การบินไทยจัดกิจกรรม “การบินไทยปลูกชีวิตให้แผ่นดิน – ป่าชายเลนเพื่อชุมชนเพิ่มพูนการกักเก็บคาร์บอน”



บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกันจัดกิจกรรม “การบินไทยปลูกชีวิตให้แผ่นดิน – ป่าชายเลนเพื่อชุมชนเพิ่มพูนการกักเก็บคาร์บอน” ภายใต้โครงการ “ประชารัฐร่วมใจ ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน” เพื่อร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ โดยมีพลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง ประธานกรรมการธรรมาภิบาลและส่งเสริมกิจการเพื่อสังคม บริษัท การบินไทยฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมด้วยนางสุวิมล บัวเลิศ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สำนักเลขานุการบริษัทฯ นางธีระสิน แสงรังษี ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กรบริษัทฯ นายสมชาย ลี้วงศกร นายอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี นายสปัน ธนาพาณิชย์ นายกเทศมนตรีตำบลบ่อ จังหวัดจันทบุรี และพนักงานจิตอาสาการบินไทย ร่วมในกิจกรรม ณ แปลงปลูกป่าชายเลนในพื้นที่รับผิดชอบของการบินไทย บ้านท้ายหลูด ตำบลบ่อ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี

พลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง ประธานกรรมการธรรมาภิบาลและส่งเสริมกิจการเพื่อสังคม บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้ตระหนักและให้ความสำคัญเรื่องการรักษาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม จึงได้กำหนดกลยุทธ์การเดินทางแบบรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือ Travel Green โดยการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม 

ซึ่งการบินไทยได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมสังคมมาอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้การบินไทยได้จัดกิจกรรม “การบินไทยปลูกชีวิตให้แผ่นดิน – ป่าชายเลนเพื่อชุมชนเพิ่มพูนการกักเก็บคาร์บอน” เพื่อฟื้นฟูแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์น้ำชายฝั่ง ให้มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพ และลดก๊าซเรือนกระจก จากการทำลายป่าและเพิ่มพูนการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่าชายเลน 

อีกทั้งเพื่อสืบสานตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ภายใต้โครงการ “ประชารัฐร่วมใจ ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน” ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้ประชาชนและหน่วยงานภาครัฐร่วมปลูกต้นไม้ในทุกพื้นที่ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีฝ่ายบริหาร พนักงานจิตอาสาการบินไทย และประชาชนในพื้นที่ รวมประมาณ 300 คน ร่วมกันทำกิจกรรม อาทิ การปลูกป่าชายเลน จำนวน 1,000 ต้น ปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืด และปล่อยปู จำนวน 1,000 ตัว เป็นต้น

อนึ่ง ป่าชายเลนบ้านท้ายหลูดเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ฝ่ายซ่อมใหญ่อากาศยาน อู่ตะเภาของการบินไทย ที่อยู่ในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อีกทั้งเป็นพื้นที่ปลูกป่าชายเลนที่จะขอรับการขึ้นทะเบียนรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐานของประเทศไทย ซึ่งต้องช่วยกันดำเนินกิจกรรมเพื่อดูแลและทำนุบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง