เมื่อปลายเดือนเมษายน บีทริปนิวส์ มีโอกาสได้ร่วมเดินทางไปกับ คณะคาราวาน แรลลี่ More Fun สีสันตะวันออก เฉลิมพระเกียรติ นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ททท.และชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในสายตะวันออก
งานเริ่มด้วยการปล่อยตัว คาราวาน จาก บริเวณที่จอดรถ สยามนิรมิต โดยคุณธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านสื่อสารการตลาด ก่อนคณะคาราวานจะเริ่มมุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรปราการ
โดยสถานที่แรกที่คณะเข้าเยี่ยมชม คือพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ตำบล ปากน้ำ ปัจจุบันเดินทางได้สะดวกโดยลงสถานีรถไฟฟ้าได้เลย พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแบบพิเศษ รวบรวม อนุรักษ์ วัตถุพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โบราณสถานและโบราณคดีที่เกี่ยวกับกิจการทหารเรือ
การจัดแสดงวัตถุพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ แบ่งเป็นการจัดแสดงกลางแจ้ง อาคาร 1 และอาคาร 2
การจัดแสดงกลางแจ้ง เป็นการจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ขนาดใหญ่ จัดตั้งยอู่บริเวณพื้นที่กลางแจ้งบริเวณสนามหญ้าด้านหน้าของตัวอาคารโดยรอบ เช่น เรือดำน้ำ เรือ PBR เครื่องบิน ปืนใหญ่โบราณ รถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ปืนล้อสนาม รถหุ้มเกราะ
การจัดแสดงอาคาร 1 เป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 ชั้น 1 จัดแสดง เป็นห้องเทิดพระเกียรติ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ห้องเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ห้องสรรพาวุธ
อาคาร 2 ชั้น 2 จัดแสดงเรือพระราชพิธี การจัดกระบวนเรือพระราชพิธี เรือสำคัญ เช่น เรือพระที่นั่ง สุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ เป็นต้น รวมทั้งครุฑหัวเรือ ที่ทำจากไม้ขนาดใหญ่ ซึ่งปลดประจำการนำมาจัดแสดงให้ได้ชมกันที่นี่
สนใจเข้าชมได้ทุกวัน เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00-15.00 น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม
หลังจากใช้เวลาสักพัก เราก็ไปกันต่อ โดยสักการะเทพเจ้า 5 พระองค์ ณ มูลนิธิธรรมกตัญญู ( เสียนหลอไต้เทียนกง) ภายในเป็นสถานที่ที่ประดิษฐานเทพเจ้า 5 องค์ อู๋ฟู่เซียนส้วย ประกอบด้วย ตระกูลหลี่ “หลี่ต้าเลี่ยง” ตระกูลฉือ “ฉือมุ่งเปียว” ตระกูลอู๋ “อู๋เสี้ยวควาน” ตระกูลจู “จูซู๋ยื้อ” ตระกูลฟ้าน “ฟ้านเฉินเยอะ”
จุดเด่นของที่นี่คือสิงโตคู่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แกะสลักจากหินหยกเขียวนำเข้าจากประเทศจีนรูปแบบของศาลมาจากมูลนิธิหนานคุณเซินไต้เทียนฟู่ของประเทศไต้หวัน หลังคาประดับด้วยสัตว์มงคลตามความเชื่อของชาวจีนทั้งหงส์และมังกร รวมถึงเรื่องราวความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวจีนโบราณ
เรียกว่าเมื่อก้าวเข้าสู่ภายในสถานที่แห่งนี้มีมุมให้ตื่นตาตื่นใจกับความอลังการของสถานที่มากมาย
เราใช้เวลาเก็บภาพกันที่นี่นานพอสมควร ก่อนจะเดินทางไปต่อที่ เมืองโบราณ ที่นี่แม้จะเคยเข้ามาหลายหน แต่ทุกครั้งก็มักจะเห็นความเปลี่ยนแปลงจากการเพิ่มเติมสิ่งก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา นับเป็นพิพิธภัณฑ์จำลองสถานที่ในประเทศกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยมีเนื้อที่มากกว่า 800 ไร่ เมืองโบราณตั้งอยู่ติดถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2506 โดยคุณเล็ก วิริยะพันธุ์ นักธุรกิจเจ้าของบริษัท วิริยะประกันภัยและเครือธนบุรีพานิช เมืองโบราณเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 ด้วยลักษณะที่ดินมีผังบริเวณคล้ายรูปขวานเหมือนกับ อาณาเขตของประเทศไทย จึงจดวางสถานที่ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรที่สำคัญของประเทศในทุกภาคให้ตรงกับผังที่ดินเมืองโบราณ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคอีสาน
รถรางสองคันพร้อมสำหรับคณะใหญ่ของเรา โดยขับขี่ลัดเลาะ ระเรื่อย ไปเยี่ยมชมโบราณสถานสำคัญในแต่ละภาค จอดบ้างสำหรับบันทึกภาพ นอกจากนี้ยังมีส่วนสุวรรณภูมิ ที่จัดแสดงรูปแบบตามคติความเชื่อในวรรณคดีไทยและพุทธศาสนาอีกด้วย
เมืองโบราณ ประกอบด้วย โบราณสถาน วัดโบราณ ตลาดน้ำ ตลาดบก พระราชวังต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยอาคารที่สร้างจำลองขึ้นใหม่ด้วยการลดทอนสเกลลง หรืออาคารจริงที่ย้ายมาตั้งไว้ยังเมืองโบราณเอง ภายในเมืองโบราณยังมีที่พักแรม ชื่อว่า “ค่ายริมขอบฟ้า” รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
หลังจากแวะรับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อย เราก็เดินทางกันต่อไปยัง วัดโสธรวรารามวรวิหาร อำเภอเมือง นมัสการหลวงพ่อโสธร ซึ่งถือเป็นวัดคู่เมืองฉะเชิงเทรา
วัดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย เป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อโสธร ที่งดงามด้วยพระอุโบสถแบบรัตนโกสินทร์ประยุกต์ที่ออกแบบพิเศษเฉพาะรัชกาลที่ 9 ลักษณะหลังคาแบบจตุรมุข
เวลาล่วงเลยมาจนเย็น คณะของเราก็มาถึงบริเวณริมน้ำ สวนมรุพงษ์ ตรงข้ามสำนักงานกาชาดจังหวัดฉะเชิงเทรา ตำบลหน้าเมือง เพื่อร่วมงาน แปดริ้วฟู้ดเฟส ครั้งที่ 2 “เทศกาลอาหารถิ่น จังหวัดฉะเชิงเทรา” โดยมี ผอ. บุณยานุช วรรณยิ่ง ผอ.ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา นำเยี่ยมชมร้านค้าที่นำอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดมาจำหน่าย ขณะเดียวกันก็ยังไม่ทิ้งเทรนด์ด้วยการนำพ่อค้าแม่ขายรถทรัคมาร่วมแจมด้วยนับสิบคัน เรียกลูกค้าวัยรุ่นได้เพียบ
... เย็นย่ำค่ำนี้ จึงอิ่มเอมกันถ้วนทั่ว... ทั้งจากเพลงบรรเลงบนเวที ทั้งรสชาติอาหารแสนอร่อยที่ส่งกลิ่นเย้ายวนให้กับชาวเมืองแปดริ้วเองและคนต่างถิ่นอย่างเรา...
___________________________
อ่านต่อตอนต่อไป
