รมว.ท่องเที่ยวมอบนโยบายส่งเสริมท่องเที่ยวตลาดอินเดีย พร้อม ททท.เสนอ 5 ประเด็นปลดล็อคตลาดอินเดีย หวังเร่งผลักดันการเดินทางนักท่องเที่ยวอินเดียเติบโต 2 ล้านคน ในปี 2567

วันนี้ (21 ก.พ.2567 เวลา 10.00 น.) ณ ห้อง Megu โรงแรม Leela Palace ได้มีการจัดการประชุมติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยว แผนการดําเนินงาน และโครงการส่งเสริมตลาด นักท่องเที่ยวอินเดีย ในปี 2567 ก่อนการเข้าร่วมงาน SATTE 2024 โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุม นายโชติ ตราชู ประธานกรรมการ ททท. นางวรนุช ภู่อิ่ม กรรมการ ททท. และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร ททท. เข้าร่วมการประชุมฯ

โดย รมว.กก. ได้มอบนโยบายและทิศทางการส่งเสริมตลาดอินเดียให้แก่ที่ประชุม ดังนี้
- ขยายวันพำนักและเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวอินเดียในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น 
- ส่งเสริมเรื่องการจัดกิจกรรม (Event Marketing) อาทิ งานเทศกาลมหาสงกรานต์ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง 
- การผลักดันเรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์อินเดียในประเทศไทย 
- การโปรโมทและส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองรองของประเทศไทย 
- กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว 365 วัน



 
 

 

ทั้งนี้ ททท. ได้รายงานสถานการณ์ตลาดอินเดียภาพรวมและทิศทางที่จะขับเคลื่อนตลาดอินเดีย และนำเสนอโครงการ/กิจกรรม และกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะดำเนินโครงการในปี พ.ศ. 2567 พร้อมทั้งในช่วงท้ายของการประชุม ได้กล่าวสรุปแผนงานและทิศทางการขับเคลื่อนตลาดอินเดีย โดยมีประเด็นที่ต้องการได้รับการสนับสนุนและะผลักดันให้รัฐบาลผลักดัน อาทิ
1. การต่อขยายการยกเว้นวีซ่า ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 10 พ.ค.2567
2. การขยายวีซ่านักท่องเที่ยวจาก 6 เดือนเป็น 2 ปี
3. การอํานวยความสะดวกนักท่องเที่ยวอินเดียสําหรับนักเดินทางครั้งแรก 
4. การปลดล็อก seat capacity ตามข้อตกลงการบินระหว่างประเทศไทย-อินเดีย
5. การพิจารณาอนุมัติเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินจากสายการบินแอร์อินเดีย เส้นทางจากมุมไบ-กรุงเทพฯ จากวันละหนึ่งเที่ยวบินเป็นสองเที่ยวบินต่อวัน

โดย ททท. คาดว่าหากมีการปลดล๊อค 5 ประเด็นเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันให้นักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าไทยถึงจำนวน 2 ล้านคนในปี 2567

ทั้งนี้ ตลาดอินเดียนับว่าเป็นตลาดหลักที่มีความสำคัญและเป็นโอกาสที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทั้งทางด้านจำนวนประชากรที่มากที่สุดในโลก (1.437 พันล้านคน) อัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2567 ที่คาดว่าจะเติบโตสูงถึงร้อยละ 7.3 จำนวนประชากรอินเดียที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะเพิ่มขึ้นและมีจำนวนเกือบ 2 หมื่นราย การเติบโตของอุสาหกรรมการบินอินเดียมีแนวโน้มจะเป็นหนึ่งในตลาดธุรกิจการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือแม้กระทั่งอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอินเดียที่จะขยับขึ้นเป็นลำดับที่ 3 ของโลกในปี พ.ศ.2570