Update Newsธุรกิจธุรกิจ-เศรษฐกิจประชาสัมพันธ์เศรษฐกิจ

สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมณฑลเจ้อเจียงจับมือหอการค้าไทย-จีน ประสบความสำเร็จในการจัดงานเจรจาการค้าและการลงทุน

เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา “งานเจรจาการค้าและการลงทุนระหว่างจีน (เจ้อเจียง) – ไทย” ซึ่งจัดโดยสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมณฑลเจ้อเจียงร่วมกับหอการค้าไทย-จีน ได้จัดขึ้นอย่างสมบูรณ์ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิด ได้แก่ คุณนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา คุณเฉิน เจี้ยนจง สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมณฑลเจ้อเจียง คุณณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน คุณโจว กวงเย่า ผู้แทนสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งประเทศจีน (CCPIT) ประจําประเทศไทย และคุณธีระพล โกวพัฒนกิจ ผู้ช่วยอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

บุคคลสำคัญที่เข้าร่วมงานยังประกอบด้วย คุณโจว ซี่ฉี เลขานุการเอกฝ่ายเศรษฐกิจและการพาณิชย์ สถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย คุณบุญยงค์ ยงเจริญรัตน์ รองประธานหอการค้าไทย-จีนและผู้อำนวยการบริหารสมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน คุณนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล ประธานคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา คุณโสภณ มะโนมะยา รองประธานคนที่สอง คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภาไทย แล

ะประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจ การค้า และแรงงาน คุณวิชัย (Wichai Kinchong Choi) รองประธานอาวุโสธนาคารกสิกรไทย คุณหวง เหวยเหว่ย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กรรมการผู้จัดการด้านการพัฒนากลยุทธ์และความร่วมมือประเทศจีน เครือเจริญโภคภัณฑ์ และผู้แทนจากหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนนักธุรกิจทั้งไทยและจีนรวมกว่า 150 คน

คุณเฉิน เจี้ยนจง กล่าวในสุนทรพจน์ว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับไทยมีความใกล้ชิดมากขึ้น โดยจีนยังคงเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย 12 ปีติดต่อกัน ปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างเจ้อเจียงกับไทยคิดเป็น 13% ของการค้ารวมระหว่างจีนกับไทย ซึ่งสูงเป็นอันดับสามของมณฑลและเมืองต่าง ๆ ของจีน ปัจจุบันมีบริษัทจากเจ้อเจียงที่ลงทุนในประเทศไทยประมาณหนึ่งหมื่นแห่ง หวังว่าภาคธุรกิจของทั้งเจ้อเจียงและไทยจะสามารถเสริมสร้างความร่วมมือในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาอย่างยั่งยืน และยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างเจ้อเจียงกับไทย ให้พัฒนาไปสู่ระดับที่สูงยิ่งขึ้น

คุณนิรัตน์ อยู่ภักดี กล่าวในสุนทรพจน์ว่า เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย การจัดงานเจรจาการค้าและการลงทุนระหว่างเจ้อเจียงกับไทยในครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง สะท้อนถึงมิตรภาพอันลึกซึ้งภายใต้ความสัมพันธ์ที่เรียกว่า “จีน-ไทยพี่น้องกัน” มณฑลเจ้อเจียงเป็นหนึ่งในมณฑลที่มีพลังทางเศรษฐกิจมากที่สุดของจีน มีภาคเอกชนที่เข้มแข็ง และอยู่ในแนวหน้าของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี และเป็นหุ้นส่วนสำคัญด้านการค้าการลงทุนของไทย เชื่อว่าการลงทุนของบริษัทจากเจ้อเจียงในไทยจะช่วยเพิ่มพลังใหม่ๆให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย หวังว่าทั้งสองฝ่ายจะจับมือกันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในด้านเศรษฐกิจ การค้า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม เพื่อสร้างอนาคตที่รุ่งเรืองร่วมกัน

คุณโจว กวงเย่า กล่าวในสุนทรพจน์ว่า ปัจจุบัน รัฐบาลไทยกำลังดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติอย่างเต็มที่ โดยจะขยายการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากร และการยกระดับสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจเพิ่มมากขึ้น เพื่อผลักดันประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางของสำนักงานใหญ่ของบริษัทในอาเซียน มองไปข้างหน้า เรามีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่ออนาคตของการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันระหว่างจีน–ไทยผ่านความร่วมมือด้านการเชื่อมโยง การค้าการลงทุน การพัฒนาอย่างยั่งยืน และเศรษฐกิจดิจิทัล และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะร่วมกันสร้าง 50 ปีทองถัดไปของ “มิตรภาพจีน–ไทย” ให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้น

คุณธีระพล โกวพัฒนกิจ กล่าวในสุนทรพจน์ว่า ความสัมพันธ์จีน-ไทยมีความแน่นแฟ้น และมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างใกล้ชิด ในปี 2024 มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศอยู่ที่ 115,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสัดส่วนการค้าระหว่างไทยกับมณฑลเจ้อเจียงคิดเป็น 15% ทั้งสองฝ่ายมีศักยภาพการเกื้อหนุนซึ่งกันและกันอย่างสูงในด้านสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมการผลิต และเศรษฐกิจดิจิทัล ปัจจุบัน ทั้งสองฝ่ายกำลังเร่งส่งเสริมการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านความร่วมมือระหว่างกัน ประเทศไทยจะยังคงให้การสนับสนุนให้ภาคธุรกิจของไทยขยายตลาดในประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น อาศัยโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในระดับลึกซึ้งยิ่งขึ้น

คุณณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล กล่าวในสุนทรพจน์ว่า มณฑลเจ้อเจียงมีระบบอุตสาหกรรมที่ครบวงจร และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านท่าเรือและโลจิสติกส์ที่ทันสมัย เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจของจีน ขณะที่ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางของอาเซียน และเป็นจุดยุทธศาสตร์ในโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มีรากฐานทางอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้อต่อการลงทุน จึงเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนจากเจ้อเจียงที่ต้องการขยายธุรกิจมายังไทย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจากเจ้อเจียงในไทยได้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงระหว่างทั้งสองฝ่าย หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในการเจรจาครั้งนี้ ผู้ประกอบการจากทั้งสองประเทศจะสามารถค้นพบศักยภาพความร่วมมือได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น และร่วมกันเขียนบทใหม่แห่งความร่วมมือระหว่างไทยกับเจ้อเจียง

ภายในงาน คุณหวัง ฝ่าเว่ย รองประธานสภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเมืองไถโจวได้ขึ้นเวทีแนะนำถึงสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจของมณฑลเจ้อเจียงและเมืองไถโจวอย่างละเอียด นอกจากนี้ บริษัท Zhejiang Hongshengyuan Automotive Supplies Co., Ltd. ยังได้แนะนำแผนการลงทุนของบริษัทในประเทศไทยด้วย

ภายในงาน สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมณฑลเจ้อเจียงและหอการค้าไทย-จีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างทั้งสององค์กร ขณะเดียวกัน บริษัท Zhejiang Hongshengyuan Automotive Supplies Co., Ltd., Wenshang Industrial Park Group Co., Ltd. และ Tiantai Luohua Trading Co., Ltd. ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศ โดยมูลค่ารวมของสัญญาทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 910 ล้านหยวน

ในช่วงการเจรจาแบบจับคู่ธุรกิจ (One on One Business Matching) บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก โดยผู้ประกอบการจากเจ้อเจียงและไทยได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกกันอย่างเต็มที่ ซึ่งบางรายได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือเบื้องต้นแล้ว

ก่อนการจัดการประชุมเจรจา คณะผู้แทนจากเจ้อเจียงยังได้เยือนหอการค้าไทย-จีนเพื่อศึกษาทำความเข้าใจถึงประวัติความเป็นมา พัฒนาการ และโครงสร้างการบริหารของหอการค้าไทย-จีน พร้อมหารือเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสององค์กรในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น