ก.แรงงาน จับมือ 7 แบงค์ เปิดบริการชำระเงินประกันสังคมผ่าน e-Payment

วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๐.๐๐ น. นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) และระบบ NSW การให้บริการรับเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่านตู้บุญเติม ณ ห้องประชุมจอมพล ป.พิบูลสงคราม ชั้น ๕ อาคารกระทรวงแรงงาน 


โดยกล่าวกับสื่อมวลชนในโอกาสเป็นประธานในพิธี ลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ระหว่าง สำนักงานประกันสังคม และธนาคารที่ให้บริการรับชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมและผู้ให้บริการตู้บุญเติม ณ กระทรวงแรงงานว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๘ เห็นชอบในหลักการแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e – Payment Master Plan) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาระบบการชำระเงินของประเทศไทยเข้าสู่ระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจรแทนการใช้เงินสดหรือเช็ค และการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ของธนาคารโลก ในตัวชี้วัดที่ ๗ ด้านการชำระภาษี (Paying Taxes) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐ เข้าสู่ Thailand 4.0 ตามยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี 
 

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า สำนักงานประกันสังคม ได้พัฒนารูปแบบการส่งข้อมูลการชำระเงินสมทบและการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e – Payment) แทนการยื่นแบบแสดงรายการที่เป็นเอกสารและลดการใช้เงินสดหรือเช็ค ซึ่งจะทำให้นายจ้างได้รับความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย และได้พัฒนารูปแบบวิธีการต่างๆ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงระบบของนายจ้างที่มีความหลากหลาย รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้นายจ้างชำระเงินสมทบเพิ่มมากขึ้น โดยออกประกาศกระทรวงแรงงานขยายเวลายื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e - Payment) ออกไปอีก ๗ วันทำการ โดยไม่เสียเงินเพิ่มตามกฎหมาย 

และในวันนี้สำนักงานประกันสังคมโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคมจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมการชำระเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e – Payment) แทนนายจ้าง โดยมีธนาคารที่ปรับปรุงระบบเรียบร้อย พร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ รวม ๗ ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารมิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพมหานคร ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น และได้พัฒนาช่องทางการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ National Single Windows (NSW) โดยมี ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมให้บริการตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ นี้ 


นอกจากนี้ยังได้เพิ่มช่องทางการให้บริการรับชำระเงินสมทบแก่ผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ โดยร่วมกับบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการรับชำระเงินสมทบผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ผ่านตู้บุญเติม เพื่อรองรับการให้บริการผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ ที่อยู่ตามตำบล หมู่บ้านที่ไม่มีสาขาธนาคาร และหน่วยบริการที่ให้บริการตั้งอยู่ ด้วยจำนวนตู้ที่ให้บริการชำระเงินมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ตู้ทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนตามมาตรา ๔๐ สามารถเลือกใช้บริการชำระเงินสมทบเพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งทางเลือกอีกด้วย