เปิดหน้าใหม่เมือง….กับการพัฒนาการท่องเที่ยวของททท.พัทยา รองรับทุกไลฟ์สไตล์  



นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์

ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา 

เล่าถึงภาระหน้าที่ของททท.สำนักงานพัทยาว่า “...ททท.สำนักงานพัทยาดูแลจังหวัดชลบุรีทั้งจังหวัด โดยดูแลตั้งแต่บางแสน ศรีราชา เกาะศรีชัง พัทยาไปจนถึงสัตหีบ พื้นที่ทางฝั่งทะเลตะวันออกของอ่าวไทยทั้งหมด ซึ่งอยู่ในคัสเตอร์ท่องเที่ยวที่ชื่อว่า สีสันตะวันออก จริงๆ คาแรคเตอร์ของพัทยา ต้องบอกว่ามีความเป็นแอคทีฟ บีช และโมเดิร์น ค่อนข้างเยอะ เราก็เสนอขายในความเป็นโมเดิร์น บีช มาท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ในคราวเดียวกัน


ในส่วนพัฒนาการต่างๆ ที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้ เรื่องที่พักไม่มีปัญหามีจำนวนมากพอ สามารถรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ทุกวัย ด้านแหล่งท่องเที่ยวมีสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวหลัก ๆ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พัทยา มีสมาชิกมากกว่า 40 แหล่งและที่ไม่ได้เป็นสมาชิกอีกราว 10-20 แหล่ง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวเช่น สวนน้ำ เมืองน้ำแข็ง หรือพิพิธภัณฑ์ 3 D 4 D และมีเส้นทางเชิงวัฒนธรรมเช่นปราสาทสัจธรรม ออกมาข้างนอกหน่อยก็จะแถบเขาชีจันทร์ พระพุทธรูปแกะสลัก ซึ่งสามารถรองรับกลุ่มครอบครัวได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นในส่วนของการส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกเหนือจากความเป็นโมเดิร์นแล้ว ยังส่งเสริมเรื่องของการเดินทางกลุ่มของครอบครัว ให้เดินทางเข้ามาเที่ยวได้ เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับได้เป็นอย่างดี


พัฒนาการด้านการคมนาคม สู่ความเป็นฮับ


 “ ... ส่วนพัฒนาการด้านอื่นๆ ที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่ด้านการท่องเที่ยว คือเรื่องของท่าอากาศยานนานาชาติ อู่ตะเภา ระยอง พัทยา ซึ่งจริงๆ ก็เปิดบริการมานานพอสมควรแล้ว แต่ ณ ขณะนี้ เนื่องจากมีโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC อู่ตะเภาจึงมีความสำคัญมากขึ้น เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์แหล่งที่สามที่อยู่ในภาคตะวันออก เชื่อมกับทางดอนเมือง สุวรรณภูมิ สู่อู่ตะเภา

ขณะเดียวกัน ในอนาคตจะมีเรื่องของรถไฟความเร็วสูงที่จะเชื่อมต่อสามสนามบินนี้ และมีการสร้างเทอร์มินัลหลังใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมเปิดใช้อย่างเป็นทางการประมาณเดือนสิงหาคม ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 3 ล้านคน เฟซต่อไปก็จะขยายไปเรื่อยๆ

ในส่วนของเที่ยวบินเชื่อมโยง ตอนนี้มีเที่ยวบินเชื่อมโยงจากหัวเมืองหลักๆ หลายๆ ภูมิภาคเข้ามายังอู่ตะเภา จากภาคเหนือคือ เชียงใหม่ ภาคอีสานจากอุบล อุดร ภาคใต้เชื่อมจากหาดใหญ่ เชื่อมเมืองหลักๆ ทางธุรกิจเดินทางเข้ามาได้สะดวก

....การเดินทางทางน้ำมีการเปิดเชื่อมพัทยากับหัวหิน อ่าวไทยฝั่งตะวันออกกับตะวันตกเข้าด้วยกัน เมื่อก่อนการเดินทางจะใช้เวลา 7-8 ชั่วโมง ต้องอ้อมหลายจังหวัด ปัจจุบันตัดเชื่อมอ่าวไทยสองจังหวัด ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลทั้งสองจังหวัด

ซึ่งแต่ละจังหวัดมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไป ขณะที่หัวหินมีคาแรคเตอร์อย่างหนึ่ง พัทยามีคาแรคเตอร์อีกอย่างหนึ่ง เชื่อมโยงกันได้โดยใช้เวลาไม่นานราวสองชั่วโมง จะเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง หรืออาจจะมีเวลาในการเดินทางไม่มากก็สามารถเดินทางได้ทั้งสองพื้นที่ซึ่งเป็นเมืองชายทะเล ทั้งคู่

ท่าเรือพัทยาไปหัวหิน ตอนนี้อัตราการใช้บริการ 60 % ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวยุโรป รองลงมาคือจีนและไทย มีใช้บริการเรื่อยๆ เพราะเป็นเส้นทางใหม่ที่หลายคนทดลอง ส่วนต่างชาติก็ได้รับความสะดวกสบายเป็นอย่างดี

ด้านรถไฟอยู่ในแผนของระเบียงเศรษฐกิจ เป็นแผนระยะยาวนิดหนึ่ง แต่ก็มีแผนที่จะเชื่อมโยงเพื่อให้เดินทางสะดวก อู่ตะเภาจะเป็นฮับในเรื่องการซ่อมอากาศยานในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้”


นักท่องเที่ยวยอดพุ่งทะยานสู่ 12 ล้านคน 

นางสาวสุลัดดา กล่าวต่อว่า “ถ้าดูจากตัวเลขด้านตลาด คนไทยเข้ามาเที่ยวในพื้นที่พัทยาอัตราเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แต่โดยรวมนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติก่อนนี้เดินทางเข้ามายังพัทยา 10 ล้านคนต่อปี แต่ตัวเลขปีที่แล้วเพิ่มขึ้นมาเป็น 12 ล้านคน ชาวต่างชาติ 70 % คนไทย 30 % แต่ในช่วงหลังจากที่เราพยายามดำเนินการส่งเสริมการขายภายในประเทศมากขึ้น ตอนนี้ตัวเลขก็ขยับขึ้นมาเล็กน้อย

จริงๆ การดึงคนไทยเข้ามาเที่ยวพัทยาไม่ได้ยากเพราะพัทยาค่อนข้างได้เปรียบเรื่องโลเกชั่น อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวหลักจากกรุงเทพฯ ก็จะเดินทางมาได้โดยง่าย โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่นักท่องเที่ยวที่มาจากหัวเมืองหลักๆ ที่อื่น มีการเชื่อมโยงเข้ามาเที่ยวได้มากขึ้น เชียงใหม่ตอนนี้บินเขาอู่ตะเภาวันละสองไฟลท์ เต็มแทบทุกไฟลท์ ภูเก็ตกับสมุย นักท่องเที่วก็บินเชื่อมโยงเช่นกัน จะเห็นว่าเรื่องของการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงมีพัฒนาการไปขึ้นเยอะ ส่วนคนไทยจะเน้นเรื่องของการขับรถมาเที่ยวเอง เรื่องของถนนหนทางที่จะเชื่อมโยงจะมีปัญหาจราจรบ้างพอสมควร แต่ทางเมืองพัทยาก็มีการสร้างอุโมงค์เชื่อมมอเตอร์เวย์ พัทยากลลางไปพัทยาใต้ จะเปิดบริการเร็วๆ นี้”

และเมื่อถามถึงจำนวนห้องพักสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่เมืองพัทยา ผอ.ททท.สำนักงานพัทยา กล่าวว่า “ เรื่องห้องพักเกินพอที่จะรองรับ เท่าที่สำรวจเป็นทางการ อาจมีทั้งที่จดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียน แต่เราไม่นับที่เป็นอพาร์ทเมนท์แล้วมาเปิดเป็นห้องพัก ในความเป็นจริงมีอยู่ แต่ในฐานข้อมูลมีอยู่ เกือบแปดหมื่นห้อง แต่ในความเป็นจริงมีมากกว่านั้น จะเห็นว่าห้องพักในพัทยามีเยอะมาก ตอนนี้จะเริ่มขยายตัวออกมาทางนอกเมือง เช่นมาทางจอมเทียน บางเสร่ ถ้าคนไม่อยากไปแออัดในเมืองก็จะหนีออกมาพักทางแถบนี้ เลทราคามีทุกเลท ตั้งแต่ไม่มีดาวจนถึงห้าดาว” 



แคมเปญ ส่งเสริมการท่องเที่ยว วันธรรมดา น่าเที่ยว 



นางสาวสุลัดดา กล่าวถึงกิจกรรมเสริมโครงการ วันธรรมดา น่าเที่ยว ที่มีขึ้นว่า “ เป็นการนำเสนอข้อมูลโคงการเที่ยวสนุก พักสบาย ที่ชลบุรี ซึ่งเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยาร่วมกับพันธมิตรหลายแห่ง มีโครงการย่อย 3-4 โครงการ โครงการแรก คือ เที่ยวหรูอยู่ดี @ พัทยา ซึ่งเป็นโครงการที่เสนอขายแพคเก็ต ล่องเรือยอร์ช ดำเนินการกับ บลู โวยาจ จริงๆ เริ่มมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์แล้ว และกำลังจะหมดระยะเวลาจัดแคมเปญลง ในวันที่ 15 พฤษภาคม แต่เราเห็นว่า ได้ผลและราคาที่เสนอ 2,666 บาทต่อท่าน แต่ต้องสิบห้าคนขึ้นไป มีคนสนใจเยอะมาก และถามเข้ามามากว่า ถ้ามาเป็นคนหรือสองคนหรือเป็นคู่จะทำอย่างไร อยากให้มีการจัดกิจกรรมที่สามารถเดินทางมาคนเดียวหรือมาเป็นคู่ได้ จึงทำโครงการต่อโดยการล่องเรือยอร์ช สามารถจอยทริปกันได้ ในราคา 2,900 บาท ล่องเรือยอร์ชพร้อมอาหาร ผลไม้ กีฬาทางน้ำ การดำน้ำตื้น ออกจากท่าเรือโอเชี่ยนมารีน่า เวลา 14.00 และกลับเวลา 19.00 น. หลังจากชมพระอาทิตย์ตกดินแล้ว สามารถสอบถามได้ที่ 086 826 5656

โครงการที่สอง ร่วมกับโรงแรมสามแห่งในพื้นที่ เสนอที่พักในราคาพิเศษ  เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่  15 มีนาคมจนถึง 15 สิงหาคม 2560  เป็นโรงแรมห้าดาวทั้งหมด ได้แก่ โรงแรม เมร่า มาเร่ โรงแรมราวินทรา โรงแรมซีแซนด์ซัน ซึ่งอัพสเกลหมดเลย เสนอห้องพักในราคา 3,599 บาท รวมอาหารเช้าและกิจกรรมเสริมเฉพาะวันธรรมดาคือ อาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี

โครงการที่สามร่วมกับโรงแรมในเครือบางแสนกรุ๊ป อีก 4 โรงแรม ได้แก่ โรงแรม เดอะไทด์ โรงแรมบางแสนเฮอริเทจ โรงแรม S 2 บางแสน โรงแรมบางแสนวิลล่า ซึ่งบางแสนเป็นที่นิยมของคนไทยอยู่แล้ว แต่ตอนนี้บางแสนเปลี่ยนโฉมหน้าไปมาก มีกิจกรรมระดับนานาชาติไปลง เช่นมีการจัดกิจกรรมไตรกีฬา มีเรื่องของการจัดวิ่งแข่ง ซึ่งได้รับความนิยมมาก เวปที่เกี่ยวกับเรื่องวิ่งโหวตว่าเป็นงานที่ดีที่สุดในแถบนี้เลย ราคาห้องพักเริ่มต้นไม่ถึงพันบาท พักได้ทุกวันยกเว้นนักขัตฤกษ์ ขายไปถึง 30 กันยายนเลย ซึ่งสามารถจองโดยตรงไปได้ที่โรงแรมได้เลย ทางโรงแรมจะประชาสัมพันธ์อยู่หน้าเวป”

และไหนๆ มาเที่ยวแล้วเราเสริมเรื่องแหล่งท่องเที่ยวด้วย โดยจอยกับแหล่งท่องเที่ยวหลักๆ 14 แห่งในพื้นที่พัทยา ลดราคาตั้งแต่ 20-25 % หรือจะซื้อ 1 แถม 1 ซึ่งจะมีโบรชัวร์ สามารถไปยื่นได้เลย และมีเวปไซต์เที่ยวตะวันออกดอทคอม และที่อื่นๆ ที่จะประชาสัมพันธ์ตรงนี้ออกไป"


ตอกย้ำความเป็น Sport City 

นางสาวสุลัดดา กล่าวต่อไปว่า “....พัทยาด้าน sport City ก็มาเป็นอันดับหนึ่ง จริงๆ ชลบุรี เป็นจังหวัดที่ได้รับการยอมรับให้เป็น 1ใน 4 จังหวัดสปอร์ตซิตี้ในประเทศไทย เพราะพัทยามีกิจกรรมในเรื่องของสปอร์ตจำนวนมากขึ้นไปถึงนานาชาติแล้ว

ในวันที่ 27-28 พค. 2560 จะมีการแข่งไตรกีฬานานาชาติ จะมีนักไตรกีฬาเข้าร่วมงานราว 3,000 คน รวมทั้งนักกีฬาชื่อดังจากต่างประเทศเข้าร่วมงานด้วย และนักวิ่งไม่ได้มาคนเดียวและก็มาพร้อมญาติพี่น้อง รวมถึงมาก็ต้องมาดูพื้นที่ก่อนไม่ได้มาคืนเดียว มาเทสต์สนามก่อนหลังจากนั้นก็จะไปเที่ยว

เดือนกรกฎาคมจะมีงานพัทยามาราธอน และปลายปีจะมีงาน สวนสนามนานาชาติ ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของกองทัพเรือและคู่ขนานกัน จะมีงานแข่งขันบินผาดโผนระดับโลก ปีที่แล้วเขาเดินทางมาทดสอบสนามที่อู่ตะเภา ซึ่งผ่านเรียบร้อย ปีนี้จึงจะมาจัดจริง มีเครื่องบินทั้งหมด 16 ลำ

คนอาจจะไม่เคยได้ยิน แอร์เรซวัน ให้นึกถึงเรื่องของแข่งรถฟอร์มูล่าวันแบบเดียวกันเลย แอร์เรซวัน เป็นเครื่องบินที่บินได้ 450 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยการแข่งบินต่ำที่สุดจากพื้นไม่เกิน 10 เมตร แอร์เรซวัน บินผาดโผน ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก

อู่ตะเภากำลังพัฒนาในการเป็นฮับการขยายตัวของอีอีซี เพราะฉะนั้นการมาเปิดตัวอู่ตะเภาด้วยแอร์เรซวัน ก็น่าจะเป็นผลดีในการที่จะทำให้ต่างชาติรู้จักอู่ตะเภาเพิ่มมากขึ้น ในอีเวนท์เดียวกันก็จะมีพลุนานาชาติ จัดพร้อมกับการสวนสนามทางเรือนานาชาติด้วยเลย

นอกเหนือจากสปอร์ตซิตี้ที่มีศักยภาพที่จะทำได้อยู่แล้ว เนื่องจากพัทยามีที่ท่องเที่ยวที่หลากหลายเหมาะกับหลายกลุ่มทำให้เจาะไปที่กลุ่มครอบครัวด้วย เป็น Family Friendly Destination เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาได้พร้อมกันหมดทั้งครอบครัว สามีเล่นกอล์ฟ ภรรยาเที่ยวมีล่องเรือยอร์ช มีสปา แหล่งช้อปปิ้ง เทอร์มินัล 21 มีสวนน้ำ

ส่วนด้านอาหารเอง ในพื้นที่ภาคตะวันออกโดดเด่นเรื่องอาหารทะเล ที่เพิ่งผ่านไปคือ งาน ซีฟูด เฟสติวัล เพื่อลบปัญหาภาพลักษณ์ของพัทยา อาจไม่ได้มองเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นท์อย่างเดียว ก็ต้องใช้เวลาในการปรับ เราพยายามจัดกิจกรรมขึ้นมา เพื่อให้เมืองมีชีวิตชีวา เพราะเมืองมีคาแรคเตอร์โมเดิร์น จึงต้องมีกิจกรรมตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น กีฬา อาหาร ดนตรี ก็จะช่วยให้เมืองมีชีวิตชีวา และขณะเดียวกันก็แก้ปัญหาภาพลักษณ์ไปเรื่อย ๆ ซึ่งก็ต้องอาศัยเวลา สักระยะหนึ่ง

สาเหตุที่ทำให้เมืองพัทยาเป็นลักษณะไนท์ไลฟ์ ก็ต้องยอมรับว่ามาจากต้นกำเนิดที่มีทหารอเมริกันเข้ามาพักผ่อนในอดีต ก็เลยกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของทหารอเมริกันในช่วงต้นๆ เป็นภาพลักษณ์ของพัทยามาตั้งแต่ต้นๆ กำเนิด เป็นแบบนั้น แต่หลังๆ พัทยามีการพัฒนาการและเปลี่ยนแปลงไปมาก”


ความปลอดภัยของเมืองสำหรับนักท่องเที่ยว  


....นางสาวสุลัดดา กล่าวถึงเรื่องของความปลอดภัยต่อนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาเยือนเมืองพัทยา ว่า”ต้องเรียนว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมากสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติ ทางเมืองพัทยาจะเป็นหลักร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ทางตำรวจสภ.เมืองพัทยา มีมูลนิธิกู้ภัย อาสาสมัครต่างๆ ก็ทำงานบูรณาการกันอาจจะมีหลุดรอดบ้าง แต่ในภาพรวมก็พยายามดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ ถ้ามาทางเรือเราก็ดูแลท่าเรือ การลงเรือ เสื้อชูชีพ คนขับเรือต้องอยู่ในอาการไม่มึนเมามีการตรวจตราอยู่เป็นประจำ

หรือแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีตำรวจคอยตรวจตรา พยายามให้ภาพลักษณ์ของเมืองออกมาในรูปของความปลอดภัย อยากจะส่งเสริมครอบครัวให้เดินทางเข้ามา ขณะเดียวกัน พัทยาก็มีความเป็นโมเดิร์น แต่จริงๆ สามารถรองรับได้ทุกกลุ่ม มีทุกอย่าง เส้นทางวัฒนธรรม สำหรับ Gen X Gen Y กลุ่มผู้หญิง ครอบครัว กลุ่มเพื่อน ก็สามารถตอบโจทย์ได้หมด

กลุ่ม Mice มีห้องประชุมสัมมนาขนาดใหญ่สามารถรองรับกลุ่มไมซ์ หรือจะกิจกรรม CSR พื้นที่สัตหีบ มีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย 1 ใน 70 เส้นทางตามรอยพระบาท โครงการป่าชายเลนที่ชลบุรี ก็สามารถมาปลูกป่าชายเลน ปลูกปะการังได้ อยากเชิญชวนให้ทุกคนได้มาเที่ยว ได้เห็นพัฒนาการของพื้นที่ว่าไปถึงไหนแล้ว” ผอ.สำนักงานททท.พัทยา กล่าวท้ายสุด