไทย...สู่วิถีออนไลน์ ขึ้น ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์มีความตั้งใจที่จะส่งเสริมและสร้างขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการและวิสาหกิจมีธุรกิจที่แข็งแรงพร้อมก้าวสู่การเป็น Trading Nation บนฐานขององค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม 

กิจกรรมฯ ในครั้งนี้จึงตอบโจทย์ความตั้งใจดังกล่าว เพราะเราจะร่วมกันสร้างระบบนิเวศครบวงจร (Ecosystem) ให้กับธุรกิจและเพิ่มช่องทางการค้าผ่านรูปแบบ e-commerce สู่ผู้ประกอบธุรกิจฐานรากได้มีเครื่องมือการตลาดที่เชื่อมสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภคด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศและมูลค่าการส่งออกของไทยที่เพิ่มขึ้น เพิ่มอันดับการแข่งขันทางการค้าของชาติได้ตามเป้าหมายยุทธศาตร์ของกระทรวงที่ตั้งไว้

รมว. กล่าวต่อว่า “สำหรับงาน e-commerce Big Bang เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาสินค้าชุมชน Offline 2 Online (B2C) เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อย SMEs ที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ให้สามารถใช้เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โดยไฮไลท์ของกิจกรรมแบ่งเป็น 2 ช่วงสำคัญ คือ พิธีเปิดตัวเว็บไซต์ “ของดีทั่วไทย”(www.kongdeetourthai.com) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ผู้ประกอบธุรกิจสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ได้ด้วยตนเอง และเป็นช่องทางในการรวบรวมสินค้าและบริการจากทั่วประเทศ (e-Directory) การซื้อขายสินค้าและบริการจากร้านค้าออนไลน์ ผู้ใช้บริการสามารถค้นหาสินค้าและบริการผ่านระบบการปักหมุด Location ร้านค้าของดีทั่วประเทศไทยจากแผนที่ (Mapping) 

    



นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์รวมข้อมูลและเครื่องมือที่ผู้ประกอบการใช้ในการประกอบธุรกิจ (e-Portal) เช่น เครื่องมือทางการตลาด การตรวจสุขภาพเว็บไซต์ เพื่อนำไปพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์ การรวบรวมองค์ความรู้ และข่าวสารใหม่ๆ เป็นต้น ปัจจุบันมีร้านค้า ที่เข้าร่วมจำหน่ายสินค้าและบริการแล้วจำนวน 3,264 ร้านค้า มีสินค้าทั้งหมดจำนวน 5,786 รายการ โดยมีการจำหน่ายสินค้าประเภทเสื้อผ้าและเครื่องประดับ สินค้าออแกนิคและสมุนไพร และอาหารและเครื่องดื่ม มากที่สุดตามลำดับ”

“และพิธีลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent : LOI) ความร่วมมือการส่งเสริมช่องทางการตลาด e-Commerce แก่ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย จำนวน 33 หน่วยงาน อาทิ หน่วยงาน   ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานราชการ ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) ผู้ให้บริการขนส่ง (Logistics) และ ผู้ให้บริการชำระเงิน (e-Payment) เป็นต้น 

โดยมีวัตถุประสงค์ ใน 5 ด้านคือ 1)การให้คำปรึกษา แนะนำช่องทางตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) และพัฒนาองค์ความรู้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 2) การส่งเสริมและสร้างโอกาสทางการตลาดทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์อย่างครบวงจร 3) การร่วมมือประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ 4) การสร้างเครือข่ายระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้สามารถพัฒนาการขนส่งสินค้า (Logistics) และระบบชำระเงิน (Payment) ที่สามารถลดต้นทุนและสอดคล้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และ 5) การเชื่อมโยงข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผ่านการพัฒนาของกระทรวงพาณิชย์ กับตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) ภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์”

“กระทรวงพาณิชย์มุ่งมั่นที่จะผลักดันและยกระดับมาตรฐานคุณภาพของผู้ประกอบธุรกิจไทยให้เข้มแข็ง พร้อมที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแนวคิดด้าน “การค้าไทยสู่วิถีออนไลน์” จะเป็นโอกาสสำคัญทางการตลาดที่จะสร้างผู้ประกอบธุรกิจไทยให้เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจบนระบบดิจิทัล เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายโซ่อุปทานและกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง” รมว. กล่าวในท้ายที่สุด