เมื่อสื่อมวลชนจูงมือวัยเก๋าลุยเมืองคอน…กับทริป “มานะ มานครฯ… มาหาศรัทธา”
เมื่อคณะสื่อมวลชนและกลุ่มนักท่องเที่ยววัยเก๋า รวม 80 กว่าชีวิต เดินทางล่องใต้ด้วยรถไฟขบวนมหาสนุก จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์สู่จังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 6-10 กรกฎาคม 5 วัน 4 คืน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักครึกครื้นตลอดเส้นทาง งานนี้บอกเลย...ศักยภาพการท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยของวัยเก๋ากับทริปลุยเมือง“นครตามพรลิงค์” พลังสุดสนุกตลอดทาง การเดินทางในครั้งนี้ดำเนินงานภายใต้กิจกรรม Let’s Go Low Carbon @Nakhon Si Thammarat Low Carbon Destination @The South …การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) Low Carbon Destination @The South ตามแนวทาง Sustainable Tourism Goals (STGs) เพื่อบูรณาการสร้างศักยภาพและยกระดับมาตรฐานทางการการท่องเที่ยว เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการพัฒนาต่อยอดกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวและกระจายรายได้สู่ชุมชน ตลอดจนสร้างภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (Responsible Tourism) เน้นคุณค่าและความยั่งยืน (Susponsible Tourism Destination) พร้อมผลักดันการท่องเที่ยวในบรรลุเป้าหมายการท่องเที่ยวและคาร์บอนต่ำสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราชจึงร่วมกับภาคีพันธมิตรเครือข่ายท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดนครศรีธรรมราชกำหนดจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชื่อมโยง เริ่มต้นเดินทางกันในช่วงบ่ายของวันที่ 6 กรกฎาคม นัดหมายกันที่บริเวณประตู 4 คณะสื่อมวลชนและกลุ่มนักท่องเที่ยวก่อนจะเข้ามานั่งอยู่ภายในอาคารเพื่อขึ้นสู่ชานชาลาอย่างพร้อมเพรียง …ทั้งนี้ นางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและว่าที่ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้เกียรติร่วมส่งคณะเดินทางพร้อมด้วยนายวิเชียร รามมะเริง ผู้ช่วยสารวัตรเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย รฟท. ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น โดยมี นางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว ( ช.ส.ท.) สื่อมวลชนและคณะนักท่องเที่ยว ให้การต้อนรับ
นางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่า วันนี้เราได้มาร่วมกับทางชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว ก็ถือว่าดีมากๆ ซึ่งสื่อมวลชนทำอะไรก็จะเป็นข่าวอยู่แล้ว ซึ่งสื่อมวลชนกลุ่มนี้ชอบเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งชอบอย่างเดียวไม่พอชวนคนอื่นเดินทางท่องเที่ยวด้วย ครั้งนี้เราจะลงใต้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเดินทางไปกับกลุ่มนักท่องเที่ยววัยเก๋า Active Senior เราไม่เรียกว่าสูงวัยแต่เราเรียกว่า วัยเก๋าที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว สัมผัสกับประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ จะได้ลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ ได้ทานอาหารอร่อยๆ แวะสินค้าโอท็อป
สิ่งสำคัญคือเราได้นำรอยยิ้มนี้ไปยังผู้ประกอบการทางภาคใต้ นอกเหนือจากนั้น ตอนนี้เราไปทางภาคใต้และเราอาจจะมีไปอีกในหลายๆ ภาค จะพยายามไปให้ครบพื้นที่เพื่อให้ผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวสูงวัยหรือวัยเก๋าสามารถเดินทางได้ 365 วัน ทำกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทางด้านของวัยเก๋าทำได้ ไม่ใช่วัยเก๋าในประเทศไทยแต่วัยเก๋าที่อยู่ต่างประเทศก็สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้เช่นนี้เหมือนกัน
และที่สำคัญเราใช้การเดินทางโดยใช้โหมดการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงในหลายรูปแบบ รถไฟเองก็ได้มีการนำขบวนหัวจักรใหม่ๆ เพื่อมาส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างททท.กับรฟท. รวมถึงสื่อมวลชนที่เป็นน้ำดีที่ช่วยสนับสนุนเรื่องของการเดินทางท่องเที่ยว
ส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่าจำนวนไฟล์ทที่ไปเพิ่มขึ้นมากๆ แม้แต่จำนวนอัตราการเข้าพักก็สูงมากขึ้น และในปีนี้เราเปิดตัว unseen news series ที่ผ่านมา หนึ่งใน 25 unseen news series ก็อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชเช่นเดียวกัน คือ แพนเค้ก ร็อค หรือ ชั้นหินพับผ้า ซึ่งสวยงามตระการตามาก อยากให้ไปสัมผัสมากๆ ไปแล้วจะลืมแพนเค้ก ร็อคในต่างประเทศเลย ที่สำคัญที่แพนเค้ก ร็อคเองก็มีการบริหารจัดการเพื่อความยั่งยืน ทั้งชุมชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเอง เมื่อพานักท่องเที่ยวไป เขามีกระบวนการในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ” Let’Go Low Carbon @Nakhon Si Thammarat จาก คอนเซ็ปต์ของการเดินทาง Let’Go Low Carbon @Nakhon Si Thammarat “สู่เส้นทางท่องเที่ยวรถไฟมหาสนุก มานะ มานครฯ… มาหาศรัทธา” ไม่ผิดเลยกับการเรียกขานทริปนี้ เนื่องเพราะนานหลายปีนักที่เราไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟ หลังจากที่สายการบินโลว์คอสเข้ามาเยือน ความอิ่มเอมจากบรรยากาศสองข้างทางเมื่อรถไฟวิ่งผ่านจางหายไปนานนักหนาแล้ว ครั้งนี้ถือว่าเป็นการย้อนวันวานให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง แต่เดินทางสะดวกสบายกว่าเดิม ด้วยรถไฟขบวนที่ 31 ทักษิณารัถย์ มุ่งหน้าสู่สถานีชุมทางทุ่งสง
“คณะวัยเก๋าอยู่เตียงล่าง ส่วนน้องๆ ขึ้นชั้นบนนะคะ รายละเอียดตามแท็คกระเป๋าคะ ” พี่ณา - คณะทำงาน ช.ส.ท.เอ่ยกับเรา ว่าที่จริงๆ ทั้งแท็คกระเป๋า เลขที่นั่ง ทั้งบนรถไฟ รถตู้ ห้องพัก ถูกจัดเตรียมเอาไว้พร้อมหมดแล้ว เรียกว่า มีแท็คใบเดียว ทุกอย่างบอกหมดเรียบร้อย
ภายในโบกี้รถไฟใหม่เอี่ยม สะอาดสะอ้าน อีกทั้งการจองรวมสองโบกี้เป็นคณะใหญ่ ทำให้ค่อนข้างสะดวกสบาย คนกันเองทั้งน้านนน หลายคนเลือกที่เดินเล่นแวะเวียนสนทนาจนแทบลืมเวลาของการพักผ่อน บางคนเลือกจะไปจับจองที่นั่งในโบกี้อาหาร ซึ่งมีป้ายบ่งบอกเวลาปิดว่า 22.00 น. แต่ไม่ได้บอกเวลาเปิด
สำหรับคนที่ไม่สะดวกไปนั่งยังโบกี้ตู้อาหาร จะมีเจ้าหน้าที่เดินถือเมนูมาสอบถามบริการสั่งและส่งถึงที่นั่ง
และด้วยเพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกของการเยือนเมืองคอนแต่เช้ามืด ไม่นานนักราตรีก็พาให้ทุกคนต้องเตรียมตัวหลับใหลเอาแรง
DAY 1 ... เกือบตีห้าของวันใหม่ ล้อเหล็กก็เคลื่อนขบวนถึงสถานีทุ่งสง หลังจากแวะ ล้างหน้าทำธุระส่วนตัวกันที่โรงแรมแกรนด์เซาธ์เทิร์น ทุ่งสงเรียบร้อย ก็เริ่มเดินทางเยือนเมืองคอน
นาบอน นาบอนเป็นศัพท์ที่เรียกพื้นที่ลุ่มระหว่างควนที่มีต้นบอนขึ้น ซึ่งสมัยก่อนทำนาเรียกโดยทั่วไปว่า นาใน หรือนาบอน ตลาดนาบอนเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ที่แปด ขณะนั้นตำบลนาบอนยังไม่มีสถานีรถไฟ
ชุมชนจีนฮกจิว
จุดแรกคือสัมผัสบ้านเรือน ตลาด ย่านเมืองเก่านาบอน ชุมชนไทยเชื้อสายจีนเก่าแก่ดั้งเดิม เจ้าหน้าที่ดูแลศาลเจ้าฮกฮั้วเก็ง หรือศาลแปะกง เริ่มบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมาที่ยาวนานของชาติพันธ์ชาวจีนฮกจิวที่มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่เมืองฝูโจวก่อนจะอพยพมาตั้งแต่ศตวรรษ 2440 เพื่อมาเป็นแรงงานในเกษตรแบบอุตสาหกรรมของอังกฤษ ก่อนจะเข้ามาตั้งถิ่นฐานเพื่อจับจองที่ดินริมทางรถไฟทำสวนยางพารา ในทศวรรษ 2460 มีวัฒนธรรมประเพณีส่วนใหญ่คล้ายกับชาวจีนกลุ่มสำเนียงอื่นๆในไทย
ด้านข้างศาลเจ้า ยังพบการประกอบกิจการค้าขายขนมแปะโอ่ง ขนมพื้นบ้านอาหารพื้นถิ่นขึ้นชื่อ เจ้าสุดท้ายของนาบอนที่ยังหลงเหลืออยู่ ร้าน เฉินซังไท่ “ลองชิมดูได้เลยครับ” เด็กหนุ่มผู้สืบทอดของร้านแห่งนี้ เชื้อชวนคณะของเรา ให้ชมการสาธิตโดยคุณลุง วัยเก๋าของคณะเราหลายคนส่งเสียงชื่นชม ก่อนที่จะรุมกันอุดหนุนกันคนละถุงสองถุง จุดเริ่มต้นของการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนเริ่มแล้ว
พี่แอ๊ว - วรางคณา บอกกับเราว่า ครั้งนี้จะเป็นการเปิดประสบการณ์ให้สัมผัสเสน่ห์ของวันวาน ให้ชวนย้อนรำลึกถึงการเดินทางด้วยรถไฟสมัยก่อนแก่คณะและให้สามารถเปิดเส้นทางท่องเที่ยวรถไฟมหาสนุกให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินทางโดยรถไฟในโอกาสต่อไปให้ได้ไปเยือนไปสัมผัสและเรียนรู้ความเป็น “นครตามพรลิงค์” ในอดีต หรือนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน”
ด้านผอ.ททท.สำนักนครศรีธรรมราช นางพิชญ์สินี ทัศน์นิยม บอกว่า ท่องเที่ยวรถไฟมหาสนุกเชื่อมโยงสู่การเดินทางท่องเที่ยวไปยังแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์ภายในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ เส้นทางอำเภอทุ่งสง – นาบอน – ช้างกลาง – ลานสกา – เมือง – ท่าศาลา – สิชล – ขนอม – พรหมคีรี โดยเฉพาะได้รับการบูรณาการผสานความร่วมมือด้วยดียิ่งจากภาคีพันธมิตรเครือข่ายท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสถานประกอบการและชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย เทศบาลนครนครศรีธรรมราช เทศบาลตำบลพรหมโลก อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อำเภอนาบอน ชมรมการท่องเที่ยวโดยชุมชนพรหมโลก อ.พรหมคีรี กลุ่ม/ชมรมชุมชนคีรีวง อ.ลานสกา ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวช้างกลาง อ.ช้างกลาง ชุมชนอ่าวเตล็ด อ.ชนอม ฯลฯ วัดธาตุน้อย หลังทานอาหารกลางวัน ณ ร้านบัวแก้ว คณะเริ่มเดินทางกันต่อไปยัง วัดธาตุน้อย ตั้งอยู่อำเภอช้างกลาง เพื่อไปสักการะขอพรพระอริยสงฆ์ผู้มีวาจาสิทธิ์ลือเลื่องเรื่องอภิญญาแห่งแดนใต้ พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ซึ่งชาวเมืองคอนเลื่อมใสศรัทธายิ่ง
ภายในองค์เจดีย์เป็นที่ประดิษฐานสรีระพ่อท่านคล้าย ซึ่งมรณภาพหลายสิบปีแต่สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อยและยังเก็บรักษาไว้ในโลงแก้ว ทั้งนี้คณะช.ส.ท.และผู้ร่วมเดินทาง ร่วมกันถวายจัตุปัจจัยแด่พระสงฆ์อีกด้วย
หลังจากนั้นเดินทางกันไปที่ จุดชมวิวเขาเหมน (เขาพระสุเมรุ) แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการขนานนาม “ฟูจิยาม่าเมืองไทย” ก่อนจะปิดทริปของวันแรกในช่วงอาทิตย์ใกล้อัสดงกับแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อเรื่องอากาศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ลานสกา คีรีวง
ที่นี่ ช.ส.ท. จัดให้เยี่ยมชมแหล่งผลิตและสาธิตการทำผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ ที่กลุ่มมัดย้อมสีธรรมชาติบ้านคีรีวง กลุ่มใบไม้ ก่อนจะเดินทางต่อไปเลียบเทียบท่าที่สะพานคีรีวง
“ทำไมน้ำน้อยจัง เมื่อก่อนมาสวยกว่านี้อีก” หนึ่งในสื่อสายท่องเที่ยวที่เคยมาเยือนเมื่อหลายปีก่อนเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสายน้ำด้านล่างสะพานคีรีวง
แต่... มาแล้ว บรรดาแม่ๆ ไม่ยี่หระ ขอชักภาพกันแบบไม่แคร์สื่อ
“ระวังรถคร้าบบบ ” เสียงตะโกนบอกตลอดระยะเวลาที่คณะกว่า 80 ชีวิตผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเก็บภาพเป็นที่ระลึก กล้องมือถือทำงานอย่างหนัก บางคนบ่นอุบว่า เมมเต็ม บางคนบอกเครื่องร้อนกันเลยทีเดียว อิอิ หลังจากนั้นก็ถึงเวลาเช็คอินเข้าสู่โรงแรมฯ คณะทั้งหมดเข้าพักที่โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน นครศรีธรรมราช ซึ่งตั้งอยู่ ใจกลางเมือง ใกล้แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรมและย่านการค้าสำคัญของเมือง โดดเด่นด้วยสไตล์โมเดิร์นสูง 19 ชั้น เรียกว่าสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันของโรงแรมระดับห้าดาว
ห่างจากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารเพียง 5 กิโลเมตร ห่างจากพิพิธภัณฑ์เมืองนครศรีธรรมราชเพียง 950 เมตร มีห้องพักให้บริการ 316 ห้อง ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Extra Plus
Day 2 ด้วยห้องพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช้านี้เราจึงเห็นรอยยิ้มปลื้มปริ่มจากคณะตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาหารเช้าแสนอร่อย มากมายให้เลือกหลากหลาย เรียกว่า ลงมาเริ่มทานกันเป็นชั่วโมงก็ยังไม่หมดไลน์บุฟเฟต์ อิ่มเอมกันจนพุงป่อง
7-8-9 รหัสลูกทัวร์ ได้เวลาล้อหมุน เช้านี้เริ่มเดินทางกันเวลา 9 โมงเช้า คณะเริ่มเดินทางไปหาศรัทธากันต่อ ณ วัดคงคาล้อม ปัจจุบันชื่อวัดยางใหญ่ เพื่อสักการะ “ตาพรานบุญ” แต่บางคนเรียกว่า วัดสีชมพู เพราะสีสรรของต้นไม้ที่ถูกจัดแต่งเอาไว้ตั้งแต่ทางเข้าหวานแหววแบบจริงๆ จังๆ
ไปต่อกันเลย ไปยังอำเภอสิชล ถ้ามานครไม่แวะ วัดเจดีย์ สักการะขอพร ไอ้ไข่ น่าจะเรียกว่า พลาดอย่างแรง เช่นเดียวกัน คณะของเรา ไม่นานนัก ก็มาถึง วัดเจดีย์ ซึ่งตามตำนานเล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคนบอกเอาไว้ว่า สถานที่ตั้งวัดเจดีย์ปัจจุบันนั้น เมื่อก่อนหลวงปู่ทวด พระเกจิอาจารย์ดังสายปักษ์ใต้เดินธุดงค์และมาปักกลดอยู่ ส่วนไอ้ไข่นั้น เชื่อว่าเป็นวิญญาณเด็กอายุประมาณ 9-10 ขวบ ลูกศิษย์ผู้ติดตามหลวงปู่ทวด เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้ก็พบทรัพย์สมบัติและศาสนสถานที่สำคัญเป็นจำนวนมาก จึงได้ให้ไอ้ไข่สิงสถิตเฝ้าทรัพย์สมบัติดังกล่าว วิญญาณดวงนี้เฝ้าดูแลปกปักรักษาทรัพย์สินของแผ่นดินและอยู่ที่วัดตั้งแต่นั้นมาจากศรัทธาที่ผู้คนต่างเชื่อว่า “ขอได้ ไหว้รับ”
ปัจจุบัน ได้มีการปรับปรุงพื้นที่วัดเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่อลังการกว่าที่เราเคยมาเยือนมาก รูปปั้นไก่ชนที่มีคนมาแก้บนจำนวนมหาศาล เสียงประทัดดังเป็นระยะๆ บ่งบอกแรงศรัทธาตลอดระยะเวลาที่เราอยู่ภายในวัดแห่งนี้ วัดสุชน เดินทางกันต่อคราวนี้ไปสักการะ ท้าวเวสสุวรรณ(พ่อรวย) ณ วัดสุชน ตำบลสิชล อำเภอสิชล ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องอิทธิฤทธิ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะท้าวเวสสุวรรณปางที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นปางธนบดีเศรษฐีชัมภล ประจำวันอังคาร เด่นมากเรื่องการเงินทุกรูปแบบ รวมถึงผู้ที่ทำการค้า เป็นวัดเก่าแก่ที่สายมูห้ามพลาด ที่นี่ห่างจากวัดเจดีย์ไอ้ไข่ประมาณ 20 กม. หลังสักการะขอพรกันเรียบร้อย กองทัพเดินด้วยท้อง รถตู้ทั้ง 10 คันมุ่งหน้าสู่ร้านขนอม ซีฟู้ด
... ไม่นานนักเมฆสีเข้มดำก็เริ่มครึ้ม ส่งสัญญาณการประพรมของลมฝน ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนหมุดหมายการเดินทาง คราวนี้มุ่งหน้าสู่เนินเทวดา
... สายฝนยังกระหน่ำ ... สักพัก ฟ้าเริ่มเปิด และเมื่อฟ้าเปิดปุ๊บ คณะก็ลงถ่ายรูปปั๊บ สุดยอดจริงๆ คะคุณแม่ ยังคะแรงยังไม่หมด ค่ำคืนนี้หลังทานอาหารเย็นที่ร้านท่าศาลา “ เดี๋ยวไปกินโรตีกัน เจ้าดังของเมือง” พี่แอ๊ว ประธานชมรมฯ นำคณะทั้งหมดไปยังร้านโรตีโกบัง เพื่อสัมผัสกับยรรยากาศวิถีอาหารถิ่น ลิ้มลองน้ำชา - โรตี และสัมผัสบรรยากาศไนท์ไลท์สไตล์เมืองนคร เมื่อคณะเกือบร้อยชีวิตเข้าร้านพร้อมกัน สั่งโรตีพร้อมกัน ความชุลมุนก็บังเกิด 555
ที่นี่เราได้พบกับ FC ส่วนตัว ที่เข้ามาทักทายด้วย ต้องขอบคุณมากๆ ที่จำกันได้ “ผมตามเฟซพี่ตลอด พี่เพิ่งไปเนินเทวดามาใช่มั๊ย” นั่น... ปลื้มซี่คะ เดี๋ยวต้องไปกดติดตามในเพจบ้างละคะ สัญญา... DAY 3 สายมูไม่กลัวฝน เช้านี้เรายังคงปลื้มปริ่มกับอาหารเช้ารสเลิศของห้องอาหารในโรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน นครฯ ต้องบอกว่าไม่อยากจะจากเธอไปเลยนะ แต่วันนี้ต้องเช็คเอาท์แล้ว สัญญาว่าจะกลับมาอีก... บ๊ายบาย
เก็บสัมภาระเรียบร้อย พร้อมเดินทางกันต่อ วันนี้ดูเหมือนคิวการท่องเที่ยวแน่นเอี้ยด เริ่มกันตั้งแต่ที่แรก ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ถนนราชดำเนิน เพื่อสักการะขอพร องค์พระบรมธาตุเจดีย์ วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นสิริมงคล เจ้าหน้าที่จัดเตรียมผ้าไตรเพื่อห่มพระธาตุ แม้เวลาจะมีไม่มากนัก แต่ทุกคนต่างอิ่มเอมกับการเข้าสักการะขอพรอย่างเต็มเปี่ยม
... เดินทางกันต่อคราวนี้ไปกราบสักการะพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปคู่บ้านควรเมืองนคร องค์แท้ 1 ใน 3 ของประเทศที่หอพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในศาลากลางจังหวัดฯ อำเภอเมือง
หลังไหว้พระขอพรกัน ไม่นานนัก คณะ ก็พาเราเดินทางกันต่อไปยังกลุ่มจักสานย่านลิเภาโพธิ์เสด็จ เพื่อเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์จักสานย่านลิเภา ชมการสาธิตงานจักสานและหัตถศิลป์ล้ำค่าของเมืองนคร โดยมีคุณแม่หนุ่ย ให้การต้อนรับ
“ตื่นเต้นมากเลยคะ ไม่เคยต้อนรับคณะใหญ่ขนาดนี้มาก่อน” แม่หนุ่ย ประธานกลุ่มจักสานย่านลิเพาโพธิ์เสด็จ กล่าวกับเรา เมื่อคณะมาถึง เรียกว่า ร้านแทบแตก 555 ทั้งชื่นชมย่านลิเพา ทั้งส่งเสียงเรียกหาผู้ขาย ทั้งเสียงต่อรองผลิตภัณฑ์ลั่นร้าน ก็แหม นักท่องเที่ยววัยเก๋า นักท่องเที่ยวคุณภาพกระเป๋าหนักเดินทางมาเยี่ยมเยียนทั้งที งานนี้แม่หนุ่ย ยิ้มแก้มปริ เพราะดูเหมือนเพียงชั่วพริบตา ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก็ปาไปเป็นแสนบาทแล้ว และด้วยเพราะยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ เก๋งพระเจ้าตาก เป็นการตามรอยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เยี่ยมชมโบราณสถาน โบราณวัตถุเชื่อมความเชื่อและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ วัดประดู่พัฒนาราม สักการะศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช
เสียดายที่เวลาไม่มากพอ ไม่ได้แวะถนนสายหัตถกรรมท่าช้าง ที่มีร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเมืองนคร ทั้งเครื่องถม เครื่องเงิน และ.... พรหมโลก พรมใจ เอ้าไปต่อกันเลย มื้อเที่ยงมาถึงแล้ว ล้อหมุนสู่พรหมโลก เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกัน ณ บริเวณน้ำตกพรหมโลก แต่ๆ อย่างที่บอกไปฝนฟ้าไม่เป็นใจ ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนอย่างกะทันหัน เจ้าหน้าที่ นายอำเภอ ต้องมาจัดสถานที่ใหม่กันที่อบต. ครั้งนี้ได้ชิมเมนูพื้นบ้าน ผลไม้พื้นถิ่น นอกจากนี้ยังได้จับจ่ายซื้อของพื้นถิ่นโดยชาวบ้านในชุมชนอีกด้วย ก่อนจะรีบรุดไปเก็บภาพธรรมชาติที่งดงามของ น้ำตกพรหมโลก น้ำตกขนาดใหญ่สวยงามที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9 ) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพันปีหลวง เสด็จประพาส และทรงจารึกพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. และส.ก. ไว้ที่หน้าผาน้ำตกชั้นที่ 1 หนานวังน้ำวน เมื่อปี 2502 น้ำตกพรหมโลก เป็นน้ำตกที่ใกล้กับตัวอำเภอพรหมคีรี ต้นน้ำเกิดจากเทือกเขาหลวง จัดเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่สมบูรณ์ ประวัติความเป็นมา เชื่อว่า น้ำตกพรหมโลกมีสภาพที่สูงชันประกอบกับมีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นจำนวนมาก สมัยก่อนเชื่อว่าสถานที่บริเวณนี้เป็นสถานที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาสิงสถิต โดยเฉพาะเทพชั้นพรหมทั้งโลก ที่มาสิงสถิตย์บนชั้นน้ำตก จึงได้ตั้งชื่อ น้ำตกพรหมโลก มาจนถึงทุกวันนี้
“ที่นี่น้ำวน ลงเล่นไม่ได้อันตรายครับ” เราถามขึ้นเมื่อเดินขึ้นสู่น้ำตกชั้นที่ 1 เมื่อเห็นที่กั้นตลอดระยะทาง แต่ยังดีที่เมื่อเดินมาอีกมุมหนึ่งเป็นชุมนุมปลาแงะ บริเวณนี้สามารถให้อาหารปลาได้ คณะวัยเก๋าก็พอจะเดินเข้ามาทำกิจกรรมนี้ได้ เพราะไต่ขึ้นน้ำตกไม่สะดวกเท่าไหร่นัก อย่าว่าแต่วัยเก๋าเลย วัยเราก็หอบแฮ่ก
.... หลังจากนั้นเดินทางไปปิดทริปด้วยการตามรอยเสด็จฯ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โบสถ์มหาอุตม์และกราบสักการะ พ่อท่านกลาย วิปุโล (พระครูวิบูลย์รักษ์) อภิญญาย่นย่อระยะทางเดินเท้า พระผู้เป็นต้นแบบแห่งความสมถะ ณ วัดเขาขุนพนม
.... สุดท้าย ...ท้ายสุดสำหรับทริป “มานะ มานครฯ มาหาศรัทธา” ซึ่งเป็นการนำคณะสื่อมวลชนจากชมรมฯ และคณะนักเดินทางวัยเก๋า หรือ Active Senior สัมผัสกับมิติที่หลากหลายของเมือง...ของเรื่องราวที่พร้อมจะให้การต้อนรับจากชาวนครฯ ถือเป็นการตอกย้ำความพร้อมแล้วสำหรับการต้อนรับผู้มาเยือน ... เมืองคอน อย่างเต็มอิ่มและอบอุ่น ......
ขอขอบคุณ ททท. สำนักงานนครศรีธรรมราช : @TAT.NST : @tatnst ททท.ภูมิภาคภาคใต้ #ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว #ช.ส.ท #มานะมานครมาหาศรัทธา #ทททภาคใต้ #นครศรีธรรมราช #หรอยแรงแหล่งใต้ #Btripnews #fortune
ผู้บรรยายข้อมูล วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร : นายนริศ น้อยทับทิม มัคคุเทศก์กินรี หอพระพุทธสิหิงค์ โดย กรมศิลปากร เจ้าหน้าที่ผู้ให้ข้อมูลบรรยาย นายทัศพร กั่วพานิช ตำแหน่งนักวิชาการวัฒนธรรม และนางสาวอมลธิรา เหล่าศักดิ์ศรี ตำแหน่งผู้ช่วยนักโบราณคดี กลุ่มจักสานย่านลิเพา โพธิ์เสด็จ นางพวงศรี ชูสุวรรณ ประธานกลุ่มจักสานย่านลิเพาโพธิ์เสด็จ นางณัฐกฤตา ดุลเภรี หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ผู้แทนนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครศรีธรรมราช วัดประดู่ : นายนริศ น้อยทับทิม มัคคุเทศก์ดีเด่นรางวัลกินรี
น้ำตกพรหมโลก (กิจกรรมชุมชนเส้นทางท่องเที่ยวพรหมโลกพรมใจ) ประกอบด้วย : นายปารเมศ เห้งสวัสดิ์ นายอำเภอพรหมคีรี , นาย วัยพจน์ เพ็ชรไทยพงค์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ที่ ขล.1 หน่วยน้ำตกพรหมโลก ,นายรังสิต เฉลิมวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลพรหมโลก ,นางสุภาพร เชาวพ้อง ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมพรหมโลก บูธชุมชน/สินค้าพื้นเมือง : เพาะรัก2ภูฟาร์ม (โดยนางสาววนิดา ศรีราเพ็ญ), D.I.Y. ร้อยลูกปัดมโนราห์, ปักผ้าปาเต๊ะ, การทำไม้กวาดดอกหญ้า, ไตปลาแห้งครัวคุณตา, เรือนไทยพรหมคีรีและพันธมิตร วัดเขาขุนพนม : นายธนากร ธราพรสกุลวงศ์ นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ เทศบาลตำบลพรหมโลก (มัคคุเทศก์บรรยาย)
