พม.แถลง งานวันผู้สูงอายุแห่งชาติประจำปี2560 ชูแนวคิด”สูงวัย สูงคุณค่า ร่วมพัฒนาประเทศไทยสู่ประชารัฐ”




วันนี้ (29 มี.ค.60) เวลา 10.00 น. ที่ห้องโถง ชั้น 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานงานแถลงข่าว การจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2560 ภายใต้แนวคิด “สูงวัย สูงคุณค่า ร่วมพัฒนาประเทศไทยสู่ประชารัฐ” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน 2560 ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ด้วย คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2525 อนุมัติและประกาศให้วันที่ 13 เมษายน ของทุกปี เป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” ดังนั้น วันที่ 13 เมษายน 2526 จึงนับเป็นปีแรกของ วันผู้สูงอายุแห่งชาติ และได้เลือก “ดอกลำดวน” เป็นสัญลักษณ์ของผู้สูงอายุ ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสู่สังคมสูงอายุ โดยได้ผลักดันมาตรการรองรับสังคมสูงอายุ 4 มาตรการ ประกอบด้วย 1) การส่งเสริมการจ้างงานผู้สูงอายุ 2) การสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ 3) สินเชื่อที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ และ4) การบูรณาการระบบบำเหน็จบำนาญ

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ผ่านกลไกประชารัฐเพื่อสังคม โดยการขับเคลื่อนด้วยตัวแทนของทั้ง 3 ภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ มีตนเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ภาคเอกชน มีนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และภาคประชาสังคม มี ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งจะมีคณะทำงานย่อยในแต่ละด้าน ร่วมกำหนดเป้าหมายและวางแนวทางดำเนินงานร่วมกัน Quick Win ในการขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐเพื่อสังคม (E6)
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐเพื่อสังคม (E6) แระกอบด้วย 1) คณะทำงานย่อยด้านการส่งเสริมการมีรายได้และการมีงานทำของคนพิการ นำโดยหอการค้าไทย และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) มีเป้าหมายจ้างงานคนพิการเพิ่ม16,000 อัตรา ในปี 2561 และส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับองค์กรของคนพิการ และวิสาหกิจเพื่อสังคมของคนพิการ 2) คณะทำงานการส่งเสริมการมีรายได้ และการมีงานทำของผู้สูงอายุ นำโดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน มีเป้าหมายให้ผู้สูงอายุทั้งในและนอกระบบ มีรายได้และมีงานทำเพิ่มขึ้น 39,000 อัตรา ในปี 2560 3) ด้านการออมเพื่อการเกษียณอายุ นำโดยตลาดหลักทรัพย์ มีการรณรงค์ด้านวินัยทางการเงินการออม เพื่อส่งเสริมให้เกิดการออมใน 4 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ แรงงานในระบบ แรงงานนอกระบบ ข้าราชการ และผู้สูงอายุ 4) ด้านที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อการอยู่อาศัย นำโดย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด หรือ SCG ซึ่งได้รวบรวมแบบบ้านผู้สูงอายุ ทั้งจากภาครัฐ และเอกชน และการเสริมสร้างทักษะการออกแบบ การก่อสร้างของวิชาชีพที่เกี่ยวข้องในระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ให้มีความรู้ด้าน Universal Design เป็นการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุ และ 5) ด้านความปลอดภัยทางถนน นำโดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. เสนอแผนการรณรงค์ เช่น กิจกรรมถนนคนดี การรณรงค์ในช่วงเทศกาลสำคัญ และตลอดจนการให้ความรู้การขับขี่ปลอดภัย เป็นต้น

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการจัดงานวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2560 มีกำหนดจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2560 ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ นิทรรศการการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุที่สำคัญ นิทรรศการหน่วยงาน องค์กรที่ดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ และบูธกิจกรรมภายในงานจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงดิจิตัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร การเคหะแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กองทุนการออมแห่งชาติ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย สมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย สมาคมคลังปัญญาอาวุโสแห่งประเทศไทย ชมรมคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตเพื่อผู้สูงอายุ เป็นต้น
“ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทย จะต้องร่วมกันผลักดัน ส่งเสริม และสร้างความตระหนักถึงพลังของผู้สูงอายุ พร้อมยกย่องและเชิดชูผู้สูงอายุผู้มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ ด้วยการเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม ตลอดจนผู้สูงอายุจะสามารถดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี พึ่งพาตนเองได้ และมีหลักประกันที่มั่นคง โดยบูรณาการความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน ท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ เพื่อความพร้อมที่จะก้าวไปสู่สังคม “สูงวัย สูงคุณค่า ร่วมพัฒนาประเทศไทยสู่ประชารัฐ”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย.