OTOP นวัตวิถี สิงห์บุรี Inno-Way จังหวัดที่ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง

การเดินทางเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของชีวิต ไม่จำเป็นว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล ปลายทางของการเดินทางคือการเติมเต็มชีวิตให้มีสีสัน โดยในครั้งนี้มีทั้งสื่อมวลชน และ พิธีกร ทอดด์ ทองดี ที่มีชื่อจริงว่า โทมัส เจมส์ ลาเวลล์ (Thomas James Lavelle) ร่วมเดินทาง OTOP นวัตวิถี สิงห์บุรี 

ซึ่งสถานที่ต่างๆ เหล่านี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ มีทุกรสชาติ ครบทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดชุมชน OTOP นวัตวิถี บ้านตาลเดี่ยวใต้ , วัดวิหารแดง "หลวงพ่อแดง"เดิมเป็นวัดร้าง, ชุมชนชาวถนนตก ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี พร้อมออกเดินทางเพื่อสร้างความสุขกับทริป OTOP นวัตวิถี สิงห์บุรี Inno-Way

จุดเริ่มต้นเช้าวันนี้ บ้านตาลเดี่ยวใต้ กับงานเปิดตลาดชุมชนท่องเที่ยว otop นวัตวิถี บ้านตาลเดี่ยวใต้ หมู่ 1 ตำบลทองเอน จังหวัดสิงห์บุรี พื้นที่สร้างสรรค์รวมความหลากหลาย โดยมี นายสุทธิพงศ์ พุทธจันทรา นายอำเภออินทร์บุรี เป็นประธานเปิดงานตลาดนัดชุมชน OTOP นวัตวิถี บ้านตาลเดี่ยวใต้ ชุมชน OTOP นวัตวิถี ดำเนินงานภายใต้โครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" เพื่อสร้างชุมชนเข็มแข็ง ยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และรายได้ให้แก่ชุมชน การสร้างตลาดใหม่ และเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ OTOP เข้ากับการท่องเที่ยว โดยการจำหน่ายสินค้าอยู่ในชุมชน



โดยใช้เสน่ห์ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์เปลี่ยนเป็นรายได้ ผลิตสินค้าและบริการ รวมทั้งมีการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวระดับชุมชน ที่มีเสน่ห์ดึงดูดและมีคุณค่าพร้อมให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือน และใช้จ่ายเงินในทุกกิจกรรมของชุมชน ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืน อย่างแท้จริง

ในส่วนของสินค้า OTOP ชาวบ้านและคนในชุมชนนำสินค้าที่ผลิตเอง ส่งเสริมให้การศึกษาเรียนรู้ เกี่ยวกับเกษตรกรรม แต่ถ้าเป็นเรื่องอาหารการกิน ที่จังหวัดสิงห์บุรี ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมบ้านตาลเดี่ยวใต้เยอะมาก หลายท่านบอกว่ามาที่นี่ไม่มีผิดหวังกลับไปแน่นอน เพราะเรื่องอาหารพื้นถิ่น มีมากมาย ขอยกตัวอย่างเช่น







-ลาบมะเขื่อ
-ต้มส้มฟัก
-ปลาส้มทอด
-บัวลอยสามเกลอ / ขนมสามเกลอ / น้ำสามเกลอ 
-กล้อยตากเคลือบช๊อกโกเเลต
-ขนมสอดใส่ / ขนมตาล

ส่วนสินค้า OTOP โดยชาวบ้านและคนในชุมชนนำสินค้าที่ผลิตเอง เช่น พืช ผัก ผลไม้ น้ำพริกผลิตภัณฑ์ปลาร้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัด สินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน เสื้อผ้าสำเร็จรูป กระเป๋าถือ และของใช้ต่างๆ ที่นำมาจำหน่ายในราคาไม่แพง เดินเล่นสนุก เพลินๆ ไม่ร้อน แต่หิ้วของเต็มไม้เต็มมือกันเลย



ยอดนิยมและขึ้นชื่อว่าขายดี แทบจะผลิตไม่ทัน สั่งรอกันข้ามปี คือ กระเป๋าผ้า งอบแฟนซีสวยโดดเด่นที่เดียวในประเทศไทย ไม่มาถือว่าพลาดอย่างแรง แล้วพบกันที่ตลาดชุมชนบ้านตาลเดี่ยวใต้ 
ที่นี่ เปิดทุกวันอาทิตย์ของต้นเดือน

















วัดวิหารแดง "หลวงพ่อแดง" เดิมเป็นวัดร้าง





"วัดวิหารแดง" เดิมเป็นวัดร้าง ตั้งอยู่ที่หมู่ 11 ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ห่างจากอนุสาวรีย์วีระชนบางระจันไปตามถนน สิงห์บุรี - สุพรรณบุรี ประมาณ ๖ กิโลเมตร จากหลักฐานบางอย่าง (เช่นอิฐก่อสร้างวิหาร) เชื่อได้ว่า "วัดวิหารแดง"เป็นวัดสมัยเดียวกันกับ "วัดโพธิ์เก้าต้น"ซึ่งเคยเจริญรุ่งเรืองในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย


วัดวิหารแดง"และชุมชนชาวบ้านทองเลื่อน ร่วมกันบูรณะฟื้นฟู "วัดวิหารแดง" ให้กลับดังเดิม เพื่อจะได้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และปัจจุบันเป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจ, เป็นที่อบรมชี้แนะแนวทางพ้นทุกข์ตามรอยพระศาสดาและสืบต่อพระศาสนา





ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ชุมชนชาวถนนตก

ยุคปัจจุบัน OTOP นวัตวิถี ที่ไม่ได้เน้นแค่ตัวสินค้าเท่านั้น แต่เน้นสร้างผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดเป็นชุมชนท่องเที่ยวภายในบริเวณโดยรอบ ด้วยความพิเศษของสภาพที่ตั้ง 

คุณป้าสุกัลยา พาทีมงานไปยังบ้าน นายบุญพา บุญคง หรือ คุณกบ หมู่ที่ 11 ต.บางระจัน อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ภายในบริเวณโดยรอบ จัดเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจ และมุมแสดงกิจกรรมทางการเกษตร ด้วยความพิเศษของสภาพที่ตั้ง ชาวบ้านที่ดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการผลิต



คุณกบเล่าต่อให้ฟัง ที่นี่ชุมชนมีรายได้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง มาเที่ยวที่นี่ได้ความรู้มาเติมสมองแบบไม่ต้องลงทุนจัดเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจ และมุมแสดงกิจกรรมทางการเกษตร มาเที่ยวที่นี่ได้ความรู้มาเติมสมองแบบไม่ต้องลงทุน มาชม 3 ผลิตภัณฑ์ ที่สร้างรายได้ให้ชุมชน

-มะนาวดอง มะนาวพืชพื้นบ้านที่ประโยชน์ไม่บ้านตามชื่อ มีสรรพคุณหลากหลายตั้งแต่ใช้ลดน้ำหนัก รักษาสิว การเพิ่มมูลค่าของสินค้าให้มีราคาเพิ่มมากขึ้น โดยปกติเกษตรกรขายมะนาวลูกราคาลูกละ 50 สต. หรือ 2 ลูก 1 บาท ไม่ใช่เพียงเท่านั้น การเพิ่มมูลค่าจากการทำมะนาวดอง ช่วยเพิ่มผลผลิตได้ถึงลูกละ 5 บาท






-ปุ๋ยมูลไส้เดือน มูลไส้เดือนทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ธรรมชาติคุณภาพดี มีผู้สนใจหันมาเลี้ยงไส้เดือนพันธุ์แอฟริกันไนท์ครอเลอร์ ด้วยปัจจัยที่จะทำให้เลี้ยงไส้เดือนเจริญเติบโตดี ตัวโต ขยายพันธุ์รวดเร็ว 
รวมถึงได้มูลไส้เดือนที่จะไปทำปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี คือ ต้องให้ไส้เดือนกินอาหารที่มีคุณประโยชน์สูง คุณกบ นำมาปรับสูตรแล้วออกมาจำหน่ายสร้างรายได้จำหน่ายในราคา 20 บาท /ถุง

-จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่พบได้ทั่วไปตามธรรมชาติทั้งในดินและกำจัดของเสีย ก๊าซและสารพิษต่างๆ มีวิธีการผลิตง่ายโดยการสังเคราะห์แสง ซึ่งเป็นหัวเชื้อจากประเทศญี่ปุ่น เพาะพันธุ์ด้วยไข่ คุณสมบัติ ของจุลินทรีย์นี้ ช่วยในเรื่องการขยายรากพืช ทำให้เกิดรากเยอะ ให้ผลผลิตไว รากดูดอาหารได้มาก ข้อดีที่สุดคือ ช่วยบำบัดน้ำเสีย ด้านปศุสัตว์


ประโยชน์ของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
-ใช้ทางดินทำให้รากพืชแข็งแรงและหาอาหารได้ดีขึ้น ใช้กับนาข้าวช่วยเร่งการแตกกอของข้าว
-ช่วยในการย่อยธาตุอาหารและวัตถุอินทรีย์ในดิน เพื่อให้พืชดูดซึมไปใช้ได้อย่างง่ายดาย
-ป้องกันพืชโดยการทำลายจุลินทรีย์ไม่ดีในดิน ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคพืช
-ช่วยตรึงไนโตเจนในดิน เพิ่มไนโตเจนให้กับพืช
-เร่งการเจริญเติบโต ทำให้พืชแข็งแรงแล้วโตเร็วเป็น 3 เท่า







ในสมัยก่อน การทำอาหารท้องถิ่นจะใช้เฉพาะวัตถุดิบ จากธรรมชาติไม่มีสารเคมีเจือปน โดยนำมาปรุงรสชาติและผ่านการคัดมาอย่างดี โดยเฉพาะน้ำพริกเผาปลาช่อน ตราถนนตก ปลาชนิดเดียวอร่อย ณ หมู่บ้านชุมชนชาวถนนตก เหมือนถูกออกแบบให้เราพักผ่อนแบบวิถีชาวบ้านด้วยการนั่งชิมอาหารท้องถิ่นอย่างชำนาญ พวกเรามีโอกาสได้ชิมฝีมือการทำอาหารท้องถิ่น ที่ใช้วตถุดิบจากธรรมชาติแท้ๆ ของนายกิตติภณ มาหยา รสชาติแบบดั่งเดิม ฝีมือคนโบราณแท้ที่หมู่บ้านให้ความไว้วางใจ จนได้รับตำแหน่งแม่ครัว ประจำหมู่บ้าน ทั้งแขกผู้ใหญ่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล หรือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้ ต่างต้องได้ชิมฝีมือของคุณหมูแดง ( กิตติภณ มาหยา )



1.แกงส้มผักตบ
2.ต้มยำไก่บ้าน (ไก่พื้นเมือง)
3.แกงกล้วยกับหมู
4.ปลาช่อนแม่ลาแท้ทอดกรอบ (สูตรเฉพาะ)
5.น้ำพริกเผาปลาช่อน ตราถนนตก (สูตรโอท๊อปขึ้นชื่อ)
6.ขนมนักรบ ขนมท้องถิ่นทำจากลูกยอ




สวนตะวันแสนภูมิ แหล่งเรียนรู้ที่ได้รับการบริหารจัดการอย่างทันสมัย

ปิดท้ายทริปนี้ เอาใจสายชิลล์ที่รักในความเป็นธรรมชาติ ขอแนะนำแหล่งเรียนรู้เกษตรกร ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง อยู่ในย่านชุมชนชาวถนนตก ที่นี่เป็นเสมือนสวนหน้าบ้าน ใกล้ชิดธรรมชาติ "สวนตะวันแสนภูมิ" แหล่งเรียนรู้ ด้วยการชมต้นไม้ที่สร้างชื่อให้กับหมู่บ้าน "หยก สุริยา" และ "หยก ม่วงสุริยา" ของคุณลุงนพดล บุษบงค์ อายุ 59 ปี ในอดีตคุณครูผู้หลงใหล ต้นไม้ กล้วยไม้ จัดสวน ไม้ดอก ไม้ประดับ คุณลุงนพดลฝันอยากมีสวนสวย และร้านขายต้นไม้เป็นของตนเอง





โดยหลังจากเกษียณ อายุราชการ มีต้นไม้ชนิดหนึ่ง ที่สร้างชีวิตใหม่และสร้าแรงบันดาลใจ จนถึงปัจจุบัน คือ ต้นหยก ซึ่ง ต้นหยก เป็นต้นไม้ที่สื่อความหมายถึงเรื่องทางการเงิน เป็นพันธุ์ไม้ที่นิยมนำมาปลูกเพื่อเพิ่มโชคลาภให้กับบ้าน เพราะจะนำพลังทางดีเข้าสู่ตัวบ้าน ชื่อต้นไม้เป็นสิริมงคล ทางด้านโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ปลูกไว้ในบ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ เพื่อความรื่นรมณ์ ผ่อนคลาย และนำโชคมาสู่คนในบ้าน







"หยก สุริยา" และ "หยก ม่วงสุริยา"  ชื่อสามัญ Crested Euphorbia, Frilled Fan และ Elkhorn ชื่อวิทยาศาสตร Euphorbia lactea Haworth หยกมีรูปแบบการเจริญเติบโตแตกต่างกัน

แบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะ คือ 1. แตกเป็นรูปเขากวาง (Forming a cluster) ประกอบด้วยกิ่งแขนงแตกเป็นกลุ่ม รอบโคนต้น คล้ายเขากวาง บนขอบหรือสันกิ่งมีใบและหนามขนาดเล็กเป็นระยะ ๆ เช่น หยกพันธุ์มงคล และพันธุ์มังกรแดงหยก 
2. แผ่เป็นรูปพัด (Fan shaped) เป็นต้นเดี่ยวที่แขนงติดกันเป็นแผงรูปพัด แนวสัน (ridges) จะเป็นริ้วอยู่ทั่วแผง มีใบและหนามอยู่บนสันเช่นกัน ต่อมาใบจะร่วงเหลือแต่บริเวณใกล้ เรือนยอด (crowing tip) ส่วนหนามจะคงอยู่ทั่วแผง เช่น หยกพันธ์ทองนพเก้าและพันธุ์ทองคํานพคุณ 
3. แบบคลื่น (branched crested) เป็นต้นเดี่ยวที่แขนงติดกันเป็นแผง ไม่เป็นระนาบเดียวรูปพัด แต่จะพัฒนาแผ่ซ้อนเป็นร่องคลื่นคล้ายงูเลื้อย (forming a snaky ridge) เช่นหยกพันธุ์ เบญจรงค์ และพันธุ์ทับทิม

เนื้อหยกจะมี 2 ลักษณะ คือ หยกเนื้อทึบ ซึ่งเนื้อหยกจะมีคลอโรฟิลล์ข้างในสีเขียว และหยกเนื้อใส คือเนื้อข้างในจะใสไม่มีสีคลอโรฟิลล์ หยกเนื้อใสจะเจริญเติบโตช้ากว่าหยกเนื้อทึบ หยกทั้งสองชนิดมีชื่อเรียกสายพันธุ์ต่าง ๆ หรือในวงการค้าเพื่อไม่ให้เกิดการสับสบในเรื่องชื่อ จึงใช้ โทนสีบนแผงของหยก เพื่อให้เกิดความเข้าใจกันทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย

หยก
ซึ่งจะมีทั้งหมด 7 สี โทนสีเหลือง เช่น หยกทองคํา ทองคํานพคุณ โทนสีแดง เช่น หยกมหาลาภ โทนสีเขียว เช่น หยกพระเทพ เบญจรงค์ มงคล มังกรหยก โทนสีม่วง เช่น หยกม่วงสยาม โทนสีเหลืองอมส้ม เช่น หยกทองนพเก้า ทองศุภโชค โทนสีเหลืองอมเขียว เช่น หยกเอราวัณ โทนสีแฟนซี ( ตั้งแต่ 3 สีขึ้นไป ) เช่น หยกสุริยา เพชรลายทอง ขุมทรัพย์

"หยก สุริยา" และ "หยก ม่วงสุริยา" คุณลุงพยายามศึกษาดูงาน อ่านหนังสือ ค้นคว้า ทดลอง ลงมือทำหลายครั้ง จนเป็นเจ้าแรกของสิงห์บุรีที่ทำสำเร็จพร้อมขายส่งออกอย่างมหาศาล มีรายได้เข้าสู่ครอบครัว ซื้อที่ดินกว่า 3 ไร่ พร้อมบ้าน และที่สำคัญ ได้เปิดเป็นร้านขายต้นไม้นานาชนิด อย่างที่ใจต้องการ ในร้านที่ชื่อว่า "สวน ตะวันแสนภูมิ" มาที่นี่นอกจากจะได้ถ่ายรูปสวยๆ สูดบรรยากาศดีดี ยังได้เรียนรู้การปลูกไม้มงคลอย่าง "หยก สุริยา" และ "หยก ม่วงสุริยา"  ติดต่อสอบถามได้โดยตรงที่ คุณลุง นพดล บุษบงค์
โทร. 089 0602180 /081 444 5813


Btripnews เข้าใจถึงคำว่า ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จากการเดินทางมาร่วมงานกับคุณทอดด์ ทองดี เห็นภาพความสามัคคีของชุมชน ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 

ที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาชมความงดงามของธรรมชาติ ที่จะทำให้ต่อมรับรสในปากค่อยๆ สร้างความสุขด้วยการได้ชิมอาหารท้องถิ่นของชุมชนเหล่านี้ 


เพื่อเป็นการกระจายรายได้ตามความต้องการของชุมชนเพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ชุมชนท่องเที่ยวระดับหมู่บ้านวัตถุดิบแต่ละชนิดอย่างมีดีไซน์ เที่ยวทุ่งนากินปลาช่อน และ แวะตลาดนัดชุมชน OTOP นวัตวิถี วันว่าง วันหยุด หรือวันเสาร์อาทิตยฺไม่มีแพลนเดินทาง 

ลองจัดทริปง่ายๆ มาเที่ยวสิงหืบุรี เดินทางไม่ไกล ไป-กลับได้สบายๆ ลองออกเดินทางดูสักทริปแล้วจะติดใจ