กมธ.สาธารณสุขบุกอภัยภูเบศร ดูงานกัญชาโมเดล

ปราจีนบุรี / เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 กรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ประธานกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยคณะรวมเกือบ 20 คน เดินทางเข้าเยี่ยมชม “กัญชา อภัยภูเบศรโมเดล” ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี โดยมี นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี นพ.นำพล แดนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร ประธานยุทธศาสตร์การแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และคณะผู้บริหารฯ ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปการดำเนินงาน “กัญชา อภัยภูเบศรโมเดล” ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 






นายปกรณ์ กล่าวว่า ตนในฐานะประธานกมธ.สาธาณสุข และสังกัดพรรคภูมิใจไทย มีสัญญากับประชาชนจะผลักดันเรื่องกัญชา/กัญชง ให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจ ทั้งในการดูแลสุขภาพและสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ ทุกคนรอความหวัง เราจึงต้องมาดูงานที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรที่มีความพร้อมที่สุดในขณะนี้ ทั้งประสบการณ์การวิจัยด้านสมุนไพรมายาวนาน และมาตรฐานในการผลิต เป็นที่พึ่งที่หวังของชาติและประชาชน ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะปลดล็อคกฎหมายที่ล้าหลังไม่ทันต่างประเทศทั้งที่เรามีองค์ความรู้มากมาย ซึ่งนอกจากกัญชาแล้ว อยากฝากให้ทางรพ.อภัยภูเบศร ศึกษา กัญชง กระท่อม เพื่อปลดล็อคกฎหมายให้นำมาใช้ในทางการแพทย์ต่อไป 


นพ.นำพล กล่าวว่า หลังจากที่รพ.อภัยภูเบศร ได้สกัดน้ำมันกัญชาได้จำนวนหนึ่งแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การกระจายน้ำมันกัญชาไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยจะนำร่อง 8 จังหวัด ในวันที่ 9 ตุลาคมนี้ เพื่อลดแออัดคนไข้ที่เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นจำนวนมาก และเพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้เข้าถึงอย่างเท่าเทียม ไม่ต้องเดินทางมาที่รพ.อภัยภูเบศรอีก 


ขณะที่ นพ.มกร ลิ้มอุดมพร อายุรแพทย์ ด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในฐานะผู้ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยน้ำมันกัญชา ระบุว่า การจะให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงน้ำมันกัญชาอย่างทั่วถึงนั้น ก่อนอื่น หมอเองต้องเปิดใจและเชื่อว่ากัญชาให้การรักษาโรคได้ เวลานี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจ่ายน้ำมันกัญชาเพื่อรักษาโรคมากที่สุด เพราะกล้าและเชื่อจากงานวิจัยและผลการรักษาว่าได้ผลจริง นอกจากนี้ยังฝากถึงรัฐบาลว่า ขอให้กำหนดโครงสร้างที่ชัดเจนเรื่องกัญชา ไม่อยากให้เป็นเพียงกระแสและค่อย ๆ เลือนหายไป เนื่องจากขณะนี้บุคลากรที่ทำงานก็เหมือนอาสาสมัครที่ทำงานเพิ่มจากงานประจำ ดังนั้นหากไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจนก็อาจจะไม่ยั่งยืน




ด้าน ดร.สุภาภรณ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่กระทรวงสาธารณสุข และกมธ.สาธารณสุข สานต่อนโยบายมาสู่การปฏิบัติจริง จึงอยากฝากให้ผู้ที่ทำนโยบาย ซึ่งจะขับเคลื่อนผ่านทางรัฐบาล หรือทางกรรมาธิการก็ตาม ให้ดูเรื่อง CBD ซึ่งเป็นสารที่ได้จากการสกัดกัญชง และกัญชา ซึ่งขณะนี้ขาดแคลน แต่ทางโรงพยาบาลก็ไม่อยากนำเข้า หากมีการสนับสนุนให้พัฒนาสายพันธุ์ โดยการแจกจ่ายให้กับเกษตรกรได้ปลูก และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ก็จะสร้างรายได้ให้กับชุมชน 


“ประเทศไทยมีความคุ้นเคยกับกัญชามายาวนานหลายร้อยปี อีกทั้ง กัญชาที่ลักลอบนำออกจากประเทศไทย ก็ถูกพัฒนาสายพันธุ์จากหลายประเทศทั่วโลก และใช้กันมาจนทุกวันนี้ นั่นหมายความว่า หากได้รับการสนุนาและพัฒนาอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เราจะสามารถไปสู่ความเป็นผู้นำกัญชาโลกได้” ดร.สุภาภรณ์ กล่าว