เสียงสะท้อนจากอาชีพไกด์ไทย ความท้าทายยุคหลังโควิด-19

ผศ.ดร.กัลยา สว่างคง
คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม และ RDI มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์




อุตสาหกรรมท่องเที่ยว คืออุตสาหกรรมหนึ่งที่ทำรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมหาศาลทั้งจากการท่องเที่ยวของประชาชนในประเทศและรวมไปถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขณะที่อาชีพมัคคุเทศก์คือหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวเพราะเปรียบได้กับ “ตัวแทน” ของคนไทยทั้งหมดที่จะคอยดูแล ต้อนรับ อำนวยความสะดวก ให้ข้อมูลความรู้แก่นักท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวตลอดทริป และสำหรับประเทศไทย อาชีพนี้เป็นอาชีพที่ได้ถูกจัดไว้เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทยเท่านั้น ตามพระราชกำหนดบริหารจัดการคนต่างด้าว พ.ศ.2560 


นอกจากนี้ความน่าสนใจของอาชีพคงหนีไม่พ้นเรื่องอิสระในการท่องโลกกว้าง ในขณะที่ผลตอบแทนในแง่รายได้ก็งดงามเหมาะสมความรู้ความสามารถ และจากการที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีรายได้ที่แพร่สะพัดและเติบโตขึ้นทุกปีจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มีการคาดการรณ์ว่าอาชีพมัคคุเทศก์จะเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยม และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต




ผศ.ดร.กัลยา สว่างคง คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม และ RDI มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่าจากข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2563 พบว่ามีผู้จดทะเบียนมัคคุเทศก์กับกรมการท่องเที่ยวแล้วทั้งสิ้น 82,600 คน อย่างไรก็ดีสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกแล้วอย่างน้อย 303,082 ราย ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเป็นวงกว้างอันเนื่องมาจากมาตรการการรับมือในระดับสากลที่รัฐบาลทั่วโลกมีคำสั่งคือการกักบริเวณกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยง ปิดเมือง ปิดประเทศ จำกัดการเดินทาง งดกิจกรรมที่มีการพบปะชุมนุม ส่งผลให้ภาคธุรกิจบางส่วน รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกหยุดชะงัก



โดยจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศไทยลดลงอย่างมาก จากเดิมที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยสูงถึง 42 ล้านคน แต่เมื่อผ่านไตรมาสแรกของปีกลับพบว่าตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงอย่างต่อเนื่องดังแสดงในภาพที่ 1 ซึ่งแสดงข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม 2562 โดยหากไม่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยมากที่สุด


สอดคล้องกับข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ระบุว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 มากที่สุด เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศไทยคิดเป็นร้อยละ 22 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ส่งผลให้แรงงานในภาคการท่องเที่ยวถูกเลิกจ้างหรือขาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 2.3 ล้านคน (กองเศรษฐกิจท่องเที่ยวและกีฬา, 2563)

มักคุเทศก์จำนวนหนึ่ง เปิดเผยว่า วิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่วิกฤตการณ์สาธารณสุขครั้งแรก หากแต่เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดเนื่องจากเป็นโรคที่สามารถติดต่อผ่านทางระบบทางเดินหายใจ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางท่องเที่ยว เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวก็ไม่มีการจ้างงานมักคุเทศก์ ทำให้กลายเป็นกลุ่มอาชีพที่ไร้งานทำมาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ในส่วนของมัคคุเทศก์ที่มีเงินเก็บออมจากการทำงาน ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยไม่ได้พยายามหารายได้พิเศษ ในขณะเดียวกันมัคคุเทศก์ที่ไม่มีการเก็บออมเงินมาก่อนต่างต้องเผชิญกับความเครียดและพยายามอย่างมากในการหาอาชีพเสริมเพื่อหารายได้พิเศษ เช่น การขายของผ่านช่องทางออนไลน์ 


อย่างไรก็ตามยังมีการรวมกลุ่มกันของเหล่ามัคคุเทศก์เพื่อการแบ่งปันความช่วยเหลือ การรับบริจาคสิ่งของ การส่งต่อข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้การช่วยเหลือจากภาครัฐเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น หากแต่ควรเป็นไปในลักษณะของการว้าจ่างแทนที่จะช่วยเหลือแบบให้เปล่า เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และนำไปสู่การต่อยอดอาชีพในอนาคต

วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้บั่นทอนกำลังใจเหล่ามัคคุเทศก์ที่จะประกอบอาชีพนี้ต่อไปแต่อย่างใดในอนาคต เพราะต่างยังเชื่อมั่นว่าเป็นอาชีพที่มั่นคงและรายได้งดงามตราบเท่าที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ แต่ที่สำคัญคือการดำเนินชีวิตอย่างมีแบบแผนทั้งในแง่การประกอบอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ที่นอกเหนือจากงานมัคคุเทศก์หากเกิดภาวะวิกฤตเช่นนี้ขึ้นอีก 
อย่างไรก็ตามมาตรการด้านสุขอนามัยหลังจากนี้อาจส่งผลต่อรูปแบบการทำงานของมัคคุเทศก์ และการเดินทางของนักท่องเที่ยว และเนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความเชื่อมโยงกับหลายภาคธุรกิจ อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว ยานพาหนะ ร้านขายของ ฯลฯ เพราะฉะนั้นความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของภาครัฐจากผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องจึงมีความสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว



มัคคุเทศก์ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะสร้างความประทับใจแก่นักเที่ยว เป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนให้ตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวอีกครั้ง แต่วิกฤตการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบันอาจนำไปสู่การตั้งข้อสงสัยว่า อาชีพมัคคุเทศก์ จะยังคงเป็นอาชีพที่มั่นคงหรือไม่ รวมทั้งรูปแบบการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำให้อาชีพนี้ยังคงได้รับความคุ้มครองให้จัดเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทยต่อไปตามเจตนารมย์ของพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 หรือไม่ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงเป็นหนึ่งในไม่กี่คำตอบที่จะร่วมกันทบทวนและสรรหาแนวทางเพื่อนำพากลุ่มอาชีพ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไปด้วยกัน