สค. มอบวุฒิบัตรผู้สำเร็จการฝึกอบรม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นนทบุรี

ในวันพุธที่ 20 กันยายน 2560 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมมูลนิธิสงเคราะห์และพัฒนาเยาวสตรี ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมวิชาชีพ และมอบวุฒิบัตร แก่ผู้สำเร็จการฝึกอบรมวิชาชีพ หลักสูตร 720 ชั่วโมง รุ่นที่ 59 และหลักสูตรระยะสั้น นักเรียนโรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 วัดบางแพรกเหนือ ตามโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพแก่กลุ่มเสี่ยงในสถาบัน กล่าวรายงานโดย นางสาวนฤมล พงษ์สุภาพ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี ในการนี้ คณะผู้บริหารและหัวหน้าหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานในสังกัด พม. พื้นที่จังหวัดนนทบุรีได้มาร่วมเป็นเกียรติในงานดังกล่าว
 

นายเลิศปัญญา กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี เป็นหน่วยงานในสังกัดกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภาระหน้าที่ในการให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือสตรี เยาวสตรี และครอบครัวที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ถูกเลิกจ้าง ว่างงาน ตลอดจนผู้ประสบปัญหาทางสังคม ให้มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตนเอง และช่วยเหลือครอบครัว อันเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ครอบครัวได้ 
 

   

นายเลิศปัญญา กล่าวต่ออีกว่า ในปี 2560 ศูนย์ฯ ภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี ได้เปิดดำเนินการฝึกอบรมวิชาชีพแก่สตรีและบุคคลทั่วไปรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 59 หลักสูตร 720 ชั่วโมง และหลักสูตรระยะสั้น มีระยะเวลาการฝึกอบรมระหว่างวันที่ 20 เม.ย. ถึง 20 ก.ย. 2560 จำนวน 7 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ แผนกตัดเย็บเสื้อผ้า เสริมสวยสตรี ตัดผมชาย คอมพิวเตอร์ธุรกิจ อาหารและเบเกอรี่ นวดแผนไทย และการนวดด้วยน้ำมันหอมระเหย

นอกจากให้การฝึกอบรมวิชาชีพตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้แล้ว ยังไดัดำเนินการเตรียม ความพร้อมและส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพของผู้รับการฝึกอบรม โดยจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตควบคู่ไปกับการฝึกอบรมวิชาชีพ เมื่อผู้รับการอบรมสำเร็จการฝึกอบรมแล้วผู้สำเร็จการฝึกอบรมส่วนหนึ่งประสงค์จะให้ศูนย์ฯ จัดหางานให้ทำในสถานประกอบการ เช่น นวดแผนไทย ร้านเสริมสวย – ตัดผม ส่วนหนึ่งประสงค์จะหางานด้วยตนเองและกลับไปประกอบอาชีพยังภูมิลำเนาเดิมของตน 

ทั้งนี้สำนักงานธนานุเคราะห์ ได้มาร่วมสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เพื่อต่อยอดในการประกอบอาชีพ จำนวน 30 ราย ใน 2 สาขาอาชีพ คือ ตัดผมชาย จำนวน ๒๙ ราย และตัดเย็บเสื้อผ้า จำนวน 1 ราย นอกจากการฝึกอบรมในสถาบันแล้ว ศูนย์ฯ ยังได้ดำเนินการฝึกอาชีพระยะสั้น ตามโครงการสร้างชีวิตใหม่ให้แก่สตรีและครอบครัวแก่กลุ่มเป้าหมายในชุมชนเขตจังหวัดในภาคกลาง 15 จังหวัด 

ได้แก่ กาญจนบุรี นนทบุรี ราชบุรี สิงห์บุรี นครปฐม เพชรบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ปทุมธานี อ่างทอง และกรุงเทพมหานคร อนึ่ง ศูนย์ฯ ได้จัดทำโครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพแก่กลุ่มเสี่ยงในสถาบัน โดยอบรมอาชีพสาขาต่างๆ หลักสูตร 120 ชั่วโมง ให้แก่นักเรียนโรงเรียนนครนนท์วิทยา 4 วัดบางแพรกเหนือ ซึ่งอบรมเฉพาะวันพุธ ​สำหรับการฝึกอบรมอาชีพในรุ่นที่ 59 และหลักสูตรระยะสั้น มีผู้สำเร็จการฝึกอบรมโครงการฝึกอาชีพในสถาบัน จำนวน 226 คน โครงการฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพแก่กลุ่มเสี่ยงในสถาบัน จำนวน 120 คน รวมทั้งสิ้น 346 คน
 

      



"ผมขอให้นำความรู้ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตนเอง และครอบครัว ในขั้นต้นขอให้มีความตั้งใจในการทำงาน เพราะในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน การหางานทำเป็นไปด้วยความยากลำบาก เมื่อได้งานทำแล้วขอให้มีความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ ประหยัดและรู้จักเก็บออม และหากไม่ได้ทำงานกับนายจ้างหรือในสถานประกอบการ การประกอบอาชีพอิสระ ก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง 

หากมีปัญหาหรือไม่เข้าใจก็สามารถขอคำปรึกษาแนะนำจากศูนย์ฯ หรือหน่วยงานต่างๆ ของทางราชการที่ตั้งอยู่ในท้องถิ่นของท่านได้ หรือ โทร 1300 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรัยความสำเร็จในการฝึกอบรมวิชาชีพ รุ่นที่ 59 ใน ครั้งนี้ จะไม่เกิดขึ้นเลยหากไม่ได้รับความร่วมมือของหน่วยงานราชการ ครู อาจารย์ วิทยากร ตลอดจนผู้ให้การสนับสนุน ทุกท่าน ที่กรุณาสละเวลาร่วมดำเนินการตลอดจน อนุเคราะห์การฝึกภาคปฏิบัติ 

ซึ่งถือว่าท่านได้ มีส่วนร่วมในการพัฒนา และยกระดับสตรีเหล่านี้ให้เป็นบุคคลที่มีโอกาสในสังคมมากขึ้น และที่ขาดไม่ได้ คือ สำนักงานธนานุเคราะห์ที่ให้โอกาส และสนับสนุนมอบวัสดุอุปกรณ์ เพื่อต่อยอดในการประกอบอาชีพต่อไปครับ" นายเลิศปัญญากล่าวในตอนท้าย