ก.แรงงาน สั่งนายจ้างเรือสำรวจน้ำมันต่างชาติ จ่ายค่าจ้างค้างจ่ายให้ลูกจ้างกว่า ๗ แสนบาท
กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน คุ้มครองสิทธิคนประจำเรือต่างชาติที่เข้ามาปฎิบัติงานในประเทศไทย สั่งให้นายจ้างเรือสำรวจน้ำมันสัญชาติ ST. KITTS & NEVIS ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. ๒๕๕๘ จ่ายค่าจ้างที่ค้างจ่ายให้แก่คนประจำเรือ จำนวนกว่า 2 หมื่น ดอลล่าร์สหรัฐ หรือกว่า 7 แสนบาท นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) เปิดเผยถึงกรณีคนประจำเรือสำรวจน้ำมัน เอเชี่ยน วอรอเอ่อ (Asian Warrior) ที่เข้ามาปฏิบัติงานในประเทศไทย ได้ร้องเรียนว่านายจ้างค้างจ่ายค่าจ้าง กสร.จึงได้สอบหมายให้พนักงานตรวจแรงงานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ปกิบัติงานของเรือดังกล่าวเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เรือดังกล่าวเป็นเรือสัญชาติ ST. KITTS & NEVIS มีนายเอเรียล กาบิโอล่า การ์เรจน์ (Mr. Garalde, Ariel Gabiola) เป็นนายเรือ โดยมีบริษัท Asian Navigation Ltd. (ANL) มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์เป็นเจ้าของเรือ ได้เข้ามาปฏิบัติงานสำรวจน้ำมันให้กับผู้ว่าจ้างซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทยที่บริเวณจังหวัดสงขลา ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่าน และจากการสอบข้อเท็จจริงผู้แทนนายจ้างและลูกจ้างพบว่านายจ้างค้างจ่ายค่าจ้างลูกจ้าง จำนวน ๑0 คน ประกอบด้วยคนประจำเรือสัญชาติฟิลิปปินส์ จำนวน 8 คน และคนประจำเรือสัญชาติอินโดนิเซีย จำนวน ๒ คน ซึ่งเป็นค่าจ้างระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม 2560 พนักงานตรวจแรงงานจึงได้มีคำสั่งตามพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. 2558 ให้นายเรือ เอเรียล กาบิโอล่า การ์เรจน์ (Mr. Garalde, Ariel Gabiola) จ่ายค่าจ้างที่ค้างจ่ายให้แก่คนประจำเรือทั้ง ๑๐ คน เป็นเงินจำนวน 23,459 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือจำนวน 774,147 บาท อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการดังกล่าวของกสร.เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. 2558 ซึ่งให้อำนาจพนักงานตรวจแรงงานตรวจสภาพการจ้าง สภาพการทํางาน กรณีที่พบว่านายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น ค้างจ่ายค่าจ้างจ่ายค่าจ้างไม่ตรงตามกำหนดเวลาก็มีอำนาจในการออกคำสั่งให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายได้ นอกจากนี้จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการให้ลูกจ้างได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายโดยคำนึงถึงมาตรฐานสากลด้วย