“ธุรกิจนางงามไทย” บูมสุด ERM พร้อมขับเคลื่อนไปกับ “ไทยแลนด์ 4.0” เตรียมส่ง “ครีม ณัฏฐ์ญาภา”สู้ศึก “มิสโกลบอลซิตี้ เพเจ้นท์ 2017”

ไทยแลนด์ 4.0  (Thailand 4.0) คือโมเดลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในยุคนี้ที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วมไปด้วยกัน ช่วยกันผลักดันไปพร้อม ๆ กัน สิ่งสำคัญที่สุดในการทำให้โมเดลนี้ประสบความสำเร็จคือ ต้องคิดให้มาก คิดให้จบ อ่านให้ขาด ต้องกล้าเปลี่ยนแปลง อย่ามัวแต่โทษกันเมื่อมีอะไรผิดพลาด เพราะทุกอย่างเปรียบเสมือนการเรียนรู้ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงก็เหมือนกับเราย่ำอยู่กับที่ ซึ่งด้วยกับโมเดล Thailand 4.0 นี้บวกกับพลังของคนในชาติ การเปลี่ยนแปลงจาก “ประเทศกำลังพัฒนา” ไปสู่ “ประเทศพัฒนาแล้ว” คงไม่ใช่แค่เรื่องในความฝันอีกต่อไป (BANGKOKBANKSME)

   

จากการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ดังกล่าว จึงเป็นบันดาลใจให้กับ บริษัท อีอาร์เอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด ตัดสินใจเปิดตลาดเวทีประกวดระดับนานาชาติ โดยดูแลการบริหารลิขสิทธิ์การประกวดในระดับนานาชาติเจ้าแรกของประเทศไทยที่ถือครองลิขสิทธิ์การจัดการประกวดมากที่สุดในเอเชียกว่า 30 เวที ทั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจในการประกวดนางงามได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปจัด เพื่อเฟ้นหาตัวแทนคนไทยเข้าร่วมประกวดบนเวทีระดับอินเตอร์ นับว่าเป็นการเปิดยุค“ธุรกิจนางงาม” อย่างเต็มรูปแบบต้อนรับไทยแลนด์ 4.0 

ผลงานล่าสุด  อีอาร์เอ็ม (ไทยแลนด์) ประสบสำเร็จกับการส่งตัวแทนเข้าประกวดเวที “Miss China Asean Etiquette Pageant 2017” ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ผลปรากฏว่า ตัวแทนสาวไทย “เอิร์น-โสภิณัฐ มรรคผล” คุณครูสอนภาษาอังกฤษ สามารถคว้ามงกุฎกลับมาฝากคนไทยได้สำเร็จ นับเป็นการเปิดศักราชธุรกิจนางงามไทยโดยคนไทยได้อย่างสวยงาม

 เพื่อเป็นการตอกย้ำกระแสความแรงของสาวไทย อีอาร์เอ็ม (ไทยแลนด์) จึงได้ตัดสินใจคัดเลือกสาวไทยอีกครั้งเพื่อส่งเข้าร่วมประกวดบนเวที “มิสโกลบอลซิตี้ เพเจ้นท์ 2017” (MISS GLOBALCITY  PAGEANT 2017) ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้จัดแถลงข่าวขึ้น ณ โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11

   

นายณัฐวิชช์ เกตุทวี ที่ปรึกษาประธาน บริษัท อีอาร์เอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่เราตัดสินใจดำเนินธุรกิจทางด้านการซื้อขายลิขสิทธิ์เวทีประกวดนางงามต่างประเทศมากว่า 30 เวที แต่ละเวทีมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถือว่าเราเป็นรายใหญ่ที่สุดในเมืองไทยและในภูมิภาคเอเชีย ผลการดำเนินงานนับเป็นก้าวแรกที่น่าพึงพอใจในระดับหนึ่ง ยอมรับว่าในการทำงานย่อมมีปัญหาและอุปสรรคบ้าง แต่เราทำงานกันแบบมืออาชีพและทีมเวิร์กทำให้ผ่านปัญหาต่าง ๆ มากได้ ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันเวทีประกวดในเมืองไทยเกิดขึ้นมากมาย อุปสงค์กับอุปทานสอดคล้องกัน แต่ละเวทีที่จัดประกวดกันขึ้นมา มีผู้ให้ความสนใจสมัครเป็นจำนวนมาก ยังไม่เคยเห็นเวทีไหนไม่มีคนสมัครประกวด

 “อีอาร์เอ็ม (ไทยแลนด์) มีนโยบายที่ชัดเจนคือ การคัดเลือกตัวแทนคนไทนไม่จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเข้าสู่การประกวดเวทีระดับนานาชาติ เพราะเราต้องการเปิดโอกาสคนไทยได้แสดงศักยภาพด้านการประกวดว่า บุคคลากรของเรามีความพร้อมทุกด้าน และสิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือ การเป็นทูตทางด้านต่าง ๆ เช่น การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา ของไทยเพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศไทยให้เป็นรู้จักกันอย่างแพร่หลาย อย่างกรณีเวที มิสโกลบอลซิตี้ เพเจ้นท์ 2017 จะเน้นเรื่องการประชาสัมพันธ์ทางด้านสันติภาพ สิทธิมนุษยชน และการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจวัฒนธรรม ทั้งนี้ในอนาคตเราคงต้องพัฒนากระบวนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนผลิตเวทีการประกวดคอนเซ็ปต์ดี ๆ เพื่อขายลิขสิทธิ์ให้กับเวทีต่างชาติบ้าง

  

นายณัฏฐกรณ์ ศิริบุตร ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ “มิสไทยแลนด์  โกลบอลซิตี้  เพเจ้นท์ 2017”  (MISS THAILAND  GLOBALCITY  PAGEANT 2017)  เพื่อคัดเลือกตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมประกวดเวที “มิสโกลบอลซิตี้ เพเจ้นท์ 2017” กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า ขณะนี้เทรนด์การประกวดในเมืองไทยมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งไม่มีท่าทีว่าจะลด โดยเฉพาะนางงาม สมัยก่อนจัดประกวดเสร็จแล้วก็จบ มีเพียงไม่กี่เวทีระดับประเทศส่งนางงามไปประกวดต่อในระดับนานาชาติ ปัจจุบันผู้จัดประกวดเวทีต่าง ๆ ได้ก้าวข้ามตรงจุดนั้นมาแล้ว ผู้จัดทุกคนสามารถสร้างฝันของตนเองก้าวไปสู่ระดับใหญ่ ด้วยการส่งนางงามเข้าร่วมประกวดในระดับอินเตอร์ได้ โดยมีคนไทยเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์เวทีนานาชาติ อย่างเช่น อีอาร์เอ็ม (ไทยแลนด์) คอยประสานงานและอำนวยความสะดวกให้ จึงทำให้ไม่ใช่เป็นเรื่องยากสำหรับผู้จัดประกวดอีกต่อไป

   

   

อย่างกรณีลิขสิทธิ์การส่งตัวแทนสาวไทยเข้าร่วมประกวดบนเวที มิสโกลบอลซีตี้ เพเจ้นท์ 2017 ผมได้รับคำแนะนำจากคณะผู้บริหาร อีอาร์เอ็ม (ไทยแลนด์) ในการคัดเลือกเวทีประกวดเป็นอย่างดี บวกกับต้นทุนและประสบการณ์ในการทำงานด้านนางงามและผลงานนางงามล่าสุดของผมคือ การส่ง น้องเอิร์น-โสภิณัฐ มรรคผล” ไปคว้าตำแหน่งชนะเลิศ “Miss China Asean Etiquette Pageant 2017” ที่จีนด้วยแล้ว 

จึงทำให้มั่นใจได้ว่า เวทีนางงามอินเตอร์ที่ 2 ของผมคงไปถึงฝั่งฝันที่เป็นจริงได้ไม่ยาก อนาคตการประกวดนางงามจะกลายเป็นธุรกิจมีการแข่งขันสูง คนที่จะอยู่ได้ต้องไม่พัฒนารูปแบบไม่หยุดอยู่กับที่ สามารถเป็นผู้นำด้านการจัดประกวดนางงาม และปีหน้า มิสไทยแลนด์ โกลบอลซิตี้  เพเจ้นท์ ปี 2018 ผมจะทำให้ดีที่สุด

“นางงามไทยจะประสบความสำเร็จบนเวทีได้ หลัก ๆ เลยคือ ต้องตอบโจทย์ของเวทีนั้นให้ได้ว่า เขาต้องการนางงามที่มีคุณสมบัติอย่างไร ทำหน้าที่อะไร ความสามารถของนางงามเราก็ต้องรอบด้านด้วย ฉลาดพูดคือ มีทักษะการพูดที่ดี รวมถึงภาษาอังกฤษต้องพอสื่อสารได้ ฉลาดคิดคือ คิดอย่างสร้างสรรค์ คิดบวก ฉลาดทำคือ ทำให้ดี ทำให้เป็น ทำให้โดน 

โดยเฉพาะด้านโซเชี่ยลมิเดียต้องใช้ให้เป็นและเกิดประโยชน์ต่อตนเอง ผมจะตั้งสโลแกนไว้เลยคือ..นางงามไทยยุคใหม่ต้องคิดสร้างสรรค์ได้ ใช้เทคโนโลยีเป็น...”

ครีม-ณัฏฐ์ญาภา ศรีจูมพล มิสไทยแลนด์ โกลบอลซีตี้ เพเจ้นท์ 2017 กล่าวว่า มีสองสิ่งในชีวิต     ของครีมที่จะต้องรักษาไว้ให้ดี เพราะถ้าหากพลาดแล้วเราจะไม่มีวันได้กลับคืนมา นั่นคือ โอกาสดี ๆ  และ เวลาดี ๆ  ดังนั้นเมื่อ อีอาร์เอ็ม (ไทยแลนด์) มีการคัดเลือกตัวแทนไปประกวด “มิสโกลบอลซิตี้ เพเจ้นท์ 2017” ครีมจึงไม่พลาดโอกาสและเวลาเลย เรามองว่า การที่มีคนหรือทีมงานจัดคัดเลือกตัวแทนนางงามไปประกวดต่างประเทศ เขาต้องย่อมตกผลึกความคิดและการทำงานแล้วว่าดี ถือว่าเป็นการันตีในเบื้องต้น

สำหรับความพร้อมในการประกวดครั้งนี้ครีมมีหลักในการเตรียมตัวคือ อีอาร์เอ็ม (ERM)E- Education การศึกษาในทุกมิติ ทั้งจากในและนอกตำรา อย่างเช่น ศึกษาเวทีการประกวด ความรู้รอบตัว เหตุบ้านการเมือง ทั้งนี้การศึกษาจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน R-Relationship ความสัมพันธ์ อย่างที่มีคนกล่าวไว้ว่า “ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกไว้ดั่งใจจง” ครีมจะใช้ความสัมพันธ์ที่ดีและเสน่ห์ความเป็นไทยมัดใจทุกคนค่ะ

M- Management เราต้องมีการบริหารจัดการที่ดี มีความเตรียมพร้อมไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม กิจกรรมต่าง ๆ  ความสามารถ การพูด บุคลิกภาพ และปฏิภาณไหวพริบในการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ครีมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ ขอกำลังใจจากทุก ๆ คนด้วยนะคะ

นายเดอร์ริค แอนดรู กู๊ซ (Derrick Andrew Gooch)  ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 เครือแมริออท ในฐานะผู้ให้การสนับสนุน กล่าวว่า เหตุผลที่เราสนับสนุนการจัดงานแถลงข่าวการส่งตัวแทนไปประกวด มิสโกลบอลซีตี้ เพเจ้นท์ 2017 เนื่องจากว่า สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของโรงแรมที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มคนรุ่นใหม่หรือเจนวายเป็นพิเศษ เพราะคนกลุ่มนี้มีศักยภาพ มีความสนใจและน่าค้นหา เหมือนเช่นโรงแรมของเราที่สามรถตอบสนองไลฟ์สไตล์หลากหลาย เรามีพื้นที่โปร่งโล่งและบรรยากาศสดใส ให้ลูกค้ารู้สึกสบาย ๆ มีความเป็นส่วนตัว เรามีความเข้าใจในชีวิตยุคเทคโนโลยีและดิจิทัล

“ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่โรงแรมเราจะได้มีโอกาสเป็นเจ้าบ้านต้อนรับกลุ่มคนไทยที่จะเดินทางมาร่วมงานในครั้งนี้ อยากให้ทุกคนได้เข้ามาสัมผัสในส่วนต่าง ๆ ของโรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ ที่ออกแบบอย่างสวยงามและมีความร่วมสมัย เช่น บาร์ เล้าจน์ ห้องจัดประชุม ห้องจัดงาน แล้วคุณจะหลงใหลในเสน่ห์ที่จะดึงดูดมัดใจคุณให้กลับมาเยือนอีกหลาย ๆ  ครั้ง ผมยินดีที่จะสนับสนุนอีเว้นท์ที่สอดคล้องกับนโยบายของโรงแรม โดยเฉพาะในเรื่องของความคิดใหม่ๆ  มีความทันสมัย”

คุณอนุรี อนิลบล กรรมการบริหาร บริษัท เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI) หนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนครั้งนี้ กล่าวว่า ในฐานะตัวจากเอ็มทีไอ ผู้ผลิตเครื่องสำอางโดยคนไทย จึงอยากมีส่วนร่วมในความภาคภูมิใจของสาวไทยบนเวทีการประกวดนางงามระดับนานาชาติ ที่ต้องบอกว่า เดี๋ยวนี้สาวไทยสวยกันมากขึ้น ซึ่งองค์ประกอบสำคัญยิ่งที่ทำให้สาวไทยสวยนั่นคือ เสื้อผ้า หน้า ผม ที่ต้องไปด้วยกันอย่างกลมกลืน เพราะยุคนี้เป็นยุคกล้อง HD เวลามีการถ่ายทอดทางทีวีจะเห็นหน้าชัดมาก ดังนั้นจึงมีการผลิตเครื่องสำอางที่รองรับกับกล้อง HD ซึ่งเอ็มทีไอก็มีใช้ ทำให้หน้าสวย เป๊ะ เว่อร์

จากประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสเป็นคณะกรรมการตัดสินนางงามเวทีน้อยใหญ่ ตั้งสังเกตว่า หนึ่งในปัญหาสำคัญของนางงามคือ การแต่งหน้าไม่เป๊ะ ดังคำกล่าวที่ว่า “แต่งหน้าผิดชีวิตเปลี่ยน” บางคนดูหน้าสวยนะ แต่พอแต่งแล้วดูแก่ไปเลย ทั้ง ๆ ที่อายุไม่มาก บ้างก็หน้าวอกหน้าลอย เพราะใช้แป้งผิดเบอร์ การแต่งหน้าเป็นศิลปะที่ต้องใช้เทคนิคไม่ว่าจะเป็นเรื่องความประณีต ความละเอียด และการรู้จักแก้ไขโครงหรือรูปหน้าสูงมาก ที่สำคัญคือ การแต่งหน้าให้กับ ทรงผมและชุดเสื้อผ้า หากอย่างใดอย่างหนึ่งบกพร่องแล้วก็จบเห่

“ที่ผ่านมาเอ็มทีไอได้จัดอบรมการแต่งหน้าสำหรับผู้เข้าประกวดเวทีต่างๆ มาแล้วมากมาย เพื่อที่จะให้เห็นผู้เข้าประกวดสามารถแต่งและดูแลหน้าด้วยตนเองได้ ไม่เพียงแค่เวทีการประกวดเท่านั้น คุณยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ซึ่งมีความจำเป็นและสำคัญมาก เพราะอยู่ในกองประกวดไม่ว่าในหรือต่างประเทศ การช่วยเหลือตัวเองได้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราอย่าเอาอนาคตทางการประกวดไปฝากไว้กับช่างแต่งหน้าหรือช่างทำผม ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้นดีที่สุด”

นายแพทย์สมชาย เชี่ยวชาญเวช ศัลยแพทย์ความงามและผิวพรรณแห่ง คลินิกแพทย์สมชาย ผู้ให้การสนับสนุน กล่าวว่า  หลายครั้งกองประกวดพบกับปัญหานางงามเกิดอาการแพ้บริเวณผิว โดยเฉพาะบริเวณผิวหน้า เนื่องจาก อาทิ เครื่องสำอาง อาหาร อากาศ  ฝุ่นละอองในอากาศ ยาปฏิชีวนะ สารเคมีต่าง ๆ จนเกิดเป็นเม็ดสิว ผดผื่นคัน ทำเอานางงามบางคนต้องเข้าพบหมอรักษาอาการด่วน บางคนไม่สามารถประกวดต่อได้ แต่ถ้าหากเรามีความรู้เรื่องการดูแล การถนอมผิวพรรณ วิธีป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับผิวหน้าและผิวพรรณ ก็จะทำให้การประกวดนั้นราบรื่นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะเมื่อเราเดินทางไปประกวดในต่างประเทศ

“ทางคลินิกแพทย์สมชายจะดูแลเรื่องผิวพรรณของนางงามก่อนที่จะเดินไปประกวดในต่างประเทศ พร้อมให้คำแนะนำต่าง ๆ โดยเฉพาะข้อควรระวังทำอย่างไรไม่ให้เกิดอาการแพ้แล้วมีสิวขึ้นบนใบหน้าได้ ซึ่งเราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การที่คนเรามีผิวหน้าที่สดใสผิวพรรณที่สดสวยย่อมทำให้เรากลายเป็นจุดเด่นที่คนจะมองเรา ทำให้ดูมีสง่าราศี ออร่าจับ โดดเด่นบนเวทีประกวด หลายเวทีมีการตั้งรางวัลพิเศษสำหรับผู้เข้าประกวดที่มีผิวดีด้วย”

นายประเสริฐ เจิมจุติธรรม กูรูนางงามและผู้เชี่ยวชาญการประกวดในฐานะที่ปรึกษาการจัดงานในครั้งนี้ กล่าวว่า จะว่าไปแล้วนางงามในยุคนี้ ไม่ว่าเป็นคนไทยหรือต่างชาติ มีความสวยกันมากขึ้น เพราะสมัยนี้มีนวัตกรรมและศัลยกรรมด้านความงามที่เนรมิตให้คนเราสวยได้ภายในพริบตา ในเมื่อทุกคนสวยกันหมด แต่สิ่งที่ทำให้เรามีความแตกต่างจากคนอื่นคือ ความสวยของสมองและจิตใจ หมายถึงว่า เรามีสมองที่ทั้งเฉลียวและฉลาด มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและเกินเกม เป็นผู้หญิงที่คิดบวก

ทางด้านความสูงก็มีส่วนสำคัญ ดูเหมือนว่าทุกเวทีไม่ต้องนางงามที่สูงน้อยมารับรางวัลชนะเลิศ โดยเฉพาะเมื่อส่งไปประกวดในระดับนานาชาติ หากเลือกคนที่สูงน้อยไปก็ตกหลุมอากาศเมื่อยืนประกบเพื่อน ๆ  อีกประการหนึ่งคือ นางงามบ้านเราควรจะมีเวลาเตรียมตัวไปประกวดต่างประเทศให้มากกว่านี้ อย่างเช่น ประเทศเวเนซุเอล่า มีเวลาให้นางงามเตรียมตัวประมาณ 1 ปี จึงไม่แปลกที่นางงามจากประเทศโกยมงกุฎทุกเวทีและเวทีละหลายๆ  ครั้งด้วย

สำหรับการแถลงข่าวเปิดตัวผู้เข้าประกวดบนเวที มิสโกลบอลซิตี้ เพเจ้นท์ 2017 ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่ง สถานที่จัดงานโรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 (Aloft Bangkok - Sukhumvit 11),เครื่องสำอางเอ็มทีไอ บริษัท เมคอัพเทคนิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MTI),ผลิตภัณฑ์และดูแลทรงผมโดย ชลาชล (CHALACHOL ),สำนักข่าวบางกอกทูเดย์,สถานีโทรทัศน์ไอพีเอ็ม (IPM),ผลิตภัณฑ์เซรั่ม CHO BEY,ห้องเสื้อลอร่า บายมองซิเออร์ (Lorra by Moniour),บริษัท IMAGE ARTIST ENTERTAINMENT จำกัด (IAE) และ SGS สถาบันอัญมณีวิทยา

ทั้งนี้ น้องครีม-ณัฏฐ์ญาภา ศรีจูมพล จะออกเดินทางไปประกวด “มิสโกลบอลซิตี้ เพเจ้นท์ 2017” ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันอาทิตย์ที่ 15 ตุลาคม 2560 เวลา  ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ-นามสกุล   ณัฏฐ์ญาภา ศรีจูมพล     ชื่อเล่น   ดรีม

อายุ 24 ปี    สัดส่วน 34-24-36     น้ำหนัก 53   กิโลกรัม    ส่วนสูง   173  เซนติเมตร

การศึกษา  ปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาการพัฒนาชุมชน 

                  มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

ความสามารถพิเศษ ฟ้อนดาบ,ศิลปะมวยไทย,เดินแบบ

ผลงาน  1.นางสาวลำพูน ปี 2558

            2.มิสอาเซียนไทยแลนด์ ปี 2558

            3.รองอันดับ 2 นางสาวเชียงใหม่ ปี 2559

            4.มิสโกลบอลซิตี้  ไทยแลนด์ เพเจ้นท์ 2017

คติประจำใจ ทุกครั้งที่ลงมือทำมีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จเสมอ