“ตามรอยเสด็จ พระพุทธเจ้าหลวง”

16 พฤษภาคม 2560 - ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตัดสินรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 11 ประจำปี 2560 (11th Thailand Tourism Awards 2017) หรือ รางวัลกินรี ททท. รายการนำเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวในประเทศ (Domestic Tour) ร่วมเดินทางตามรายการทัวร์ที่ส่งเข้าประกวดเพื่อประเมินให้คะแนนตามเกณฑ์ของผลงานชื่อ "ตามรอยเสด็จ พระพุทธเจ้าหลวง" ทัวร์ 1 วัน ณ จังหวัดระนอง ที่บริษัททัวร์นำเสนอ ด้วยการต้อนรับนักท่องเที่ยว ณ จุดนัดหมายหรือโรงแรมที่นักท่องเที่ยวพัก

โดยมัคคุเทศก์จากบริษัททัวร์ นำรถสองแถวไม้ท้องถิ่นมารับ และเริ่มต้นทัวร์หลังจากตรวจลงทะเบียนผู้ร่วมเดินทางเรียบร้อยแล้ว นำคณะไปยังจุดท่องเที่ยวแรกคือป่าชายเลนกลางเมืองระนอง ภายใต้การดูแลของสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 และทำกิจกรรมเก็บขยะระหว่างนำชม จุดท่องเที่ยวต่อมาคือ พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)

   

ก่อนเดินทางต่อไปชม "บ้าน 100 ปี เทียนซือ - แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมของชุมชน" แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่เพิ่งเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ก่อนจะนำคณะไปรับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านข้าวหอม หลังจากนั้น นำไปแช่เท้าเพื่อสุขภาพที่ บ่อน้ำร้อนสวนสาธารณะรักษะวาริน หรือจะนอนที่ลานในร่มที่มีน้ำร้อนใต้ดินแผ่ความร้อนขึ้นมาอบตัว 

ต่อมานำไปแวะเยี่ยมชม "อดีตจวนเจ้าเมืองระนอง และอาคารซินจู๊" ที่ชาวระนองเรียกทั่วไปว่า "ในค่าย" และฟังการบรรยายประวัติเมืองระนอง...และมาถึงไฮไลท์ของทัวร์คือล่องเรือตามรอยเสด็จ พระพุทธเจ้าหลวง (รัชกาลที่ 5) โดยไปยังท่าเรือประภาคาร (ศุลกากร) ลงเรือ เดอะรอยัลอันดามัน ที่ให้บริการลักษณะ ล่องชมวิวทิวทัศน์และรับประทานอาหารค่ำหรือ Dinner Cruise ที่ประยุกต์จากเรือประมง ให้บริการวันละ 1 รอบ ตั้งแต่เวลา 16.00-20.00 น. รวม 4 ชั่วโมง 

เริ่มต้นจากท่าเรือประภาคาร ล่องชมวิวทิวทัศน์และผ่านชมเกาะต่าง ๆ ได้แก่ เกาะสะระนีย์ (เกาะผี), ปากน้ำระนอง, ปากคลองสะพานปลา, ปากอ่าวระนอง สู่ทะเลอันดามัน ผ่านชมเกาะเหลา, เกาะสน, เกาะหม้อ, เกาะไร่, เกาะสินไห ทั้งนี้ ในระหว่างเริ่มการล่องเรือออกมาจากท่าเรือประภาคารสู่ทะเลนี้ ได้มีบริการเครื่องดื่ม Welcome Drink กับผลไม้ และชุดแต่งกายออกสไตล์ชาวเพอรานากัน (Peranakan) หรือการแต่งกายผสมผสานจีนกับมลายูเข้าด้วยกัน แบบย่อม ๆ พอให้ได้บรรยากาศใกล้เคียง เพื่อให้ถ่ายรูป และเคล้าเคลียไปกับเสียงเพลงของนักร้องกับกีต้าร์โปร่งที่เล่นอยู่ด้านหน้าหัวเรือชั้น 2 ที่ให้ความเพลิดเพลินร่วมไปกับบรรยากาศทะเล สายลม และแสงแดดอ่อน ๆ และเลือกเครื่องดื่มอื่น ๆ เพิ่มเติมตามอัธยาศัย



จนถึงเกาะช้าง จุดผ่านชมสุดท้ายก่อนหันหัวเรือกลับ ประจวบกับเวลา18.00 น. ที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน และได้เวลาเช่นกันกับอาหารค่ำแบบซีฟู้ดที่เริ่มด้วยกุ้งค๊อกเทล-สลัดผัก, ปูม้าและปลาหมึกแบบ นึ่ง ปิ้ง ย่างกับน้ำจิ้มรสเลิศ ก่อนปิดท้ายด้วยหมี่ฮกเกี้ยน "ลอหมี่ปู" จานน้อย (ราดด้วยน้ำข้นคล้ายราดหน้า) และขนมน้ำ (เชื่อม) หอม "ลอดช่องแก้ว" แบบท้องถิ่น 

จนเสร็จสิ้นรายการอาหารค่ำ ต่อมา ได้มีกิจกรรมลอยกระทงจากกะลามะพร้าวพร้อมจุดเทียนและกลีบดอกไม้ลงสู่ทะเลโดยอธิษฐานเพื่อขอขมาพระแม่คงคา และขอพรที่ดีสู่ชีวิต ปิดท้ายด้วยกิจกรรมเข้าจังหวะเพื่อสุขภาพกับพิธีกรประจำเรือที่ทำหน้าที่ให้บริการและอำนวยความสะดวกตลอดการล่องเรือจนถึงท่าเรือประภาคารในเวลา 20.00 น. และมัคคุเทศก์นำส่งนักท่องเที่ยวตามจุดนัดหมายเดิม โดยสวัสดิภาพ

 วิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ รายงาน