“GALDERMA Local Mentor Trainer APAC 2019”อบรมแพทย์วิทยากรด้านฉีดสารเติมเต็มครั้งแรกในไทย

ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติครั้งแรก “GALDERMA Local Mentor Trainer APAC 2019” การฝึกอบรม และคัดเลือกแพทย์ที่จะมาเป็นวิทยากรหรือครูแพทย์ผู้สอนฉีดสารเติมเต็ม หรือฟิลเลอร์ ณ ณ โรงแรม hyatt regency ถ.สุขุมวิท 13 เมื่อเร็ว ๆ นี้

นพ.พุฒิพงศ์ ภูมิสุวรรณ ผู้อำนวยการ AIC Clinic แพทย์วิทยากรตำแหน่ง CMT หรือครูแพทย์ผู้สอนฉีดสารเติมเต็มระดับประเทศ ตัวแทนแพทย์ไทยที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ เผยว่า “GALDERMA Local Mentor Trainer APAC 2019” เป็นงานฝึกอบรม และคัดเลือกแพทย์ที่จะมาเป็นวิทยากรหรือครูแพทย์ผู้สอนฉีดสารเติมเต็ม หรือฟิลเลอร์ โดยมีผู้เข้าประชุมเป็นแพทย์ความงามที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วจากประเทศต่าง ๆในเขตเอเชียแปซิฟิกประมาณ 30 ท่าน และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากยุโรปมาที่มาสอน และเป็นกรรมการอีก 7-8 ท่าน ตัวผมเองมาช่วยสอนและเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเช่นกัน

โดยการจัดงานที่เลือกไทยเป็นเจ้าภาพจัดครั้งแรกนั้น อันที่จริงเมืองไทยเป็นศูนย์กลางของเขตเอเชียแปซิฟิก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน เหมาะกับการขัดประชุมและท่องเที่ยว เมืองไทยมีการจัดประชุมแพทย์บ่อย ปีละหลายๆครั้ง แต่การประชุมเพื่อสอนและคัดเลือกแพทย์วิทยากรแบบนี้เพิ่งมีครั้งแรก ด้วยการสนับสนุนจาก บริษัท กัลเดอร์มา

ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำเข้าฟิลเลอร์อันดับ 1 ของไทย ซึ่งประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเมืองไทยคือ ได้ประโยชน์ทั้งตัวแพทย์ความงามของไทย และคนไข้ เพราะการมีแพทย์วิทยากรหรือครูแพทย์ผู้สอนที่มีมาตรฐาน จะช่วยถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องให้แพทย์ท่านอื่น ๆต่อไปได้ ประโยชน์ก็จะตกกับคนไข้ เพราะปัญหาการรักษาที่ผิดพลาด หรือผลเสียจากการรักษาก็จะลดลง สังเกตุดูจะพบว่าข่าวการพบผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ในเมืองไทยค่อยๆลดน้อยลง อันนี้เฉพาะที่ฉีดจากแพทย์จริง ๆเท่านั้น

นพ.พุฒิพงศ์ กล่าวด้วยว่า ในยุคที่สถานเสริมความงามเกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด การแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรง การใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อมาหลอกล่อลูกค้าจึงมีมากขึ้น และอีกหนึ่งกลยุทธ์ก็คือ การอ้างตัวเองว่าเป็นอาจารย์แพทย์ แพทย์วิทยากร หรือครูแพทย์ผู้สอนแพทย์ท่านอื่น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง ในการหลอกล่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ

ซึ่งนอกจากตัวคนไข้เองจะเสียผลประโยชน์แล้ว แพทย์ความงามท่านอื่น ๆก็อาจถูกหลอกเช่นกัน เพราะหากหลงเชื่อไปเข้ารับการอบรมจากแพทย์วิทยากรที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็ทำให้ได้รับการถ่ายทอดความรู้ที่ไม่ถูกต้องมา อันอาจส่งผลให้การรักษาเกิดข้อผิดพลาด และเกิดผลเสียกับคนไข้อื่น ๆต่อไป

“การที่แพทย์ที่ไม่ได้มีคุณสมบัติที่ถูกต้อง แต่อ้างว่าตัวเองนั้นเป็นถึงระดับอาจารย์แพทย์ เป็นแพทย์วิทยากร แพทย์ผู้สอนแพทย์อื่น แล้วนำความรู้ที่มีไปเผยแพร่ต่อแบบไม่ถูกต้องตามหลักการ อาจจะเป็นการโฆษณาที่เกินจริง และทำให้ผิดกฎหมายทางการแพทย์ได้

อีกทั้งยังจะเป็นการส่งต่อข้อมูลผิดๆ ทำให้แพทย์ท่านอื่นได้รับการถ่ายทอดความรู้ที่ไม่ถูกต้อง อันอาจส่งผลให้การรักษาเกิดข้อผิดพลาดและส่งผลกระทบตามมากับคนไข้ได้ เช่นข่าวที่ได้ยินบ่อยครั้งว่าฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอด เกิดการอักเสบเนื้อตาย หรือผ่าตัดแล้วผิดพลาดทำให้เสียโฉม เป็นต้น”

ในการจัดงานครั้งนี้ คุณหมอพุฒิพงศ์ถือว่าเป็นแพทย์วิทยากรตำแหน่ง CMT หรือครูแพทย์ผู้สอนฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ ระดับประเทศเพียงคนเดียวในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ขึ้นบรรยาย และร่วมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ เพื่อฝึกอบรมให้กับแพทย์ความงามที่ได้รับคัดเลือกจากประเทศต่างๆในเขตเอเชียแปซิฟิก ในงาน Galderma LMT Training Program

ซึ่งจัดขึ้นที่ Hyatt Regency สุขุมวิท และ ที่ศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมแพทย์ CIMET คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ทั้งนี้มีแพทย์เข้าฝึกอบรมทั้งหมด 30 คน และเป็นแพทย์ไทยจำนวน 6 คน เพื่อมาเป็นแพทย์วิทยากร หรือครูผู้สอนฉีดสารเติมเต็ม ระดับท้องถิ่น ต่อไป ด้วยการสนับสนุนจากกัลเดอร์มาภาคพื้นยุโรป  และเป็นผู้ที่นำนวัตกรรมการฉีดสารเติมเต็ม หรือฉีดฟิลเลอร์ด้วยเข็มปลายทู่มาใช้เป็นคนแรกๆของเมืองไทย และยังเป็นผู้ริเริ่มการฉีดฟิลเลอร์แบบสัมผัสกระดูกในเมืองไทยด้วย โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ได้สอนการฉีดฟิลเลอร์ให้แพทย์ไทย และแพทย์ต่างชาติไปแล้วมากกว่า 1,000 คน

ทางด้านเภสัชกรพิรพัฒน์ ศรีวัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการธุรกิจความงาม บริษัทกัลเดอร์มา ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เรื่องสารเติมเต็มในประเทศไทย มีทั้งคุณประโยชน์และมีทั้งโทษถ้าเราเลือกไม่ถูกต้อง และสำคัญอย่างยิ่งคือ ฝีมือของแพทย์มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นคนไข้ถ้าอยากจะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ จะต้องทำการบ้านมากหน่อย คือ เลือกแพทย์ เลือกโพรดักส์ที่ถูกต้อง ก็จะสวยสมความตั้งใจ บางครั้งการเลือกของที่ถูกที่สุด อาจจะเป็นบทเรียนที่แพงที่สุดของเราได้ การอบรมแพทย์วิทยากรในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับแพทย์ในกลุ่มของแพทย์เสริมความงาม เพราะสุดท้ายแล้ว ประโยชน์ที่ได้กับคนไข้คือ ความสวยงามและปลอดภัย”