โดย ซีเอ็มซี กรุ๊ป รายใหญ่อสังหาฯ จับมือ โอ๊ควูดเผยเป็นจิ๊กซอว์สำคัญรุกธุรกิจโรงแรมและการบริการธุรกิจโรงแรม-ที่พักสุดคึกคักรับท่องเที่ยวฟื้น คาดปี 66 จำนวนนักท่องเที่ยวพุ่งกว่า 18 ล้านคน ล่าสุด โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ เซอร์วิส เรสซิเดนซ์หรู มูลค่าลงทุนกว่า 1,000 ล้าน จากกลุ่ม ซีเอ็มซี กรุ๊ป รายใหญ่อสังหาฯ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในการรุกธุรกิจการบริการที่พักอาศัยเป็นครั้งแรกพร้อมเผยเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญต่อยอดกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการที่พักให้เช่าระยะสั้น-ยาวอย่างเต็มตัว
นายโยธิน อุทธะภู ผู้จัดการทั่วไป โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ (Oakwood Suites Tiwanon Bangkok) กล่าวถึงการเปิดตัวของ โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ อย่างเป็นทางการครั้งนี้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับการรองรับการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งในปี 2566 มีการคาดการว่านักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยสูงถึง 18 ล้านคน และจะทำให้ธุรกิจโรงแรม-ที่พักกลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับ โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ เป็นที่พักในลักษณะ เซอร์วิส เรสซิเดนซ์หรู ระดับ 5 ดาว มาตรฐานบริการระดับโลก ภายใต้แนวคิด Extended Stay หรือ เติม เต็ม สุข ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายเหมือนอยู่กับบ้าน และอยากอยู่นานๆ สำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้น จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว ที่ต้องการที่พักระยะยาวเพื่อการทำงานหรืออยู่อาศัยเพื่อการพักผ่อน รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจ ผู้บริหารระดับกลาง-สูง อายุประมาณ 20 – 50 ปี ทั้งคนไทยและต่างชาติ ภาครัฐและเอกชนที่ต้องมาประชุม สัมมนา เทรนนิ่ง หรือ ดำเนินธุรกิจด้านการบริหารงานนั้น โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ มีการบริหารงานโดย The Ascott Limited ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการทำตลาดกลุ่มห้องพักระยะยาว (Loyalty Program) ในลักษณะสมาชิก (Member) ทำให้ห้องพักทั้งหมดของเรา มีอยู่กว่า 150,000 ห้อง
ซึ่งห้องพักของ โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ มีทั้งหมด 191 ห้อง แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1 bedroom deluxe 31 ตารางเมตร, 1 bedroom executive 35 ตารางเมตร, และ 2 bedroom suites 66 ตารางเมตร มีจุดเด่นอยู่ที่ทุกประเภทของห้องพักนอกจากจะมีส่วนของห้องนอนที่ให้ความรู้สึกสบายทุกเวลาแล้ว ยังมีส่วนของห้องนั่งเล่น ครัวและทุกห้องมีเครื่องซักผ้าที่ทันสมัย รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง อาทิ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ร้านอาหาร ห้องจัดเลี้ยง ห้องประชุม-สัมมนา ฯลฯ อีกทั้งสามารถเดินทางได้สะดวกเพราะอยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีแยกติวานนท์
และการเข้ามาในพื้นที่ของโอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ เรามีความตั้งใจที่จะคืนกำไรสู่ท้องถิ่นและเพื่อประเทศไทยอีกด้วย อาทิ ปล่อยเต่าทะเลซึ่งเป็นวิธีการส่งเสริมการอนุรักษ์ที่ได้ผลทางหนึ่ง รวมไปถึงการจัดสอนฟุตบอลแก่เด็กในจังหวัดนนทบุรี โดยอดีตนักฟุตบอลอาชีพพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ และยิ่งไปกว่านั้น เรายังมีโครงการที่จะสร้างอาชีพการบริการให้กับเด็กๆ รวมไปถึงบุคลากรทั่วไปที่สนใจ เพราะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทย
ด้านนายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) (CMC Group) กล่าวว่า การเปิด โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ ถือเป็นโครงการแรกและเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการรุกเข้าสู่ธุรกิจในกลุ่มโรงแรมและการบริการอย่างเต็มตัว ภายใต้การดูแลของ บริษัท ซีทูเอช จำกัด (C2H) นางสาวนิธิดา รัชตารมย์ ประธานกลุ่ม C2H ซึ่งเป็นบริษัทลูก โดยมีลักษณะในการดำเนินธุรกิจด้านการบริหารจัดการที่พักให้เช่าระยะสั้น-ยาว ทั้งนี้ทางกลุ่มได้มองเห็นถึงโอกาสของการเติบโตในธุรกิจการบริการ (Hospitality)
ซึ่งสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและเติบโตได้ในระยะยาว จากศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เห็นได้จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จำนวนนักท่องเที่ยวมีการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 8 ล้านคน และคาดว่าจะถึง 10 ล้านคนในช่วงสิ้นปี
การลงทุนใน โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ ใช้งบประมาณอยู่ที่ประมาณ 1000 ล้านบาท ด้านการบริหารได้มีการจับมือกับ โอ๊ควูด ที่มีความแข็งแกร่งด้านการบริหาร Extended Stay ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าจะช่วยผลักดันให้ โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ เป็น Residence ที่ดีที่สุดในย่านนนทบุรี ส่วนการคาดอัตราการจองห้องพักในช่วงครึ่งปีแรก 2566 นั่นคาดว่าจะมีอัตราประมาณ 70% และช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 80% โดยภาพรวมของอัตราการเข้าพักประเภท Residence ในกรุงเทพฯ จะอยู่ที่ประมาณ 60% สำหรับเป้าหมายความสำเร็จคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 3 ปี และ โอ๊ควูด สวีท ติวานนท์ กรุงเทพฯ จะเป็น Residence ที่ดีที่สุดในย่านนนทบุรี
สำหรับการขยายธุรกิจของ ซีทูเอช นั้น มีแผนการขยายธุรกิจโรงแรมและการบริการในรูปแบบ Mix used, Long – Short stay ทั้ง 5 ดาว และ 4 ดาว โดยมีการเก็บข้อมูล รับฟังความต้องการ คำแนะนำติชม เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงรองรับความต้องการของลูกค้า และเตรียมความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ รวมถึงรองรับลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่ม Hospital, Medical Stay, Government, Corporate, Leisure (Long Stay) นอกจากนั้นสถานที่ตั้งของโครงการที่บริษัทฯ มีแผนในการพัฒนาต่อยอดยังเป็นพื้นที่ทำเลทองใจกลางสถานที่สำคัญ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว โดยมีเป้าหมายที่จะบริหารห้องพักให้ได้มากกว่า 6,000 ยูนิต ในปี 2570 จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ทางกลุ่มมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ซีทูเอช จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมและบริการได้อย่างแน่นอน
Post Views: 28