“ทริสเรทติ้ง” ประกาศคงอันดับเครดิตธนาคารออมสิน ที่ระดับ AAA และแนวโน้ม “Stable” สะท้อนถึงสถานะที่มั่นคงและแข็งแกร่ง เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่มีบทบาทการดำเนินงานบริการสาธารณะสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในรูปแบบต่างๆ ระบุ “ยากที่จะมีหน่วยงานภาคเอกชนใดๆ ดำเนินงานแบบธนาคารออมสินได้”
ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินได้รับการจัดอันดับเครดิตจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารออมสิน ที่ระดับ AAA พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” จากรายงานข่าวเครดิต (Credit News) ของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด โดยระบุว่า อันดับเครดิต AAA ที่ธนาคารออมสินได้รับสะท้อนถึงสถานะที่มั่นคงและแข็งแกร่งของธนาคารฯ ในการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่มีบทบาทหลักในการดำเนินงานสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล
ซึ่งในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าการที่หน่วยงานภาคเอกชนอื่นๆ จะสามารถดำเนินบทบาทด้านสาธารณะแบบธนาคารออมสินได้นั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากธนาคารออมสินทำหน้าที่ทั้งการให้บริการทางการเงินและเป็นกลไกในการสนับสนุนมาตรการเชิงนโยบายในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการของธนาคารพาณิชย์ได้ ภายใต้ธุรกรรมตามนโยบายรัฐ ธนาคารออมสินให้สินเชื่อเงื่อนไขที่ผ่อนปรนแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ขณะเดียวกันธนาคารออมสินยังมีภารกิจในการส่งเสริมการออมและให้ความรู้ทางการเงินแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปตามวัตถุประสงค์หลักของธนาคารอีกด้วย นอกจากมีเป้าหมายในการส่งเสริมการออมของเยาวชนแล้ว ยังส่งเสริมความมั่นคงทางการเงินของผู้สูงอายุ สนับสนุนการพัฒนาอาชีพของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินในระดับชุมชน
ในความเห็นของทริสเรทติ้งมองว่า ธนาคารออมสินมีจุดแข็งในธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อย ด้วยความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายซึ่งมีระดับรายได้ที่แตกต่างกัน ทั้งกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มลูกค้ารายย่อยทั่วไป และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ขณะที่ยังมีความแข็งแกร่งด้านธุรกิจเงินฝากจากการเป็นสถาบันส่งเสริมการออมชั้นนำของประเทศ มีเครือข่ายสาขาและช่องทางให้บริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะต่างจังหวัด
รวมถึงมีการให้บริการออนไลน์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นปัจจัยเกื้อหนุนความแข็งแกร่งของธุรกิจธนาคารลูกค้ารายย่อยซึ่งเทียบเคียงได้กับธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ โดยธนาคารออมสินมีเป้าหมายที่จะขยายการให้บริการและสร้างความมั่นคงทางการเงินไปในกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย และกลุ่มวัยเริ่มทำงาน
ด้านฐานะการเงิน ธนาคารออมสินมีขนาดสินทรัพย์รวมมากที่สุดในกลุ่มสถาบันการเงินเฉพาะกิจและใกล้เคียงกับขนาดสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ไทยขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่มีความสำคัญเชิงระบบ (Domestic Systematically Important Banks : D-SIBs) โดย ณ มิถุนายน 2562 ธนาคารออมสินมีขนาดสินทรัพย์รวม 2.7 ล้านล้านบาท ให้บริการทางการเงินผ่านช่องทางสาขาที่มีอยู่จำนวน 1,063 แห่งทั่วประเทศ ในจำนวนดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดจำนวน 900 แห่ง มีส่วนแบ่งตลาดเงินฝากร้อยละ 12 และส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อร้อยละ 11 โครงสร้างสินเชื่อประกอบด้วย สินเชื่อรายย่อยร้อยละ 57 สินเชื่อแก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจร้อยละ 35 สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมร้อยละ 5 และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ร้อยละ 3 โดยธนาคารออมสินมีฐานะสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง ยังคงมีสถานภาพการเป็นผู้ให้กู้ยืมสุทธิในตลาดระหว่างธนาคารอย่างสม่ำเสมอ
ขณะเดียวกัน ยังเป็นผู้จัดหาสภาพคล่องให้แก่องค์กรของภาครัฐและสถาบันการเงินเฉพาะกิจอื่นๆ อีกด้วย ณ ครึ่งแรกของปี 2562 มีอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อหนี้สินระยะสั้นและเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 40.8 และร้อยละ 24.5 ตามลำดับ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่า ในระยะอีก 3 ปีข้างหน้า รายได้หลักของธนาคารออมสินยังคงมาจากธุรกิจสินเชื่อขณะเดียวกันจะค่อยๆ เพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมจากบริการธุรกรรมทางการเงิน หนึ่งในกลยุทธ์ที่จะเพิ่มความหลากหลายของแหล่งที่มาของรายได้คือ การเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่ครบวงจรมากขึ้น ซึ่งทริสเรทติ้งเชื่อว่า ภายใต้แรงกดดันจากสภาพเศรษฐกิจที่มีความเปราะบางและหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังทรงตัวในระดับสูง การปล่อยกู้ที่ระมัดระวังมากขึ้นและเครื่องมือที่ใช้ลดความเสี่ยงทางเครดิตที่มีอยู่น่าจะช่วยควบคุมความเสี่ยงด้านเครดิตในอนาคตของธนาคารออมสินได้ กอปรกับธนาคารมุ่งให้ความสำคัญที่การปล่อยสินเชื่อแก่ลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมที่มีหลักประกันมากยิ่งขึ้น และมีการค้ำประกันโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) รวมทั้งการปล่อยกู้ให้แก่ภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่มีคุณภาพเครดิตดี ทำให้อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารออมสินอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ไทยและค่าเฉลี่ยของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
โดยทริสเรทติ้งยังคาดว่า จากการปล่อยสินเชื่อที่มีน้ำหนักความเสี่ยงต่ำและความสามารถในการทำกำไรในระดับปานกลาง จะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ธนาคารออมสินมีระดับเงินกองทุนที่เหมาะสม นอกจากนี้ ธนาคารออมสินมีแผนที่จะเพิ่มอัตราส่วนการตั้งสำรองเพื่อรองรับการปฏิบัติตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 (TFRS 9)
“การประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารออมสิน ที่ระดับ AAA พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ถือว่าเป็นปีที่ 4 ต่อเนื่องติดต่อกัน นับตั้งแต่ปี 2559-2562 สะท้อนให้เห็นถึงความมีเสถียรภาพทางเครดิตของธนาคารฯ เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ยืนหยัดให้บริการประชาชนมายาวนานถึง 106 ปี เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้า ประชาชน และผู้ประกอบการรายย่อย สามารถสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโต เข้มแข็งและยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน
ซึ่งภายใต้การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาของธนาคารออมสิน ทั้งด้านการดำเนินธุรกิจและการบริหารจัดการคุณภาพองค์กร โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ให้บริการที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมรายกลุ่มลูกค้า รองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี นโยบายและกฎเกณฑ์ในยุคดิจิทัล ผลักดันให้ธนาคารออมสินมีรากฐานที่แข็งแรง มีความพร้อมทางด้านบุคลากร เครือข่ายการให้บริการและระบบงานที่สำคัญ สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ทำให้ธนาคารออมสินอยู่ในใจของลูกค้าและประชาชน”ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวในที่สุด.
Post Views: 16