“เคหะสุขประชา” เผยผลสำเร็จจากแปลงทดลองร่วมกับ “เนคเทค” กลุ่มเปราะบางเข้าถึงระบบเกษตรคาร์บอนต่ำ สร้างอาชีพไม่กระทบชุมชน
เคหะสุขประชา ในเครือการเคหะแห่งชาติ เผยผลสำเร็จจากการต่อยอดความร่วมมือกับเนคเทค สวทช. ทำโครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ทดลองระบบบริหารจัดการชุมชนเกษตรคาร์บอนต่ำแบบ Real-time จากแปลงสาธิตขยายผลสู่ครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง ตอกย้ำภารกิจสร้างอาชีพโดยไม่กระทบชุมชนและมีรายได้อย่างยั่งยืน
ดร.ตวงอัฐ ชัยกิจโกสีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ศูนย์พัฒนาเศรษฐกิจสุขประชา และประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ในเครือการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) กับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ เนคเทค สวทช. บริษัทฯ ได้รับอนุมัติทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สังกัดสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำหรับการทำโครงการวิจัยชื่อ “โครงการระบบบริหารจัดการชุมชนเกษตรคาร์บอนต่ำแบบ Real-time” การทดลองระบบเทคโนโลยีการควบคุมและติดตามปริมาณการใช้น้ำและไฟฟ้าที่เหมาะสมแบบ real-time เพื่อให้เกิดการปล่อยคาร์บอนจากพืชในปริมาณต่ำ โดยไม่กระทบกับชุมชนและผู้อยู่อาศัยในบ้าน
“ศูนย์พัฒนาเศรษฐกิจสุขประชา ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการนี้ได้จัดทำแปลงเกษตรทดลอง (Sandbox) ที่ บมจ.เคหะสุขประชา สำนักงานใหญ่ (ร่มเกล้า) เพื่อปลูกผักสลัดอินทรีย์โดยใช้ระบบบริหารจัดการรดน้ำอัตโนมัติร่วมกับระบบแจ้งเตือนวัดปริมาณน้ำและความชื้นในดิน รวมถึงค่า parameter อื่นๆ ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชผักแบบ real-time และควบคุมระบบนิเวศให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ”
“การทดลองตลอดระยะเวลา 10 เดือนให้ผลลัพธ์อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ การนำเทคโนโลยีการเกษตรมาช่วยในการปลูก การติดตามผลให้กับครัวเรือนที่อยู่อาศัยในโครงการทดลองเคหะสุขประชา Sandbox ที่เป็นกลุ่มเปราะบางทางกายภาพ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ สามารถปลูกผักที่ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ สามารถนำมาบริโภคในครัวเรือน รวมถึงสามารถขายเพื่อสร้างรายได้ เป็น ‘เกษตรทฤษฎีใหม่’ ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับ ‘ศาสตร์พระราชา’ ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งศูนย์ฯ จะได้ถอดบทเรียนจากงานวิจัยนี้เพื่อพัฒนาปรับปรุงและขยายผลในพื้นที่เพาะปลูกแปลงเล็กจำนวนมาก รวมถึงพื้นที่แปลงใหญ่ต่อไปในอนาคต”
ทั้งนี้ อาชีพเพาะปลูก (เกษตรอินทรีย์) เป็นหนึ่งใน 6 กลุ่มอาชีพที่ บมจ.เคหะสุขประชา ได้ดำเนินการตามภารกิจ “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” เพื่อให้ครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง สามารถสร้างอาชีพ มีรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน








