พม. เตรียมจัดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2560

วันที่ 24 ก.ค. 60 เวลา 10.30 น. ที่บริเวณชั้น 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานร่วมแถลงข่าวการจัดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2560 ภายใต้แนวคิด “พลังสตรีไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้” ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ร่วมกับ สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์
 

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้วันที่ 1 สิงหาคมของทุกปี เป็น “วันสตรีไทย” นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 และพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ดอกคัทลียา ควีนสิริกิติ์ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำวันสตรีไทย และเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546 ซึ่งเป็นครั้งแรกของการจัดงานวันสตรีไทย ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเปิดงาน วันสตรีไทย

 พร้อมทั้งอัญเชิญพระราชดำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เรื่องหน้าที่สำคัญเบื้องต้นของสตรี 4 ประการ ประกอบด้วย ประการที่ 1 พึงทำหน้าที่ของ “แม่” ให้สมบูรณ์ประการที่ 2 พึงทำหน้าที่ “แม่บ้าน” ให้ดี ประการที่ 3 พึง “รักษาเอกลักษณ์ของความเป็นสตรีไทย” และ ประการที่ 4 พึง “ฝึกฝนตัวเอง” ให้มีความรู้ความสามารถยิ่งขึ้น
 

   

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวง พม. ได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์ พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ เพื่อพสกนิกรของพระองค์ รวมทั้งทรงเป็นต้นแบบของปวงชนชาวไทยด้วยพระราชจริยวัตรที่งดงาม


และเป็นปีแรกในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 และเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2560 รวมทั้งเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันสตรีไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 1 สิงหาคม และวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2560 

ทางกระทรวง พม. ขอน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของทุกพระองค์ เพื่อยึดถือเป็นหลักปฏิบัติทั้งในการทำงานและการดำรงชีวิต การส่งเสริมสตรีไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี มีความมั่นคง ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงการสร้างสังคมแห่งความเสมอภาค เป็นธรรม และยุติธรรม เพื่อให้สตรีไทยเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ กระทรวง พม. ร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตลอดจนภาคีเครือข่ายภาครัฐ และภาคเอกชน จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพสตรีไทยเนื่องในวันสตรีไทย ประจำปี 2560 ภายใต้แนวคิด “พลังสตรีไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อย่างหาที่สุดมิได้”
 

   

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับปี 2560 มีการกำหนดจัดงานวันสตรีไทยประจำปี 2560 ในวันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2560 ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี โดยงานดังกล่าวสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ฯ เป็นองค์ประธานในพิธีงานวันสตรีไทย และพระราชทานโล่เชิดชูเกียรติสตรีไทยดีเด่น 150 คน และเยาวสตรีไทยดีเด่น 25 คน 
 

“กิจกรรมสำคัญภายในงานประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และเฉลิมพระชนมพรรษา 65 พรรษา นิทรรศการถวายความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เนื่องในวันสตรีไทย และเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 

นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เฉลิมพระชนมพรรษา 62 พรรษา นิทรรศการสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ประวัติพร้อมผลงานของสตรีไทยดีเด่นและเยาวสตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2560 นิทรรศการผลิตภัณฑ์ ทอฝัน by พม. การออกบูธและแสดงนิทรรศการผลงานจากองค์กรภาคีเครือข่าย อาทิ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ มูลนิธิสายใจไทย ศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว 8 แห่ง และภาคีเครือข่าย เพื่อสะท้อนถึงพลังแห่งความสามัคคีจากทุกภาคส่วนในการร่วมกันพัฒนาศักยภาพสตรีไทยให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติต่อไป” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย