“บิ๊กอู๋”ย้ำ หัวหน้า สนร. เพิ่มช่องทางขยายตลาดงาน พร้อมเป็นที่พึ่งแรงงานไทยในต่างแดน

รมว.แรงงาน มอบนโยบายหัวหน้าสำนักงานแรงงานในต่างประเทศ ย้ำ เป็นที่พึ่งแรงงานไทยในต่างแดนได้ กำชับ เพิ่มช่องทางตลาดงาน ประสานความช่วยเหลือคุ้มครองแรงงานให้ได้รับการดูแลแทนรัฐบาลไทยได้ มีแผนเผชิญเหตุ สร้างเครือข่ายภาคประชาชน บูรณาการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และวางระบบข้อมูลด้านแรงงานให้สะดวกต่อการใช้งาน

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวมอบนโยบายแก่หัวหน้าสำนักงานแรงงานในต่างประเทศ ณ ห้องประชุมอัมพร จุณณานนท์ ชั้น 10 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ว่า ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจในภารกิจนักการทูตด้านแรงงาน ซึ่งมีเกียรติมีศักดิ์ศรี และทำงานอย่างทุ่มเทเต็มความสามารถอย่างเต็มเปี่ยม มีวินัย ซื่อสัตย์สุจริตในการทำงาน ซึ่งจะเป็นเกียรติภูมิของตนเอง ของกระทรวง และของประเทศชาติ

ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศให้การคุ้มครองแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศต่างๆ เป็นที่พึ่งของแรงงานไทยได้เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม อาทิ ตกงาน ออกจากงาน ค่าจ้าง นายจ้าง สวัสดิการ ปัญหาสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ให้การช่วยเหลือในทางคดีเมื่อแรงงานถูกหลอกลวงหรือละเมิดสิทธิ เป็นต้น โดยประสานการให้ความช่วยเหลือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้แรงงานได้รับการดูแลจากรัฐบาลไทยด้วยความใส่ใจ

พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวต่อว่า หัวหน้าสำนักงานแรงงานในต่างประเทศจะต้องเน้นย้ำให้แรงงานไทยได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการทำงานของประเทศต่างๆ เช่น การทำเกษตรแบบสมัยใหม่ของประเทศอิสราเอลเพื่อจะได้นำเอาเทคโนโลยีเครื่องมือที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในงานเกษตรของประเทศไทย เป็นต้น พร้อมทั้งส่งเสริมและเปิดโอกาสให้แรงงานไทยได้เข้าไปทำงานในต่างประเทศโดยการประสานงานเพื่อหาช่องทางในการเปิดตลาดงานในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยจะต้องคัดเลือกผู้ที่มีทักษะฝีมือ มีมาตรฐานงาน และวินัยในการทำงาน

นอกจากนี้ สำนักงานแรงงานในต่างประเทศต้องมีแผนเผชิญเหตุเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ อาทิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ วิกฤติการณ์ความไม่สงบของประเทศที่มีแรงงานไทยไปทำงาน เป็นต้น เพื่อจะได้ให้การช่วยเหลืออพยพแรงงานได้อย่างทันท่วงที

พล.ต.อ.อดุลย์ฯ ยังได้เน้นย้ำให้มีการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดูแลแรงงานไทย รวมทั้งให้มีการแต่งตั้งตัวแทนของเครือข่ายแรงงานไทยในแต่ละประเทศเพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น ตลอดจนการวางระบบข้อมูลด้านแรงงานของแต่ละประเทศให้มีความสะดวกต่อการใช้งานได้อีกด้วย

“ข้าราชการไทย ควรยึดถือ Good Governance คือ หลักการทำงานภายใต้กฎหมาย เน้นความโปร่งใส การมีส่วนร่วม คำนึงถึงความคุ้มค่า รับผิดชอบ และซื่อสัตย์ จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รับการเชื่อถือ”พล.ต.อ.อดุลย์ฯ กล่าวในท้ายสุด