Asia’s First and Finest Functional Medicine Hospital

 



Asia’s First and Finest Functional Medicine Hospital 

 
ภายในงาน Amazing Thailand Health and Wellness Showcase 2017 ซึ่งจัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการโชว์ศักยภาพประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพระดับโลก ภายใต้ธีม Thailand a Paradise for Longevity โดยนำ 44 ผู้ประกอบการโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพบาบาลชั้นนำของไทย BETTER BEING HOSPITAL ได้เข้าร่วมโชว์นวัตกรรมทางการเเพทย์แห่งศตวรรษ Functional & Regenerative Medicine หรือ สมุทัยเวชศาสตร์การแพทย์เป็นครั้งแรก ตอกย้ำภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพระดับโลก

นั่นเป็นที่มาที่ทำให้เราได้รู้จักการแพทย์เฉพาะทางที่เปิดให้การรักษาผู้ป่วยเรื้อรังมานานนับสิบปี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นที่รู้จักกันในแวดวงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำการบำบัดรักษากันอย่างต่อเนื่อง

.... วันนี้ กองบก. www.btripnews.net  ได้พบกับแพทย์หญิง กุสุมา CEO ของโรงพยาบาลแห่งนี้ ซึ่งคนไทยน้อยรายนักที่จะได้รับรู้ถึงคำว่า สมุทัยเวชศาสตร์การแพทย์  ซึ่งประเทศไทยยังเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียที่มีโรงพยาบาลเฉพาะทางด้าน Functional &Regenerative Medicine หรือ สมุทัยเวชศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางการเเพทย์แห่งศตวรรษ เน้นการรักษาสุขภาพเชิงป้องกันแบบบูรณาการ (Preventive & Holistic approach) เป้าหมายเพื่อส่งเสริมการมีชีวิตยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี (Longevity) ซึ่งเป็นเทรนด์การรักษาสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก


ก่อนจะเป็น BBH

.... คุณหมอเล่าประวัติให้เราฟังว่า “ .... หมอจบแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ปี 2545 หลังจากนั้นก็ไปเรียนต่อเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช พยาบาล ม.มหิดล หลังจากจบเฉพาะทางก็ทำงานด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูมาโดยตลอดในมหาวิทยาลัยรวมทั้งเป็นอดีตหัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟูมาก่อนที่จะออกมาเพื่อทำงานที่โรงพยาบาลบีบีเอช

ปัจจุบันคุณหมอทำงานในส่วนของการดูแลรักษาคนไข้ด้วยตนเองรวมถึงงานบริหารโรงพยาบาลBBH  โรงพยาบาลBBH ก่อตั้งมาโดยทีมแพทย์ที่ผู้เชี่ยวชาญด้าน Functional Medicine  เป็นแพทย์ไทยกลุ่มแรกที่ไปเรียนหลักสูตร Functional Medicine  โดยสถาบัน IFM ประเทศสหรัฐอเมริกา  เนื่องจากเป็นการรักษาที่สาเหตุของการเกิดโรค จึงเรียกเป็นภาษาไทยว่า สมุทัยเวชศาสตร์ โดยมาจากความหมายของ อริยสัจจสี่ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค   

โดยนิยามของคำว่า สมุทัยคือเหตุแห่งการเกิดทุกข์ การรักษาของBBH คือรักษาที่ต้นเหตุของเจ็บป่วย จึงเป็นที่มาของคำว่าสมุทัยเวชศาสตร์นั่นเอง 

และการรักษาของ BBH (Better Being hospital) จะใช้ภายใต้แนวทางของสมุทัยเวชศาสตร์ ทั้งหมด โดยทุกการรักษาจะได้รับการกำหนดตามความเหมาะสมกับคนไข้เฉพาะบุคคล 

....คุณหมอจึงได้นำ จากองค์ความรู้ทางเวชศาสตร์ฟื้นฟู รวมถึงสมัยที่เคยเป็นอาจารย์ในโรงเรียนแพทย์ มาต่อยอดการรักษาฟื้นฟูตามหลักการของสมุทัยเวชศาสตร์  เป็นการพัฒนาต่อยอดการรักษาเพิ่มเติมจากการฟื้นฟูสมรรถภาพแบบ conventional treatment ให้ดีขึ้นโดยเพิ่มการหาสาเหตุของการเกิดโรคและรักษาปัญหานั้นๆ


การรักษาแบบ สมุทัยเวชศาสตร์ 

คุณหมอกุสุมา เล่าต่อว่า “.....คำว่า สมุทัยเวชศาสตร์ คือการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบันนี่แหล่ะค่ะ ที่สนใจหาสาเหตุของการเกิดทุกข์หรือการเกิดโรคภัยไข้เจ็บเรื้อรังในคน โดยมองไปถึงความไม่สมดุลของระบบการทำงานพื้นฐานของร่างกาย อันเป็นสาเหตุส่วนใหญ่ของการเกิดโรคเรื้อรัง อาการที่แสดงให้เห็นเบื้องหน้าอาจมีสาเหตุที่ซ่อนลึกลงไปกว่านั้นในส่วนอื่นๆ ถ้าไม่ดูแลในจุดนี้ก็อาจเป็นสาเหตุของการกลับมาเป็นโรคเรื้อรัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากการรักษาแบบปกติ

การวินิจฉัยค้นหาสาเหตุคือแพทย์แผนปัจจุบัน  การเยียวยาบำบัด คือการแพทย์ผสมผสาน  เมื่อรวมการวินิจฉัยหาสาเหตุร่วมกับการบำบัดรักษาที่รากของปัญหา คือสมุทัยเวชศาสตร์

บทสรุปที่เราพยายามมาโดยตลอดคือเอาข้อดีและจุดเด่นของการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ร่วมกับการรักษาแบบผสมผสานแต่มีหลักการที่อธิบายได้ชัดเจนและพิสูจน์ซ้ำได้

แพทย์เฉพาะทางด้านต่างๆ ของ  BBH ประกอบไปด้วยแพทย์ ในสาขาต่างๆ ได้แก่ แพทย์ศัลยกรรมออโธปิดิกส์ แพทย์อายุรกรรมระบบประสาท แพทย์ เวชศาสตร์ฟื้นฟู  และแพทย์เวชศาสตร์ป้องกัน  โดยคุณหมอทุกท่านยังต้องผ่านการศึกษาfunctional medicineจาก IFM และเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุทัยเวชศาสตร์ ทุกท่าน ดังนั้นการรักษาที่BBHจึงเรียกได้ว่าประมวลความรู้ที่เป็นวิทยาศาสตร์เพื่อรักษาผู้ป่วยเรื้อรังแบบครบองค์ มุ่งหวังให้คนไข้ได้ประโยชน์ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยเรื้อรัง เป็นอันดับแรก



สิ่งที่แตกต่าง ระหว่าง BBH กับสถานพยาบาลอื่นๆ

   

 Conventional medicine see what, Functional medicine see how 

คุณหมอ กุสุมา กล่าวว่าความแตกต่างของ BBH คือ แนวทางการรักษา ด้วยหลักการของfunctional medicine หรือสทุทัยเวชศาสตร์ที่กล่าวมา  จากการที่เปิดบริการดูแลผู้ป่วยเรื้อรังมาเป็นระยะเวลานาน คนไข้เรื้อรังของโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยเรื้อรังที่บินมาเพื่อทำการรักษาที่โรงพยาบาลโดยเฉพาะ ตลอดเวลา 10ปีนี้ มากกว่า 80%ของผู้เข้ารับการรักษาคือชาวต่างชาติ ด้วยความที่สมุทัยเวชศาสตร์เป็นการรักษาที่ต้องให้ความรู้เป็นหลัก คงเป็นการง่ายสำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติที่ชอบค้นคว้าหาแนวทางการักษาที่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าที่คนไข้เคยได้เข้ารับการรักษาแล้วยังไม่สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บป่วยของคนไข้ได้ ในปีที่ผ่านมาเรามีคนไข้บินเข้ามารับบริการมากถึง 52 ประเทศทั่วโลก เป็นที่น่าภาคภูมิใจของBBH ที่โรงพยาบาลเป็นhealth destination for chronic illness ในกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังในต่างประเทศ เป็นต้นว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องมารักษาที่BBHให้ได้ หรือถ้าBBHรักษาไม่ได้แล้วคนไข้จะยอมรับแล้วว่าก็คงไม่มีที่สามารถจะทำการรักษาเขาได้อีกแล้ว 

การทำงานที่โรงพยาบาลBBH ทำให้เติมเต็มความรู้สึกดีๆในทุกๆวัน  การที่ได้เป็นกำลังใจสำหรับคนไข้ที่ไม่เคยยอมแพ้ การได้เห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นในทุกๆวันของผู้เข้ามารักษา การที่ได้เห็นและรู้สึกได้ถึงความรักและความอบอุ่นของสถาบันครอบครัวที่ช่วยกันดูแลคนไข้เป็นอย่างดี  

มีตัวอย่าง หลายๆครอบครัวต้องเดินทางมาทั้งบ้านเพื่อดูแลสมาชิกคนหนึ่งที่เจ็บป่วย แม้ว่าจะต้องข้ามทวีปหรือเดินทางมาหลายวัน การลางานและค่าใช้จ่ายที่สูง ก็ยังมุ่งมั่นเพื่อมารักษาที่เรา ดังนั้นแล้วจึงถือเป็นพันธกิจของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่จะรักและดูแลคนไข้ของเราทุกคนเปรียบดังคนในครอบครัวของเรา และนี่คือสิ่งที่BBH ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด

สุดท้ายแล้วก็คือความภูมิใจที่ทำให้สมุทัยเวชศาสตร์ของคนไทยได้รับการยอมรับจากคนไข้ที่มีปัญหาโรคเรื้อรังทั่วโลก



   


นำการรักษาดีดีแนะนำคนไทย 

คุณหมอ กุสุมา ขอฝากว่า คนเราก่อนที่จะเป็นอะไร ร่างกายจะฟ้องออกมาก่อนเสมอ ถ้าเราฟังสิ่งที่ร่างกายส่งสัญญาณออกมา อะไรมันเปลี่ยนไปบ้าง อย่าเพิกเฉยและทิ้งมันไปด้วยข้ออ้างต่างๆว่า มันไม่เป็นไรหรอก อาการไม่สำคัญหรอก หรือเพราะว่าแก่แล้ว หรือเพราะว่าเครียด จริงๆแล้วสิ่งเหล่านี้มันเป็นสัญญารบอกเหตุบางอย่าง การตรวจในโรงพยาบาลบางครั้งบอกต่อเมื่อคุณเป็นโรค แต่ไม่ได้บอกว่าคุณใกล้จะเป็น หรือห่างจากโรคที่ว่าแค่ไหนแล้ว สิ่งที่บอกว่าคุณห่างหรือใกล้จากโรคที่ว่าคือสัญญาณจากร่างกายคุณเอง



.... สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการทราบรายละเอียด สามารถติดต่อได้ที่ เลขที่ 11 ซอยสุขุมวิท 39 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. โทร 66-( 02 ) 662-8464-6  หรือ www.BetterBeingThailand.com