อธิบดี พส. เดินหน้ามอบของขวัญ Family Data เปิดประตูเยี่ยมบ้าน สร้างสะพานสู่สวัสดิการสังคม

เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๕.๔๕ น. ที่ผ่านมา นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ร่วมกับกรมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ๑๓๐๐ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และภาคีเครือข่าย เดินหน้ามอบของขวัญ Family Data ลงพื้นที่เปิดประตูเยี่ยมบ้าน สานต่อสวัสดิการสำหรับผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ณ บริเวณชุมชนสุดสาคร แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
 

นางนภา กล่าวว่า จากนโยบายของพลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการขับเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งมุ่งยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดีให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างสังคมคุณภาพที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และในปี ๒๕๖๑ พม.ได้จัดเตรียม ๙ ของขวัญปีใหม่ เพื่อส่งความสุขให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ และหนึ่งในของขวัญสำคัญของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ คือ Family Data เปิดประตูเยี่ยมบ้าน สร้างสะพานสู่สวัสดิการสังคม 

โดยนำข้อมูลผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐที่ดำเนินการ โดยกระทวงการคลังแล้วมาดำเนินการคัดกรองผู้ไม่มีรายได้ มีหนี้นอกระบบ หรือหนี้อุปโภค บริโภคและมอบหมายให้ทีม One Home ของกระทรวงฯ ในทุกจังหวัดร่วมกับร่วมกับอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ซึ่งผ่านการอบรมมาแล้วเก็บข้อมูลผู้ลงทะเบียนฯ ตามคุณสมบัติดังกล่าว ด้วยแบบสัมภาษณ์ที่จัดทำขึ้นเพื่อค้นหาปัญหาและวางแผนแก้ไขปัญหาในมิติของสังคมแก่กลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีการ Case Management

   

   

 รวมทั้งจัดให้มีการติดตามผลและประเมินผลการแก้ไขโดย อบต. อปท. และอพม. มีส่วนร่วมในการจัดทำช่วยเหลือ โดยการช่วยเหลือทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวยังมีการสนับสนุนข้อมูลให้แก่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือให้แก่กลุ่มเป้าหมายตามความเหมาะสมในภารกิจของหน่วยงาน ซึ่งจุดมุ่งเน้นในการดำเนินการ คือ การนำข้อมูลผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ มาใช้ในการทำงาน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและดำเนินการสานต่อในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
 

 นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ร่วมกับ กรมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ๑๓๐๐ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และภาคีเครือข่าย ลงเคาะประตูเยี่ยมกลุ่มเป้าหมาย ๒ ครอบครัว ดังนี้ ๑) ครอบครัวนางสาวอริสรา ตันติเวชภูมิ อายุ ๕๓ ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ ๑๐๗๘/๑๔๐ ชุมชนสุดสาคร แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. (บ้านเช่าเดือนละ ๓,๐๐๐ บาทต่อเดือน) ประกอบอาชีพรับจ้างนำผู้ป่วยไปพบแพทย์ มีภาระต้องดูแลมารดา ซึ่งพิการทางการเคลื่อนไหวและเป็นโรคสมองฝ่อ ส่วนพี่สาวมีอาการทางจิต ซึ่งนางสาวอริสราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมด ถึงแม้จะมีฐานะยากจน แต่นางสาวอริสรายังมี จิตอาสา คอยช่วยเหลือคนพิการในชุมชนให้สามารถเข้าถึงสิทธิสวัสดิการของรัฐได้หลายราย ในฐานะอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 

๒) ครอบครัวนายไกร สลาธนะชัย อายุ ๖๘ ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ ๓๑๒/๒ ซอยบ้านช่างหล่อ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย สมาชิกในครอบครัวเป็นพี่น้อง ๓ คน ประกอบด้วย นายไกร สลาธนะชัย นางสาวกรรณิกา สลาธนะชัย อายุ ๖๔ ปี และนางสาวพรรณี สลาธนะชัย อายุ ๕๙ ปี พิการอัมพฤกษ์ซีกขวา ทั้งสามคนไม่ได้ประกอบอาชีพ เคยค้าขายแต่ขาดทุนจึงเลิกกิจการตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ 

บ้านที่พักเป็นที่ดินที่คนรู้จักกับบิดาอนุญาตให้ปลูกสร้างตั้งแต่ปี ๒๕๑๒ มีรายได้จากเบี้ยผู้สูงอายุ และเบี้ยผู้พิการ ค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอต่อการยังชีพ และครอบครัวนี้ไม่ได้ ขึ้นทะเบียนสิทธิสวัสดิการภาครัฐ ทั้งนี้นางนภา เศรษฐกร อธิบดีพส. ได้มอบหมายให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานครร่วมกับภาคีเครือข่ายดำเนินการให้คำปรึกษา และวางแผนช่วยเหลือทั้ง ๒ ครอบครัว เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐอย่างเป็นระบบ
 

กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พร้อมบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วน ในการหนุนเสริมภารกิจเพื่อการพัฒนาสังคม การพิทักษ์คุ้มครองสิทธิประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาสหรือผู้อยู่ในภาวะยากลำบากที่จำเป็นต้องได้รับการดูแล เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ ลดความ เหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นางนภา กล่าวในตอนท้าย