ไทย – อิสราเอล กระชับความร่วมมือ ดูแลแรงงานไปทำงานภาคเกษตรทุกมิติ

รมว.แรงงาน ให้การต้อนรับ นายเมอีร์ ชโลโม (H.E.Mr.Meir Shlomo) เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย หารือความร่วมมือจ้างแรงงานไทยทำงานในภาคเกษตร แลกเปลี่ยนข้อตกลงให้แรงงานได้รับการคุ้มครอง ปราศจากระบบนายหน้า กำชับ กรมการจัดหางานปฐมนิเทศแรงงานก่อนเดินทางไปทำงาน ป้องกันยาเสพติด

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังให้การต้อนรับ นายเมอีร์ ชโลโม (H.E.Mr.Meir Shlomo) เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะและหารือความร่วมมือด้านแรงงาน ณ ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชั้น 6 อาคารกระทรวงแรงงาน ว่า ปัจจุบันมีแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลแล้วกว่า 28,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ไปทำงานในภาคเกษตร การหารือในวันนี้เพื่อให้เกิดความร่วมมือที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยการติดต่อแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจข้อตกลงต่างๆ ระหว่างระบบราชการของทั้งสองประเทศเพื่อให้แรงงานได้งานทำที่ดี ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายจากรัฐบาลอิสราเอล รวมทั้งเพื่อไม่ให้มีระบบนายหน้าอีกด้วย 

  
พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวต่อว่า ได้เสนอให้รัฐบาลอิสราเอลปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้นายจ้างหักเงินเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อเป็นทุนให้กับแรงงาน เมื่อแรงงานสิ้นสุดสภาพการจ้างแล้วก็จะมีเงินออมกลับมา ซึ่งในเดือนพฤษภาคม 2561 นี้ รัฐบาลไทย โดยกระทรวงแรงงานจะเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาระหว่างไทยและอิสราเอล ซึ่งทั้งสองประเทศจะได้พูดคุยหารือประเด็นด้านแรงงานให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น 



ส่วนปัญหาแรงงานไทยที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น ได้มอบหมายให้กรมการจัดหางานปฐมนิเทศให้ความรู้แก่แรงงานเพื่อเตรียมตัวก่อนเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างเข้มงวดการหารือดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการกระชับความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานและทางการอิสราเอล

ทั้งยังเป็นโอกาสอันดีที่กระทรวงแรงงานจะได้สร้างความเข้าใจถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาเพื่อพัฒนาความก้าวหน้าในการจ้างแรงงานไทยทำงานชั่วคราวในภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล โครงการความร่วมมือไทย – อิสราเอลเพื่อการจ้างงาน (TIC Project) การดำเนินงานตามความตกลงด้านแรงงานระหว่างรัฐบาลไทยและอิสราเอล ซึ่งนอกจากจะกระชับความร่วมมือโครงการต่างๆ ที่อยู่ภายใต้รัฐบาลทั้งสองประเทศให้แน่นเฟ้นมากยิ่งขึ้นแล้ว จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคตอีกด้วย