ในวันที่ 8 ธ.ค.60 เวลา 10.30 น. ณ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้เผยถึงงานที่กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ได้มีการเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างการใช้ชีวิตร่วมกับชาวต่างชาติของหญิงไทย โดยใช้ “คลินิกให้คำปรึกษาสำหรับหญิงไทยในสังคมพหุวัฒนธรรม”
นายเลิศปัญญา กล่าวว่า ปัจจุบันผู้หญิงไทยสมรสกับชาวต่างชาติมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสังคมเปิดกว้างการเดินทางและติดต่อสื่อสารมีความสะดวกรวดเร็ว ผู้หญิงมีสิทธิที่จะเลือกคู่ครองได้อย่างอิสระและด้วยความยินยอมพร้อมใจ แต่ด้วยความแตกต่างทางสังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะภาษา อีกทั้งขาดการเตรียมพร้อมในด้านต่าง ๆ ก่อนเดินทางไปใช้ชีวิตคู่ในต่างประเทศ ทำให้ผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับชาวต่างชาติประสบกับความทุกข์ยากลำบากในการใช้ชีวิตคู่ อาทิ ถูกกดขี่ข่มเหงจากสามีชาวต่างชาติ และถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
นายเลิศปัญญา กล่าวต่ออีกว่า สค. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐในการส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิง ความเสมอภาคของหญิงและชาย และความเป็นปึกแผ่นของครอบครัว เพื่อความมั่นคงในการดำรงชีวิต จึงจำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงไทยในต่างประเทศให้ได้รับการปฏิบัติจากสามีชาวต่างประเทศตามที่เหมาะสมและควรจะเป็น เพื่อไม่ให้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อมทั้งเปิดช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานภาครัฐกรณีขอความช่วยเหลือหากประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศได้
“สค. มีเว็บไซต์ yingthai.net และ Application Yingthai ที่เป็นแหล่งให้ความรู้และแจ้งขอความช่วยเหลือ ตลอดจนได้สร้างเครือข่ายการช่วยเหลือในนครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สค. กับองค์กรภาคเอกชน เช่น Thai Community Development Center, Thai Health and Information Services และ The Thai Muslim Community of USA เป็นต้น
ซึ่งเครือข่ายอาสาสมัครหญิงไทยในต่างประเทศทุกคน สามารถให้การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาในเบื้องต้นได้ นอกจากนี้ พม. ยังได้มีการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือ ผ่านทางสายด่วน 1300 โดยโทรหมายเลข +66 99 130 1300 หรือจะติดต่อผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อว่า hotline 1300 ก็ได้
อีกทั้ง เมื่อหญิงไทยต้องการกลับมาประเทศไทย พม. ก็พร้อมประสานกับกรมการกงสุล ที่จะให้ความช่วยเหลือกลับมาประเทศไทย และช่วยเหลือด้านการพัฒนาอาชีพ ซึ่ง สค. มีศูนย์พัฒนาสตรีและครอบครัว 8 แห่งในภูมิภาค รวมถึง คลินิกสะใภ้ไทยเขยฝรั่ง ที่เป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารและความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน ความเสี่ยงจากการสมรสข้ามวัฒนธรรม การเตรียมตัวก่อนการสมรสกับชาวต่างชาติ การการใช้ชีวิตหลังการสมรสข้ามวัฒนธรรม และเป็นศูนย์กลางการให้บริการปรึกษาในเรื่องดังกล่าวอีกด้วย” นายเลิศปัญญา กล่าวในตอนท้าย
