“บิ๊กอู๋” Kick off เพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยฯ กว่า 6 แสนคน ตั้งเป้า 65 % มีงานทำ

รมว.แรงงาน แถลง Kick off โครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยฯ ฝึกช่างชุมชนและอาชีพอิสระตั้งเป้า 6 แสนคน มีงานทำ มีอาชีพ เพิ่มรายได้ ขับเคลื่อนไทยนิยมยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 




วันนี้ (23 พ.ค.61) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธี Kick off โครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และความมั่นคงในชีวิต ณ บริเวณ บริเวณห้องแซฟไฟร์ 204 - 206 อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 

โดยกล่าวว่า โครงการนี้รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะสร้างงานให้กับผู้มีรายได้น้อยกว่า 600,000 คน ภายใต้งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเดือนกันยายน 2561 จำนวน 56 หลักสูตร อาทิ สาขาช่างชุมชน ก่อสร้าง การทำอาหาร เย็บผ้า ทำดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น โดยจะใช้สถานที่ที่ได้บูรณาการกับหน่วยงานในระดับชุมชน ระดับอำเภอในการฝึก









นอกจากนี้ ยังได้สัมมนาผู้บริหารการฝึกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ สำนักงาน ป.ป.ช. เป็นต้น เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางที่ถูกต้องและมีกลไกในการตรวจสอบได้ โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานวางระบบในการใช้จ่ายงบประมาณของพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้มีความโปร่งใสมากที่สุด


พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวต่อว่า โครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยฯ เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตามแนวทางประชารัฐ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถานประกอบการที่จะต้องมีส่วนร่วมในการสร้างโอกาสให้แก่ผู้มีรายได้น้อยได้ประกอบอาชีพ โดยจัดหางานให้ทำ ส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน และฝึกทักษะอาชีพ ตลอดจนเข้าไปคุ้มครองแรงงาน 

และส่งเสริมการเข้าสู่ระบบประกันสังคม การดำเนินโครงการนี้จะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยได้อย่างแท้จริงและเห็นผลเป็นรูปธรรม ซึ่งรัฐบาลต้องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยอย่างยั่งยืน



สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ มีบุคลากรของกระทรวงแรงงานกว่า 700 คน เข้าร่วมเพื่อรับทราบนโยบาย แนวทาง และขั้นตอนการดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการฯ โดยมีประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/คน/ปี จำนวน 625,120 คน ที่จะดำเนินการใน 2 กิจกรรม ได้แก่ 1) กิจกรรมการส่งเสริมและฝึกอาชีพหลักสูตรฝึกอาชีพเร่งด่วนช่างอเนกประสงค์ (ช่างชุมชน) 








มีเป้าหมายดำเนินการ 81,000 คน โดยผู้ผ่านการฝึกสามารถปฏิบัติงานซ่อมไฟฟ้า ประปา ประตูหน้าต่างผนัง - กระเบื้องได้ พร้อมทั้งมอบเครื่องมือประกอบอาชีพให้แก่ผู้สำเร็จการฝึกด้วย และ 2) กิจกรรมการฝึกอาชีพเสริมเพื่อการมีงานทำหรือการประกอบอาชีพอิสระ มีเป้าหมายดำเนินการ 544,120 คน

“การดำเนินงานในทุกขั้นตอนจะต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยมีกลไกการตรวจสอบจากทุกภาคส่วน และเกิดประโยชน์สูงสุด ตั้งเป้าประชาชนผู้มีรายได้น้อยกว่าร้อยละ 65 มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้เพิ่ม”
พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวในท้ายสุด