“สถาบันพระปกเกล้า”ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ/เอกชน ลงพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยว หวังกระตุ้นรายได้พลิกฟื้นชุมชนวิถี

นักศึกษาหลักสูตรการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน รุ่นที่ 22 ของสถาบันพระปกเกล้า ประกอบด้วยผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้ออกแบบเส้นทางท่องเที่ยว อ บ้านโป่ง จ ราชบุรี ภายใต้โครงการ“แวะเมืองผ่าน สราญเมืองเก่า” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองและให้เกิดการกระจายรายได้แก่ผู้ประกอบการ / ผู้ให้บริการรายย่อย

วัดจันทราราม




โดยคณะนักศึกษาของสถาบันพระปกเกล้าได้นำนักท่องเที่ยว สื่อมวลชน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์ ร่วมทดสอบเส้นทาง ในวันที่ 11 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อรับฟังความคิดเห็น และเมื่อการทดสอบเส้นทางแล้วเสร็จ จะได้ปรับปรุงตามข้อเสนอแนะและส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเทศบาลเมืองบ้านโป่ง นำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่อไป

วัดดอนตูม
ทั้งนี้อำเภอบ้านโป่งในอดีตเป็นเมืองการค้า เมืองท่าที่สำคัญ มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาตั้งแต่ยุคทวาราวดี จนถึงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นและสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความเจริญมากที่สุดในภาคตะวันตก ด้วยความเจริญของเส้นทางการคมนาคม การค้าขายที่เปลี่ยนรูปแบบไปประกอบกับมีจุดท่องเที่ยวอื่นๆ ให้เลือกมากขึ้น ทำให้ความสำคัญของการเป็นศูนย์กลางความเจริญในภูมิภาคนี้ลดลงไปมาก คนที่อยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นเก่า ลูกหลานส่วนใหญ่ไปประกอบอาชีพอื่นนอกพื้นที่ แต่ยังคงมีรากเหง้าของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอยู่บ้าง

ซึ่งคณะได้เดินทางลงพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยในช่วงเช้าของวันเดินทางไปไหว้ "หลวงพ่ออโนทัย"และ "หลวงพ่อขาว" ภายใน "วัดจันทราราม" หลังจากนั้นเดินทางต่อไปที่ "วัดดอนตูม" ซึ่งมีมัคคุเทศก์อาสาบรรยายและนำชมสถานที่ ที่วัดแห่งนี้เป็นแหล่งประดิษฐาน "พระพุทธสิหิงค์" ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 โปรดเกล้าถวายวัดดอนตูม

ทางขึ้นชมพระพุทธสิหิงค์







ด้านบนได้ถูกนำเอาไหสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาตกแต่ง
 
ทางเดินลงด้านล่าง
ที่ประดิษฐานหลวงพ่อผู้สร้างตำนาน
หลังจากนั้นเดินเล่นชื่นชม "สตรีทอาร์ต"ย่านโรงหนังเก่าไปพร้อมกับแวะชิมอาหารของคนท้องถิ่นที่มีให้เลือกมากมายหลากหลาย 

สตรีทอาร์ต





แม้บางแห่งจะเริ่มเก่าแต่ยังศิลปะยังคงอยู่


แวะอุดหนุนร้านค้าได้ตลอดสาย
 

 

 

 
ก่อนจะเดินทางกันต่อไปยัง"ศาลเจ้าแม่เบิกไพร" 
ศาลเจ้าแม่เบิกไพร




และศึกษาวิถีชุมชนท้องถิ่นที่"วัดม่วง" ซึ่งที่นี่มีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดม่วง ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมา จัดแสดงวัตถุโบราณ คัมภีร์ใบลานอายุกว่า 300 ปี ข้าวของเครื่องใช้ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง


องค์พระสังกัจจายน์ถูกปกคลุมด้วยต้นโพธิ์อายุนับร้อยๆปี



แสดงการทอผ้าวิถีชุมชน




ด้านในพิพิธภัณฑ์



 

 
 
พระพุทธรูปโบราณ
เครื่องถ้วยชามแบบจีน


หลังจากนั้นเดินทางกันต่อไปจิบกาแฟชิลๆ ที่"ร้าน SOP ( Sense of Peace )" ร้านที่ดีไซน์ออกมาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เหมาะกับการพักผ่อนหลังจากเดินทางมาทั้งวัน



 









หลังจากนั้นไปไหว้พระกันต่อ ที่"วัดใหญ่นครชุม" 



 

 
โบสถ์เก่าเคียงข้างโบสถ์ใหม่




ก่อนจะปิดเส้นทางกันที่"ตลาดยามเย็น"




 

 

ซึ่งการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวครั้งนี้ มุ่งเน้นให้เห็นและได้สัมผัสถึงคุณค่าของอำเภอบ้านโป่ง ที่ที่ยังมีแหล่งที่มีคุณค่า ทั้งวัฒนธรรม และวิถีชุมชน ถือเป็นชุมชนพหุวิถี ที่ควรค่าแห่งการเข้ามาเยือน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่เมืองผ่าน