BEST Express ยกระดับคุณภาพศูนย์กระจายพัสดุ  ด้วยนวัตกรรมที่พัฒนาโดยตรงจากบริษัทแม่

ตลาดขนส่งพัสดุในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการปรับลดอัตราค่าขนส่งพัสดุลงอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง แต่ในปัจจุบันกลยุทธ์เหล่านี้ต้องเปลี่ยนเนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันแพง และไม่คุ้มทุน ดังนั้นการมุ่งขยายบริการด้านต่าง ๆ เน้นพัฒนาด้านนวัตกรรมเพื่อต่อยอดคุณภาพการบริการจะเป็นแผนที่ยั่งยืนในการทำธุรกิจมากกว่า

BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ผู้ให้บริการ รับ-ส่ง พัสดุด่วนทั่วไทย มีสาขาให้บริการครอบคลุม 77 จังหวัด ภายใต้การดำเนินการของ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ให้ความสำคัญเรื่องของการพัฒนาคุณภาพของบริการต่าง ๆ เป็นอันดับแรกในการดำเนินธุรกิจ เพราะเชื่อว่าคุณภาพการบริการที่ดีส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าได้โดยตรง จึงมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีทั้งซอฟต์แวร์และเครื่องจักรต่าง ๆ ที่ทันสมัยและมีการพัฒนาโดยตรงจาก เบสท์ (BEST Inc.) ในประเทศจีน บริษัทแม่ของ เบสท์ ประเทศไทย มาใช้ภายในศูนย์กระจายพัสดุ (HUB) ที่ต้องรองรับการคัดแยกพัสดุจำนวนมหาศาลจากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีการนำโปรแกรมและระบบต่าง ๆ มาใช้ อาทิ ระบบการคัดแยกสินค้าอัตโนมัติ ระบบการวัดขนาด และน้ำหนักอัตโนมัติ และการนำเครื่องจักรต่าง ๆ มาช่วยเพิ่มความรวดเร็วของการคัดแยกพัสดุ มาใช้ภายในศูนย์กระจายพัสดุ BEST Express กรุงเทพฯ

นอกจากการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อพัฒนาด้านบริการและคุณภาพของศูนย์กระจายพัสดุ (HUB) ของ BEST Express แล้ว บริษัทฯ ยังได้รับมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 (ไอเอสโอ 9001 เวอร์ชัน 2015) Quality Management System (QMS) จาก LRQA องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจประเมินระบบคุณภาพชั้นนำของโลก โดยมีขอบข่ายครอบคลุมถึงการบริการจัดส่งพัสดุด่วน และการบริหารจัดการคลังสินค้า ณ สำนักงาน ศูนย์กระจายพัสดุ และคลังสินค้าของบริษัทฯ เพื่อแสดงถึงความเป็นเลิศด้านคุณภาพ และความมีประสิทธิภาพของการดำเนินการให้บริการขนส่งพัสดุด่วนและบริการบริหารจัดการคลังสินค้าที่ได้มาตรฐานสากล ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่า พัสดุทุกชิ้นที่ส่งกับ BEST Express จะไปถึงปลายทางอย่างรวดเร็วและปลอดภัย มั่นใจได้ในบริการ