ต้องมนต์ “คาโกชิมะ” เสน่ห์เมืองธรรมชาติ

“ถ้าอยากสัมผัสพลังงานของแผ่นดิน ทะเล และผู้คน ก็ต้องไปคาโกชิมะ”

“เมื่อกลับจากการเดินทางในคาโกชิมะ เราเชื่อว่าคุณจะแนะนำคาโกชิมะให้กับคนรู้จักและเพื่อน ๆ เพราะที่มีเปี่ยมด้วยพลังของผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติด้วยรอยยิ้ม”



นี่คือหลากหลายคำเชื้อเชิญให้มาเยือน “คาโกชิมะ” หรือชื่อเดิม “ซัทสึมะ” ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะคิวชู สมัยก่อนคาโกชิมะมีการติดต่อกับหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างคึกคักในฐานะประตูทางทิศใต้ของญี่ปุ่น รวมทั้งกับริวกิว (โอกินาว่าในปัจจุบัน) จีน และเกาหลี ทั้งนี้คาโกชิมะคือเมืองหนึ่งที่ได้รับวัฒนธรรมตะวันตกอย่างรวดเร็ว เช่น ปืน และศาสนาคริสต์



ลักษณะทางภูมิศาสตร์-ภูมิอากาศ
 คาโกชิมะมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 9,187 ตารางกิโลเมตร มีระยะทางจากเหนือถึงใต้ประมาณ 600 กิโลเมตร โดยมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 จากทั้งหมด 47 จังหวัดในประเทศญี่ปุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 19 องศาเซลเซียส ซึ่งเมื่อเทียบกับที่อื่นในประเทศ ที่นี่จะมีอากาศอบอุ่น แต่ก็ประกอบไปด้วยลักษณะภูมิอากาศที่หลากหลาย ทางตอนเหนือของคาโกชิมะมีพื้นที่ซึ่งมีหิมะตกอย่าง อ.อิสะ ส่วนทางตอนใต้ก็มีพื้นที่กึ่งโซนร้อนอย่างหมู่เกาะอามามิ ส่วนสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติมีความซับซ้อนและมีหลายลักษณะ ทำให้ที่นี่มีพืชและสัตว์มากหมายหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่ สร้างความตะลึงเป็นอย่างมาก

จุดเด่นที่ตราตรึงใจ


 ลักษณะพิเศษของคาโกชิมะคือ แนวภูเขาไฟคิริชิมะ ซึ่งทอดยาวตั้งแต่ทิศเหนือจรดใต้ ทำให้มีภูเขาไฟกระจายอยู่โดยรอบ 23 ลูก ตั้งแต่คิริชิมิทางตอนเหนือมาจนถึงหมู่เกาะโทคาระทางตอนใต้ ในบรรดาภูเขาไฟเหล่านี้ ซากุระจิมะ ชินโมเอะดาเกะ เกาะอิโอ คือภูเขาไฟที่ยังประทุอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ชวนให้สัมผัสถึงพลังงานของแผ่นดิน จากคาบสมุทรชัทสึมะทางตะวันตกจนถึงคาบสมุทรโอสึมิทางตะวันออก มีเกาะจำนวนมากเรียงเรายราวหินปูทางเดิน ทั้งเกาะทาเนะกะ เกาะยากุ เกาะอามามิโอ และเกาะโยรง



เสน่ห์ธรรมชาติ “เกาะ” ที่ชวนให้หลงใหล
 ธรรมชาติและระบบนิเนศอันหลากหลายที่คงอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณคือหนึ่งในเสน่ห์ที่สร้างความเป็นจังหวัดคาโกชิมะ




 

เกาะยากุ : คือมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของญี่ปุ่นที่ได้การรับรองจาก UNESCO ในปี 1993 เกาะยากุมีภูเขาสูงระดับ 1,000 เมตร ทอดตัวเรียงรายกว่า 40 ลูก จนมีฉายาว่า “เทือกเขาแอลป์บนท้องทะเล” จะได้พบกับกวางและลิงในธรรมชาติที่ยังบริสุทธิ์ รวมทั้งต้นสนโจมอนสึกิ ซึ่งเป็นต้นไม้ยักษ์โบราณที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งว่ากันว่ามีอายุถึง 72,000 ปี




 

เกาะทาเนะกะ : เป็นจุดปล่อยจรวดที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เกาะแห่งนี้สามารถเพลิดเพลินกับกีฬาทางทะเลที่หาดอันสวยงาม บริเวณน้ำตื้นชายฝั่งทะเลได้ตลอดทั้งปี




 

เกาะโคชิกิ : มีเกาะร้างขนาดเล็กกลางทะเลจำนวนมาก มีหน้าผาที่ดูเร้าใจ รวมทั้งทะเลสาบและบึงที่พิเศษกว่าใคร มีป่าธรรมชาติที่ไม่เคยถูกทำลาย ซึ่งเป็นป่าไม้ใบใหญ่ไม่ผลัดใบที่อุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่หาชมที่อื่นไม่ได้
 หมู่เกาะอามามิ : ประกอบด้วยเกาะมากมาย อาทิ เกาะโยรง และ เกาะอามามิโอ เป็นป่ะรรมชาติที่ไม่เคยถูกทำลายเป็นขุมทรัพย์ที่มีทั้งดอกไม้ที่ใกล้สูญพันธุ์ รวมทั้งพืชและสัตว์หายาก เช่น กระต่ายดำอามามิ และ นกรุริคาเคสึ นอกจากนี้ยังมีชายหาดยูริกาฮามะ ที่บางช่วงจะเห็นพื้นทรายขาวงดงามราวสวรรค์บนดินที่อยู่ใต้น้ำทะเลสีฟ้าใส



ภูเขาไฟ “ซากุระจิมะ”
 “ซากุระจิมะ” เป็นภูเขาไฟที่มีชื่อดังระดับโลก ซึ่งยังมีการประทุอยู่ เป็นภูเขาไฟประเภทกรวยภูเขาไฟสลับชั้น สูงจากระดับน้ำทะเล 1,117 เมตร บางครั้งเถ้าภูเขาไฟตกลงปกคลุมตัวเมืองโดยรอบ แต่ผู้คนก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับภูเขาไฟอย่างสงบสุขและแข็งแกร่ง



“ซากุระจิมะ” ศูนย์กลางคาโกชิมะ
 เกาะซากุระจิมะสัญลักษณ์ของจังหวัดคาโกชิมะ เป็นพื้นที่สำคัญทางการเมือง เศรษฐกิจ การกระจายสินค้า วัฒนธรรม เป็นสถานที่หายากในโลกที่สามารถเห็นภูเขาไฟพ่นควันและลาวา



อาหารอิ่มอก อิ่มใจ อิ่มท้อง
 คาโกชิมะมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสภาพอากาศที่กำลังดี จึงทำให้เป็นหนึ่งในไม่กี่จังหวัดที่สามารถผลิตได้ทั้งพืชผลและทำปศุสัตว์ เช่น คุโรบุตะ วัวดำญี่ปุ่น ไก่ มันเทศ เหล้าโชจู ชาเขียว เสาวรส ปลาบุริ ปลาคัมปาจิ ปลาคุโระมากุโระ ปลาไหล หัวไชเท้าซากุระจิมะ เป็นต้น มีจำนวนการเลี้ยงเนื้อหมู เนื้อวัวญี่ปุ่น และจำนวนการส่งออกเนื้อไก่ที่ผลิตมากที่สุดในญี่ปุ่น




 

คุโรบุตะ : จุดสำคัญที่ทำให้คุโรบุตะรสชาติดีคือเนื้อเยื่อที่ละเอียดและไขมัน ซึ่งละลายในอุณหภูมิที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับเนื้อหมูชนิดอื่น คุโรบุตะได้รับความนิยมจากความนุ่ม ให้สัมผัสการเคี้ยวที่ดี และอัดแน่นไปด้วยความอร่อย ไม่ว่าจะเป็นราเม็งคาโกชิมะที่ใช้คุโรบุตะย่างกับน้ำซุปกระดูกหมู หรือชาบูชาบู อีกทั้งยังมีหมูชุบเกล็ดขนมปังทอดที่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ


 

วัวดำ : มีลักษณะเด่นอยู่ที่ลายหินอ่อน (มีชั้นไขมันแทรก) ซึ่งมีความสมดุลกับเนื้อที่ละเอียดนุ่ม จึงได้รับความนิยมทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ไม่ว่าจะนำไปทำสุกียากี เนื้อย่าง หรือ สเต๊ก ก็อร่อยจนทำให้ต้องเผลอยิ้มออกมา


 

ชาเขียว : คาโกชิมะเป็นแหล่งผลิตชาได้มากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ ชาคาโกชิมะถือกำเนิดมาจากแสงแดดเจิดจ้าและแผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ มีลักษณะเด่นคือ สีเขียวที่ล้ำลึก รสชาติที่เข้มข้น และความอร่อยชุ่มฉ่ำ ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวจะได้เห็นทุ่งชาใบสีเขียวเข้มเงางามทอดตัวยาวสุดสายตา


 

เหล้าโชจู : เป็นเหล้ากลั่นชนิดหนึ่งในกลุ่มเหล้ากลั่นที่เป็นที่นิยมอย่างวิสกี้และวอดก้า เหล้าโชจูของคาโกชิมะมีมากกว่า 2,000 แบรนด์ และมีความหลากหลายอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเหล้าชัทสึมะโชจู อามามิโคคุโตโชจู เหล้าโชจูที่ทำจากข้าวและข้าวบาร์เลย์ ทั้งนี้คาโกชิมะผลิตและบริภคเหล้าโชจูในปริมาณที่ติดอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น วิธีการดื่มสามารถดื่มได้ทั้งแบบออนเดอะร็อค ผสมน้ำ ผสมน้ำร้อน และผสมโซดา เป็นต้น



เมืองแห่งออนเซ็น
 คาโกชิมะมีภูเขาไฟมากมาย จึงมีบ่อน้ำพุร้อนคุณภาพดีผุดออกมาทั่วจังหวัด ที่เด่น ๆ เช่น “อิบุสึกิออนเซ็น” อุดมไปด้วยบ่อน้ำพุร้อน จนว่ากันว่าแค่ขุดลงไป 1 เมตร ก็จะพบน้ำพุร้อนผุดออกมาทุกหนแห่ง มีที่พักพร้อมออนเซ็นจำนวนมาก การแช่ออนเซ็นให้สบายช่วยผ่อนคลายความอ่อนล้าจากชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ที่อิบุสึกิออนเซ็นยังมี “ออนเซ็นอบทรายร้อนธรรมชาติ” ที่หาได้ยากในโลก ออนเซ็นอบทรายคือ การนอนลงบนทรายทั้งชุดยูคาตะ จากนั้นจึงกลบทับตั้งแต่ด้านบนด้วย ทรายที่อุ่นด้วยความร้อนจากน้ำพุร้อนซึ่งผุดขึ้นมาจากชายฝั่ง ร่างกายจะค่อย ๆ อุ่นขึ้นด้วยความร้อนจากทราย ในเวลาประมาณ 10 นาที จะมีเหงื่อออกทั่วตัวและระบบหมุนเวียนโลหิตจะดีขึ้น ให้ผลดีมากในเรื่องการกำจัดสารพิษ จึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง นอกจากนี้ยังได้ชมทิวทัศน์ที่แปลกตาของไอน้ำที่อบอวลขึ้นมาจากคลื่นในบริเวณพื้นที่ให้บริการออนเซ็นอบทราย



“คิริมะออนเซ็น” กล่าวกันว่าที่นี่ได้ชื่อว่าคิริชิมะ เพราะมองดูเหมือนเกาะท่ามกลางทะเลหมอก ย่านออนเซ็นในคิริชิมะโอบล้อมไปด้วยความเขียวขจีของป่าลึก ซึ่งหลังจากการเดินป่าตามทิวเขาคิริชิมะ ผู้คนส่วนใหญ่นิยมไปพักในที่พักที่มีบ่อน้ำพุร้อนในหุบเขา
 “คาโกชิมะออนเซ็น” ในคาโกชิมะมีแหล่งน้ำพุร้อนมากถึง 280 แห่ง โรงอาบน้ำที่เรียกว่า “เซ็นโต” เกือบทั้งหมดเพิ่มความหรูหราโดยการใช้น้ำพุร้อนธรรมชาติ การแช่น้ำร้อนให้สบาย พลางชมควันที่พ่นออกมาจากภูเขาไฟซากุระจิมะก็เป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งของออนเซ็นคาโกชิมะ



เส้นการเดินทาง
 การเดินทางไปคาโกชิมะ โดยเครื่องบินจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมง จากโอซาก้าประมาณ 1.10 ชั่วโมง จากฟูกุโอกะประมาณ 50 นาที โดยสถานีรถไฟชินคังเซ็น จากชินโอซาก้า เร็วที่สุด 3.44 ชั่วโมง จากฮิโรชิม่า เร็วที่สุด 2.21 ชั่วโมง และ จากฮาคาตะ (ฟุกุโอกะ) เร็วที่สุด 1.17 ชั่วโมง