สำนักงาน คปภ. ผนึกพลัง 4 สมาคม จัดเรตติ้งพฤติกรรม “ตัวแทน-นายหน้าประกันภัย” พร้อมใจเปิดโครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิด “โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้ อมูลเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภั ย” พร้อมด้วย นายกสมาคมประกันชีวิตไทย นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิ ตและที่ปรึกษาการเงิน และผู้แทนนายกสมาคมนายหน้าประกั นภัยไทย ผู้บริหารสำนักงาน คปภ. และสื่อมวลชน ณ ห้องประชุมสถาบันวิทยาการประกั นภัยระดับสูง ชั้น 2 สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิ จประกันภัยและกำกับดูแลการปฏิบั ติหน้าที่ของตัวแทนหรือนายหน้ าประกันภัยที่เป็นคนกลางในการชั กชวนหรือชี้ช่องจัดการให้บุ คคลทำสัญญาประกันภัยกับบริษั ทประกันภัย ซึ่งถือว่า “คนกลางประกันภัย” เป็นบุคคลสำคัญในการขับเคลื่ อนธุรกิจประกันภัยและที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการตามกฎหมายทั้ งทางปกครองด้วยการเพิกถอนใบอนุ ญาตเป็นตัวแทนหรือนายหน้าประกั นภัย และทางอาญาด้วยการดำเนินคดีฉ้ อฉลประกันภัยกับตัวแทนหรื อนายหน้าประกันภัยที่ฝ่าฝื นกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ![]()
ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับมาตรการป้
องปรามมิให้ตัวแทนหรือนายหน้ าประกันภัยกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย สำนักงาน คปภ. จึงริเริ่มแนวทางป้องกันการฉ้ อฉลประกันภัยโดยตัวแทนหรื อนายหน้าประกันภัยตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ โดยจัดทำโครงการพัฒนาระบบแบ่งปั นฐานข้อมูลเกี่ยวกับการฉ้ อฉลประกันภัย โดยสายกฎหมายและคดี ร่วมกับศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยี ด้านการประกันภัย (Center of InsurTech Thailand) หรือศูนย์ CIT ของสำนักงาน คปภ. ร่วมกันพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่ วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกั นการฉ้อฉลประกันภั ยโดยคนกลางประกันภัยตั้งแต่ต้ นน้ำ โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการพิ จารณาออกใบอนุญาตเป็นตัวแทนหรื อนายหน้าประกันภัยเพื่อคั ดกรองบุคคลเข้ามาเป็นตัวแทนหรื อนายหน้าประกันภัยในธุรกิจประกั นภัย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวได้รั บความร่วมมือจากภาคธุรกิจประกั นภัยและผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่ างดี โดยทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์ในการป้ องปรามการฉ้อฉลประกันภัยที่สร้ างความเสียหายแก่ภาพรวมของธุรกิ จประกันภัย ในขณะเดียวกันก็เสริมสร้างภาพลั กษณ์ที่ดีของการประกันภั ยและคนกลางประกันภัย รวมถึงการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ของผู้เอาประกันภัยและประชาชนอี กด้วย สำหรับแนวทางพิจารณาการออกใบอนุ ญาตเป็นตัวแทนหรือนายหน้าประกั นภัยรูปแบบใหม่นั้น นอกจากจะพิจารณาตามกฎหมายประกั นชีวิตและประกันวินาศภัยที่ กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับคุ ณสมบัติของตัวแทนหรือนายหน้ าประกันภัยว่า ผู้ขอรับใบอนุญาตจะต้องไม่มี ประวัติการกระทำความผิดเกี่ยวกั บการฉ้อฉลประกันภัยหรือถูกเพิ กถอนใบอนุญาตการเป็นตัวแทนหรื อนายหน้าประกันภัย หรือมีประวัติอาชญากรรมในความผิ ดเกี่ยวกับทรัพย์ ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครั ดแล้ว บริษัทประกันภัยจะต้องตรวจสอบข้ อมูลผู้ขอรับใบอนุญาตฯ ในระบบดังกล่าวด้วย ซึ่งก่อนที่บริษัทประกันภั
ยจะตรวจสอบข้อมูลในระบบก็จะต้ องดำเนินการอย่างเคร่งครั ดภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้ มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวคือ บริษัทประกันภัยจะต้องได้รั บความยินยอมในการเปิดเผยข้อมู ลจากตัวแทนหรือนายหน้าประกันภั ยที่ต้องการตรวจสอบ ก่อนที่จะนำเลขบัตรประชาชนของผู้ ขอรับใบอนุญาตฯ ที่ให้ความยิ นยอมมาขอตรวจสอบประวัติที่เกี่ ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย หรือการเพิกถอน/พักใช้ใบอนุ ญาตของตัวแทนหรือนายหน้ าในระบบดังกล่าว เมื่อระบบประมวลผลแล้ว ก็จะแสดงผลการตรวจสอบว่าผู้ขอรั บใบอนุญาตฯ นั้น มีพฤติกรรมอยู่ในระดับการเฝ้ าระวังลำดับใด โดยในระบบดังกล่าวแบ่งระดั บความร้ายแรง ออกเป็น 4 ระดับ คือ ระดับหนึ่ง สีแดง กรณีตัวแทนหรือนายหน้าประกันภั ยอยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุ ญาต หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตครั้งล่ าสุดไม่เกินระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งพักใช้หรื อเพิกถอนใบอนุญาต ระดับสอง สีส้ม กรณีตัวแทนหรือนายหน้าประกันภั ยเคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตครั้งล่ าสุด เกิน 5 ปีเต็ม นับแต่วันที่มีคำสั่งเพิ กถอนใบอนุญาต หรือ กรณีบริษัทประกันภัยรายงานว่ าเป็นบุคคลมีพฤติกรรมที่เป็ นการฉ้อฉลประกันภัย เข้ามายังระบบรายงานการฉ้ อฉลประกันภัยของสำนักงาน คปภ. ทั้งนี้ เป็นกรณีที่มีหลักฐานชัดแจ้ง หรือมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ระดับสาม สีเหลือง กรณีมีบริษัทประกันภัยรายงานว่ าตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัยนั้ น เป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ อาจจะเป็นการฉ้อฉลประกันภัย เข้ามายังระบบรายงานการฉ้ อฉลประกันภัยของสำนักงาน คปภ. หรือมีการร้องเรียนและอยู่ ในระหว่างการสอบสวนของสำนักงาน คปภ. และระดับสี่ สีเขียว กรณีตัวแทนหรือนายหน้าประกันภั ยไม่มีประวัติด่างพร้อย กล่าวคือ ไม่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักใช้ ใบอนุญาต ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต และไม่พบประวัติที่บริษัทประกั นภัยรายงานเข้ามาว่าบุคคลนั้น มีพฤติกรรมที่เป็นการฉ้อฉลประกั นภัยหรืออาจจะเป็นการฉ้อฉลประกั นภัย ทั้งนี้ บริษัทประกันภัยสามารถรับตั วแทนหรือนายหน้าประกันภัยที่อยู่ ในกลุ่มสีส้มและสีเหลือง ให้เป็นตัวแทนหรือนายหน้าประกั นภัยในสังกัดได้ เนื่องจากสำนักงาน คปภ. ไม่ได้บังคับหรือจำกัดสิทธิ เนื่องจากข้อมูลจากระบบดังกล่ าวเป็นเพียงข้อมูลประกอบให้บริ ษัทประกันภัยบริหารความเสี่ ยงและพิจารณากลั่นกรองก่อนรับบุ คคลเข้ามาเป็นตัวแทนหรือนายหน้ าประกันภัยในสังกัดของบริษั ทประกันภัย เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการพัฒนาระบบแบ่งปันฐานข้ อมูลเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภั ยจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยยับยั้ งและป้องกันการฉ้อฉลประกันภั ยจากตัวแทนและนายหน้าประกันภั ยที่จะเข้าสู่ธุรกิจประกันภั ยในอนาคต และช่วยกำหนดแนวทางการดำเนิ นการของบริษัทประกันภัยให้อยู่ ภายใต้หลักธรรมาภิบาล การบริหารความเสี่ยง รวมถึงการจัดการเรื่องความรับผิ ดต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน กรณีบริษัทประกันภัยได้พิ จารณาตกลงรับตัวแทนประกันภัยหรื อนายหน้าประกันภัยที่มีประวัติ การกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้ อฉลประกันภัยหรือถูกเพิ กถอนใบอนุญาตการเป็นตัวแทนหรื อนายหน้าประกันภัย หรือมีประวัติอาชญากรรมในความผิ ดเกี่ยวกับทรัพย์ เข้ามาเป็นตัวแทน หรือนายหน้า ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จะทำการพัฒนาต่อยอดระบบดังกล่ าวควบคู่ไปด้วย เช่น การเตรียมพัฒนาระบบเพื่อให้ รองรับการเชื่อมโยงกับฐานข้อมู ลทั้งระบบภายในของสำนักงาน คปภ. และระบบของหน่วยงานภายนอก เช่น ระบบทะเบียนใบอนุญาตตัวแทน/นายห น้าประกันภัย/ผู้ประเมินวินาศภั ย (e-Licensing) ของสายตรวจสอบคนกลางประกันภัย และระบบจัดการเรื่องร้องเรี ยนของสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ (PPMS) และระบบของสำนักงานตำรวจแห่ งชาติ เพื่อตรวจสอบเกี่ยวกับประวัติ อาชญากรรม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับและเพิ่ มประสิทธิภาพในการตรวจสอบและพิ จารณาคัดกรองตัวแทนและนายหน้ าประกันภัยก่อนเข้าสู่ธุรกิ จประกันภัย