มะกันจัดหนักบดทิ้งของกลาง “งาช้างแกะสลัก” 2 ตัน

มะกันบดทิ้งของกลาง “งาช้างแกะสลัก” 

ส่งสัญญาณ “ของเถื่อน” มีไว้ก็ไม่เท่

สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานบรรยากาศการทำลายของกลาง งาช้างแกะสลัก น้ำหนักรวมถึง 2 ตัน ที่รัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา จับกุมมาได้จากเหล่าขบวนการค้างาช้างข้ามชาติ โดยการทำลายของกลางดังกล่าว ด้วยเครื่องบดหิน มีขึ้นเมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ณ สวนสาธารณะเซ็นทรัลพาร์ค ใจกลางนครนิวยอร์ก

รายงานข่าวระบุอีกว่า การทำลายของกลาง งาช้างแกะสลักจำนวนมหาศาลนี้ เกิดจากการร่วมมือของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (Wildlife Conservation Society) และกรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรัฐนิวยอร์ก เพื่อแสดงวิธีแก้ปัญหาธุรกิจค้างาช้างผิดกฎหมาย และที่สำคัญคือให้ประชาชนรับรู้ว่าผู้ที่ซื้อสินค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ต้องรับผิดชอบต่อการคร่าชีวิตสัตว์เหล่านี้ด้วย เพราะงานแกะสลักจากงาช้าง น้ำหนักรวม 2 ตัน เหล่านี้ ได้มาจากการลอบสังหารช้างนับร้อยตัวเพื่อเอางา!

จิมเมียล แมนดิมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของมูลนิธิสัตว์ป่าแอฟริกัน เปิดเผยถึงเหตุผลว่าทำไมการทำลายงานศิลปะจากงาช้างจึงสำคัญ “เพราะ (การทำลายงาช้าง) หมายความว่าไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บงาช้างไว้หากคุณเป็นเจ้าของผลงานเหล่านี้ และเพราะเราไม่ต้องการให้มีการขายงาช้างเกิดขึ้นในอนาคตไม่ว่าด้วยรูปแบบใดก็ตาม”

การล่าสัตว์ผิดกฎหมายและการสูญเสียถิ่นที่อยู่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชากรช้างลดน้อยลง ทั้งนี้ระหว่างปี 2012-2013 ประชากรช้างในป่าเซ็นทรัลแอฟริกันลดลงถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ส่วนช้างสะวันนาในแทนซาเนียและโมซัมบิกก็ลดลง 60 ปอร์เซนต์ และ 40 เปอร์เซนต์ ตามลำดับในช่วง 5 ปีมานี้

นอกจากนี้ บัญชีแดงของสหภาพเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) ยังจัดให้ทั้งช้างเอเชีย ช้างแอฟริกา และช้างสะวันนาเป็น “สิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์”

จิมเมียล กล่าวเสริมว่า

นี่คือการประกาศต่อสาธารณชนและต่อพวกเราทุกคนว่าช้างกำลังโดนฆ่า และการเป็นเจ้าของงาช้างนั้นไม่ได้เท่เลย

ที่มา: China Xinhua News