อิมแพค จัดต่อเนื่อง งาน BEYOND BEAUTY ASEAN BANGKOK ครบเครื่องเรื่องธุรกิจความงาม

อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น และ อินฟอร์ม่า เอ็กซิบิชั่น ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย พร้อมจัดงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok 2018 ในปีนี้ได้แบ่งการจัดแสดงสินค้าออกเป็น 2 ประเภท คือ BBAB Finished Products” และ “BBAB Supply Chain” จากผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 850 บริษัททั่วโลก อาทิ ประเทศเกาหลี, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, ไทย, ไต้หวัน, จีนและยุโรป เป็นต้น เพื่อจะนำสินค้าที่ดีที่สุด และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาจัดแสดง 

พร้อมนำทัพผู้ประกอบการไทยมาจัดแสดงสินค้าในโซน “Beauty Made in Thailand” เสนอความภูมิใจในการชูเอกลักษณ์ในผลิตภัณฑ์ไทย ให้ไปไกลในตลาดโลก ในที่ 20 – 22 กันยายน 2018 ณ อาคาร 5 – 8 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 18,000 ราย และนัดเจรจาธุรกิจกว่า 1,800 นัดหมาย เงินสะพัดในงานกว่า 1.8 พันล้านบาท


มร. ลอย จุน ฮาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “ย้อนไปในปี 2557 อิมแพ็ค ร่วมกับพันธมิตร อินฟอร์ม่า ผนึกกำลังจัดงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok (BBAB) ขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตที่น่าภาคภูมิใจของการจัดงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือระหว่างองค์กรที่มีศักยภาพในการจัดงาน BBAB 2018 ให้เกิดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุด งาน BBAB ครั้งที่ 5 นี้ ยังคงรวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรมความงามจากทั่วโลก เพื่อใช้งาน BBAB เป็นเวทีกลางในการอัพเดทเทรนด์ความงามและเครื่องสำอาง พร้อมทั้งเจรจาธุรกิจ สร้างเครื่อข่ายธุรกิจ สำรวจตลาด และแลกเปลี่ยนความรู้จากการประชุม สัมมนา และเวิร์คช็อป

โดยเพิ่มความเข้มข้นในการแบ่งการจัดแสดงสินค้าออกเป็น 2 ประเภท คือ BBAB Finished Products” โซนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และเครื่องสำอางสำเร็จรูป และ “BBAB Supply Chain” โซนอุปกรณ์ เครื่องมือ บรรจุภัณฑ์ พร้อมบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 850 บริษัทจากทั่วโลก อาทิ ประเทศเกาหลี,  โปร์แลนด์, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, ฟินแลนด์, ญี่ปุ่น, ไทย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ไต้หวัน และจีน 

อีกทั้งยังมีพาวิลเลี่ยนจากหลายประเทศที่มาร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีคุณภาพแก่ตลาดอาเซียน พร้อมสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญ และประตูสู่ตลาดความงามและเครื่องสำอางของอาเซียน ซึ่งคาดว่างาน BBAB จะดึงดูดผู้เข้าชมงานและผู้ซื้อคนสำคัญได้กว่า 18,000 รายทั่วโลก และมีนัดหมายเจรจาธุรกิจมากกว่า 1,800 นัดหมายโดยมีเงินสะพัดในงานกว่า 1.8 พันล้านบาท”


ด้วยความร่วมมือกับผู้นำด้านความงามและเครื่องสำอางจากประเทศเกาหลีที่ดีเสมอมา ในปีนี้คณะผู้จัดงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สาธารณรัฐเกาหลี ทั้งนี้เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย, คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย และสมาคมเครื่องสำอางประเทศเกาหลี ให้เกียรติเข้าร่วมชมบูธแสดงสินค้าจากประเทศเกาหลีในงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok กว่า 150 บริษัท 

ซึ่งสนับสนุนโดย สำนักงานส่งเสริมการลงทุนและการค้าระหว่างประเทศของเกาหลี (KOTRA) และยังส่งผู้นำเทรนด์จากประเทศเกาหลี ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ เรื่องเทรนด์ความงามสไตล์เกาหลีใหม่ล่าสุด ผ่านสัมมนาให้ความรู้ในหัวข้อ “All about K-beauty Conference” และ “Korean Beauty Influencer Demonstration” มิสเตอร์ลอย จุน ฮาว กล่าวเสริม


นางสาวกนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) กล่าวว่า ทีเส็บ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok อีกครั้ง หลังจากในปี 2017 ได้ให้การสนับสนุนงานจนสามารถเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมงานได้ถึง 35% เมื่อเทียบกับปี 2016 และมีการเจรจาธุรกิจมากกว่า 2,000 ราย ส่วนการสนับสนุนของทีเส็บในปีนี้สอดคล้องกับนโยบายให้การสนับสนุนงานแสดงสินค้านานาชาติที่

เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนอุตสาหกรรม S-Curve ในนโยบาย 4.0 ของภาครัฐ การสนับสนุนของทีเส็บและงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok จะมีส่วนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือ Health Tourism ของนโยบาย 4.0  และแสดงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมความงามของภูมิภาคอาเซียน




นางเกศมณี เลิศกิจจา รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง กล่าวว่า “ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชั้นนำของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยได้แสดงศักยภาพให้หลายแบรนด์ดังระดับโลกตระหนักแล้วว่า เราเป็นศูนย์กลางการผลิตที่แท้จริงของภูมิภาคนี้ ในส่วนของ Beauty Made in Thailand ที่จัดขึ้นภายในงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok ในปีนี้นั้น ผู้ผลิตของไทยจะได้นำเสนอความสามารถในการผลิต ชูเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่มีมนต์เสน่ห์ที่โดดเด่นและบริการที่ผลิตในประเทศให้ปรากฎต่อสายตาโลกได้เด่นชัดยิ่งขึ้น โดยรวบรวมแบรนด์ด้านความงามและเครื่องสำอาง อุปกรณ์ด้านการแพทย์เพื่อความงาม อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ออแกนิค คาดว่าจะมีผู้ซื้อกว่า 120 รายจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย ร่วมเยี่ยมชมสินค้า เมด อิน ไทยแลนด์”



นายธนวัฒน์ เรืองเทพรัชต์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทย (inFASH) กล่าวว่า “สถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทยหรือ inFASH เป็นสมาชิกในองค์กรกลางชื่อ อินเตอร์คัลเลอร์ ผู้ดำเนินการจัดการประชุม INTERCOLOR เวทีที่ประเทศชั้นนําด้านการออกแบบของโลก เพื่อคาดการณ์แนวโน้มสีวัสดุและเทรนด์การออกแบบในอนาคต ล่วงหน้า 24 เดือน เพื่อเป็นแนวทางและแรงบันดาลใจของการออกแบบในหลายอุตสาหกรรม และด้วยองค์ความรู้เหล่านี้สถาบันฯ จึงเข้าร่วมในงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok อย่างต่อเนื่อง โดยจัดสัมมนาในหัวข้อ ”Beyond Beauty Trends Conference” ร่วมถ่ายทอดความรู้เรื่องสี วัสดุ และเทรนด์ในอนาคต จากผู้เชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิในแวดวงอุตสาหกรรมแฟชั่นและความงาม”







โดยภายในงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok 2018 จัดให้มีกิจกรรมใหม่ อาทิ Hair Technician Workshop และ Salon Management Workshop เพื่อตอบโจทย์ช่างทำผม และเจ้าของร้านเสริมสวย และในโซน "BBAB Supply Chain" มีกิจกรรม OEM workshop และ New Packaging Technology Conference  สำหรับผู้ผลิต ทุกแบรนด์ 

นอกจากนี้ยังมีการสัมมนาเพื่อธุรกิจค้าปลีกแห่งอาเซียน ครั้งที่ 2 (ASEAN Retail Conference) สัมมนา BBAB เทรนด์ ครั้งที่ 4 (BBAB Trends Conference) และการแข่งขันสักคิ้วและขนตาเพื่อความงาม (Semi-permanent Makeup) ครั้งที่ 2 สัมมนาเชิงวิชาการเกี่ยวกับเทรนด์เครื่องสำอางในตลาดเอเชียที่กำลังเติบโต ได้แก่ประเทศ จีน ไทย และอินโดนีเซีย เป็นครั้งแรก เพื่อเป็นประโยชน์แก่อุตสาหกรรมเครื่องสำอางทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียและกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจในกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพสูงกว่า 200 ราย จากประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย พม่า สิงค์โปร และมาเลเซีย เป็นต้น


นายตรัย เต็งพงศธร ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท วรินดา อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด เปิดเผยว่า จากเมื่อต้นปีที่มีการเปิดตัวมาส์กหน้าลายรามยณะ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากด้วยคุณสมบัติ และบรรจุภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ เห็นได้จากมีการติดต่อจากผู้ซื้อในประเทศแคนาดา และอินโดนีเซีย ติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่าย และยังมีฮ่องกง และสิงคโปร์ที่อยู่ในช่วงรอดำเนินการ หลังจากส่งสินค้าไปให้ทดลองใช้




และตอนนี้มีการเปิดตัวสินค้าเป็นมาส์กหน้าชุดสวัสดี เป็นผลิตภัณฑ์ต่อยอดจากชุดรามยณะ โดยชุดสวัสดีจะไม่เน้นการพิมพ์ลาย แต่จะเน้นเรื่องกลิ่นของดอกไม้ไทย คือ กลิ่นลีลาวดี ดอกกระดังงา ดอกมะลิ และดอกพุด ส่วนบรรจุภัณฑ์จะเน้นที่เอกลักษณ์ความเป็นไทย เช่น นักมวย ช้าง นางรำ รถตุ๊กตุ๊ก ทั้ง 2 ซีรี่ย์นี้จะเน้นไปที่ตลาดต่างประเทศ และส่งขายที่ 7-Eleven รวมทั้งในโครงการ 24 Shopping ของจีนที่มีประมาณ 600 สาขา ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ซึ่งแบ่งสัดส่วนตลาดในประเทศเป็น 50% และต่างประเทศ 50%



สำหรับตลาดในประเทศไทย มีมาส์กหน้าที่เป็นซีรี่ย์เจ้าหญิง ซึ่งวางขายมา 2 ปีแล้ว และกำลังจะเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ แล้วยังมีลาย ดีสนีย์ ซานริโอ้ และการ์ตูนเน็ทเวิร์ค ที่จะเน้นเรื่องราคา และเน้นประสิทธิภาพของสินค้าเป็นหลัก เพราะในตลาดจีนจะเน้นไปที่เรื่องความชุ่มชื้น มอยเจอร์ไรซ์ซิ่ง ด้วยสภาพผิว และสภาพอากาศ ที่จ่างจากคนไทย แต่เป็นประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว ไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะ ต้องดูดซึมง่าย ช่วยเรื่องสิว สารกันแดด และราคา โปรโมชั่นที่ทำให้ลูกค้าคนไทยได้การตอบรับค่อนข้างดี โดยลูกค้าหลักของเราคือ Watsons ที่มีสาขากว่า 500 สาขา และเติมโตขึ้นเรื่อยๆ โดยชั้นวางมาส์กหน้าค่อนข้างใหญ่ ซึ่งจะมีสินค้าของเราเกือบ 30%

เทรนด์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว มาส์กหน้า ถือว่าครองอันดับ 1 เนื่องจากใช้ง่าย ผู้บริโภคเข้าใจสินค้ามากขึ้น และมีตัวเลือกในตลาดเยอะขึ้น แผ่นมาส์กหน้าถือเป็นแฟชั่นที่มาเร็ว ไปเร็ว เราจึงวางแผนว่าจะให้มาส์กแต่ละแบบอยู่ในตลาดไม่เกิน 2 ปี ในกลุ่มลูกค้าคนไทย และจะนำเสนอมาส์กที่ได้รับการพัฒนาสูตรให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาทิ ฝ้าย ใยสังเคราะห์ กระดาษไฮโดรเจล และถ้ามาส์กตัวไหนขายดี ก็จะขยายไลน์สินค้าออกไปเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพิ่มอีกด้วย เรายังวางแผนจะเปิดโรงงานเองในปี 2562 เพื่อแก้ข้อจำกัดในการรับผลิตสินค้า OEM หลังจากตั้งโรงงานแล้ว เราจะมีฐานการผลิตที่อยู่ในประเทศไทย และเกาหลี ส่วนมากชาวต่างชาติ จะชอบสินค้าที่ Made in Thailand เพราะมีความมั่นใจว่าสินค้าไทยค่อนข้างมีคุณภาพ




และในปีนี้ทางบริษัทยังเข้าร่วมแสดงสินค้าในงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok 2018 เป็นครั้งแรก ด้วยความมั่นใจในศักยภาพ และประสบการณ์ที่เริ่มมาจากผู้กระจายสินค้าและรับรู้ปัญหาต่างๆ และมีวิธีแก้ปัญหา รวมทั้งมีโรงงานที่มีศักยภาพสูงที่ผลิต มาส์กหน้าเบอร์ 1 ของประเทศเกาหลี 

นายนพดล เรืองศรี ประธาน บริษัท เรย์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า “ก่อนจะมาเป็น เรย์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป เคยผ่านมาแล้วหลายกิจการทั้งด้านสื่อมวลชน อสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเริ่มคิดที่จะทำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่ต่อยอดประโยชน์จากแหล่งน้ำแร่เย็น ในตำบลแม่ลาว จังหวัดเชียงราย และสมุนไพรไทย จึงเริ่มต้นจากมาสก์หน้า โดยมีผลิตภัณฑ์ 2 ตัวคือ มาสก์หน้าสีทอง ที่มีส่วนผสมทองคำบริสุทธิ์ ช่วยเรื่องยกกระชับรูขุมขุน ปรับให้ผิวหน้ากระจ่างใส ส่วนมาสก์หน้าสีเงินเหมาะสำหรับคนทำงานที่โดนแดด ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวได้ดี



เริ่มขายผ่านทางช่องทางกรุ๊ปทัวร์ และหนังสือนำเที่ยวของเพื่อน ต่อมาเน้นกลุ่มลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ซึ่งซื้อกลับไปเป็นของฝากกันจำนวนมาก จึงเกิดความคิดที่จะไปเปิดตัวสินค้าที่ประเทศจีน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ติด 1 ใน 10 ท็อปแบรนด์ไทยที่ประสบความสำเร็จในประเทศจีน มีตัวแทนขายที่ประเทศจีนกว่า 2-300 คนต่อมณฑล และยังไปออกงานแสดงสินค้าด้านความงามทั้งในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง โดยเฉพาะประเทศจีนที่ไปเกือบทุกมณฑล ส่วนในประเทศไทยเน้นวางขายตามสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ เยาวราช ห้วยขวาง เอเชียทีค สวนนงนุช ตลากน้ำ 4 ภาค เป็นต้น ขายดีที่สุดจะเป็นทางภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย เพราะคนจีนไปเที่ยวกันเยอะ รวมทั้งจังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ภูเก็ต หาดใหญ่อีกด้วย แต่ยังไม่มีแผนนำสินค้าเข้าไปขายในร้านสะดวกซื้อ แต่มีวางขายตามร้านวัตสัน, อีฟแอนด์บอยร้าน, ห้างเซ็นทรัลภูเก็ต, ห้างเมญ่าเชียงใหม่, บิ๊กซี ราชดำริ และร้านออนไลน์ เช่น ลาซาด้า เป็นต้น ในอนาคตยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกหลายตัว โดยยังใช้น้ำแร่เย็นเป็นจุดแข็งเช่นเดิม



สัดส่วนการส่งออกมาร์ก ไปที่ประเทศจีน 90% และประเทศอื่นๆ ในอาเซียนอีก 10% คือ ประเทศพม่า และเวียดนาม ซึ่งจะวางขายอยู่ตามดิวตี้ฟรี คิงพาวเวอร์ โดยตอนนี้เตรียมตัวที่จะนำสิงค้าไปเปิดตัวในตลาดโลก ผ่านตัวแทนจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่กำลังดำเนินการขออนุญาตนำเข้าสินค้า

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจทำธุรกิจกับตลาดต่างประเทศ อย่างเช่นประเทศจีน เคล็ดลับคือ การรักษาคุณภาพอยู่ตลอดเวลา ผลิตภัณฑ์ต้องดีจริง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งราคาไม่สูงมาก สามารถจับต้องได้ การพัฒนาสินค้าต้องคำนึงถึงหลักความเหมาะกับประเทศนั้นๆ ด้วย




นอกจากทำตลาดในประเทศจีนแล้ว Ray ยังสนับสนุนหลักในการจัดงานความงามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเอเชีย คืองาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok 2018  และในบ่ายวันที่ 20 กันยายน จะเปิดตัวการประกวดมิสเรย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำปี 2561 จะคัดเลือกตัวแทนจากทั่วทุกภาค เพื่อเป็นตัวแทนไปร่วมประชาสัมพันธ์สินค้าทั้งในและต่างประเทศ”

ด้านนางสาวชนุพร บุญนิล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ เนเชอรัล บิวตี้ แอนด์ คอสเมติก(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท เนเชอรัล บิวตี้ แอนด์ คอสเมติก(ประเทศไทย) จำกัด มีสินค้าอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ผลิตภัณฑ์ทำสีผม ที่มีเฉดสีมากกว่า 50 เฉดสีแบรนด์ Farger Thailand ที่สามารถเขย่าวงการสีผมได้ด้วยยอดขายหลายล้านกล่องต่อปี และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มบำรุงผิวหรือสกินแคร์ ภายใต้แบรนด์เลอสกิน (Le’SKIN) ที่ปล่อยผลิตภัณฑ์ชุดแรก คือ สเนล ซีรี่ย์ ที่มีส่วนผสมหลักจากเมือกหอยทาก และผลิตภัณฑ์ชุดที่สอง เป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำนม หรือแฮปปี้มิลค์ ซีรี่ย์ ซึ่งมีโฟมล้างหน้า ครีมบำรุงผิวหน้า แผ่นมาส์ก น้ำแร่ ครีมอาบน้ำ และโลชั่นบำรุงผิวกาย ตอบโจทย์การบำรุง และดูแลผิวอย่างครบวงจร อีกทั้งยังเป็นผู้ผลิต OEM มาส์กหน้าและสกินแคร์อื่นๆให้กับลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศ โดยมีแบรนด์ในประเทศไทย 4-5 แบรนด์ และกำลังจะขยายสู่แบรนด์จีน ด้วยโรงงานที่ได้รับมาตรฐาน GMP ที่เสมือนเป็นการสร้างมาตรฐานความไว้วางใจให้กับผู้บริโภค



แบรนด์ เลอสกิน ในประเทศไทยค่อนข้างทำตลาดได้ดี จึงต่อยอดด้วยการบุกตลาดจีน จนสเนล ซีรี่ย์ เป็นที่รู้จักและสร้างยอดขายได้ระดับหนึ่ง ต่อมาจึงส่งแฮปปี้มิลค์ ซีรี่ย์ เข้าสู่ตลาดจีน ก็เริ่มขายดีและมีชื่อเสียงในประเทศจีน มีตัวแทนจำหน่าย มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดทุกปี ลูกค้ารู้จักมากขึ้น  อีกทั้งยังมี บล็อกเกอร์ ชาวจีนท่านหนึ่ง เข้ามาในท่องเที่ยวในประเทศไทย และซื้อเลอสกินจาก 7-ELEVEN และ King Power กลับไปทดลองใช้ แล้วนำไปรีวิว และยังได้ซื้อแผ่นมาสก์หน้าน้ำนม กับโฟมล้างหน้าน้ำนมไปรีวิวเพิ่มเติมอีก ว่าสินค้าใช้แล้วดีจริง ส่งผลให้ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขพุ่งขึ้นเป็นอย่างมากสำหรับลูกค้าชาวจีน



ส่วนตลาดในประเทศไทยมียอดขายที่ดี เนื่องจากมีการกระจายสินค้าเข้าไปตามร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-ELEVEN, Family Mart และ King Power เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการเลือกซื้อมากยิ่งขึ้น ลูกค้าในประเทศจึงมีสัดส่วนอยู่ที่ 70% ต่างประเทศ 30% และปีนี้เราก็ยังคงทำตลาดในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจะร่วมออกแสดงสินค้าในงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok 2018 เป็นครั้งที่ 2 โดยจะขนสินค้าทั้งซีรี่ย์เริ่มแรกเป็นซีรี่ย์หอยทาก ซีรี่ย์น้ำนม และจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่คัดสรรสุดยอดสารสกัดธรรมชาติ มาพัฒนาเป็นซีรี่ย์ใหม่ของเลอสกิน สัมผัสนวัตกรรมความงามจากธรรมชาติพร้อมรับของที่ระลึกได้ที่งาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok 2018 



ทั้งนี้ภายในงาน Beyond Beauty ASEAN Bangkok 2018 ยังได้จัดแสดงนวัตกรรม และเผยแพร่เทคนิคในการผลิตสินค้าและการทำการตลาดที่น่าสนใจจากหลากหลายผู้แสดงสินค้า อาทิ บริษัท เรย์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด บริษัท เดอะ เนเชอรัล บิวตี้ แอนด์ คอสเมติก (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท วรินดา อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด เป็นต้น โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 กันยายน 2561 ณ อาคาร 5 – 8 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.beyondbeautyasean.com