เมื่อร้านเปิด ความอร่อยก็มาเยือน …… “เทพรส” อาหารไทย รสจัดจ้าน ย่านทองหล่อ





ฝนตกราวกับฟ้ารั่วเมื่อบ่ายวันหนึ่งขณะเดินทางไปยังร้านอาหารแห่งนี้ย่านทองหล่อ ซอย 13 สายฝนเม็ดเป้งสาดซ่าลงมาจนที่ปัดน้ำฝนแทบจะทำงานไม่ทัน เราเลี้ยวรถแว่บเข้าจอดใต้ดินอาคาร Nihonmura Mall ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น G เห็นได้ชัดไม่ต้องเดินหากันเลยทีเดียว

ร้านเทพรส ร้านขนาดกลางไม่ใหญ่นัก มีที่นั่งสำหรับลูกค้า 50 กว่าที่นั่ง ภายในร้านเล่นระดับด้วย บันไดวนขนาดเล็ก ที่ดูจะเป็นจุดถ่ายรูปสำหรับลูกค้าที่เข้ามาเยือน

จากประตูด้านหน้าในช่วงที่ทุกคนต้องระวังสถานการณ์โควิด ทางร้านมีเจลจัดเตรียมเอาไว้ให้เพิ่มความเชื่อมั่น ดูจากบรรยากาศโดยรอบ นอกจากจะการจัดวางโต๊ะนั่งที่ไม่เบียดแน่นแล้ว ยังแบ่งสัดส่วนเอาไว้สำหรับลูกค้าที่มาแบบเดี่ยว คู่หรือแบบกลุ่มก๊วนอย่างเหมาะสม



มารู้จักกับเจ้าของร้านกันก่อน เราพบกับ เจ้าของร้านใจดี คุณสุขเทพ จันทร์ศรีชวาลา ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการ บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด ( มหาชน) และคุณสาวิตรี จันทร์ศรีชวาลา ที่มารอต้อนรับด้วยตัวเองพร้อมกับเล่าที่มาของร้านแห่งนี้ให้ฟัง
โดยคุณสุขเทพ เล่าว่า “จากที่เราเป็นอาจารย์สอนการบริหารโรงแรม ร้านอาหาร จึงคิดว่าน่าจะลองบริหารร้านอาหารดู เลยมาเปิดร้านอาหารแห่งนี้เดิมเป็นอาหารอีกชื่ออีกสไตล์ เปิดมานานแล้วแต่มาเปลี่ยนเป็นชื่อ เทพรส เน้นอาหารไทย โดยทางเชฟจากัวร์ มาทำได้ประมาณเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ทำได้ไม่กี่เดือนก็เจอโควิด ต้องปิดร้านไป ช่วงนั้นก็มีทำเดลิเวอร์รี่บ้าง แต่ตอนนี้กลับมาเปิดเต็มตัวแล้ว

ชื่อร้าน ผมคิดไม่ไกล เพราะว่าเพื่อนๆ ที่ชอบมากินกัน รู้จักกัน ก็มักจะเขียนมาบอกว่า พี่เทพช่วยจองร้านให้หน่อย ชื่อเล่นชื่อเทพ ก็เลยตัดสินใจเป็นชื่อ เทพรส ไปเลย ความหมายก็ดีด้วย”



ที่มาของเมนูอาหารไทย เจ้าของร้านบอกว่า  “อาหารเมนูต่าง ๆ ให้เชพจากัวร์คิดขึ้นมาว่าเน้นอาหารไทยที่หากินได้ไม่ง่ายแล้วในสมัยนี้ในบางรายการ รวมถึงอาหารทางใต้ที่คนไทยชื่นชอบ นอกจากนี้ก็มีเมนูอาหารทะเลด้วย

ในเวิ้งนี้ ร้านอาหารที่ยังเปิดอยู่ไม่ง่ายนักในสภาวะโควิด เศรษฐกิจไม่ดี ร้านต่าง ๆ ก็ปิดไป ตอนนี้เหลือร้านเราร้านเดียว ยกเว้นร้านอาหารญี่ปุ่นเหลืออยู่สามร้าน แต่เราคิดว่า น่าจะไปได้ดีอยู่ เพราะตั้งแต่เปิดมาก็มีลูกค้าเข้ามาทานเรื่อย ๆ ต้องใช้เวลาสักนิดในการเรียกลูกค้าเก่ากลับมา เพราะใคร ๆก็อยากจะออกมาทานอาหารนอกบ้านกันแล้ว”



คุณสุขเทพ เล่าให้ฟังต่อถึงโปรโมชั่นที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเดือนครบรอบการเปิดร้านในชื่อเทพรสครบหนึ่งปีว่า “คิดว่าจะทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องของการลดราคา การแจกเครื่องดื่ม และจะมีโปรโมทเรื่องอาหารเซ็ท สำหรับที่ชอบมากันเป็นกลุ่มๆ 10-15 คน มาจัดแชร์กัน เราก็จัดพิเศษให้สำหรับคนกลุ่มนั้น ตอนนี้ก็เริ่มแชร์กันมากขึ้น เราจะมีเซ็ทละ 5,000 บาท ทานได้ 5 คนต่อ 1 เซ็ท ก็เท่ากับคนละ 1000 บาทก็จะมีเครื่องดื่มให้ ซึ่งทางสิงห์ก็มีส่งมาโปรโมทร่วมกันก็จะมีเบียร์ให้เลือก ถ้ามาเกิน 10 คน จะนำเหล้า ไวน์มาก็จะไม่คิดค่าเปิด เอาใจกลุ่มคนจัดงานเลี้ยง ช่วงสิงหาคมก็จะเริ่มโปรโมทออกเพื่อเรียกคนกลับมาใหม่ และก็จะจัดไปเรื่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ในช่วงเดือนตุลาคมก็จะมีเบียร์เฟสติวัล



ในส่วนเดือนสิงหาคม ตอนแรกจะโปรโมทเป็นเดือนแม่ แต่เพราะชนกับที่จะจัดครบรอบหนึ่งปีเทพรสอยู่แล้ว แต่ก็จะลดให้สิบเปอร์เซ็นต์หรือหากพาแม่มาก็ลดเป็นสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ในช่วงวันแม่ประมาณวันที่ 5-20 สิงหาคม

และเพราะคุณสุขเทพ ทานอาหารมังสวิรัติตั้งแต่เด็ก ร้านเทพรส จึงมีการจัดสรรเมนูสำหรับลูกค้าที่ทานมังสวิรัติเอาไว้เป็นกรณีพิเศษด้วย

“ผมเป็นมังสวิรัติ ที่ร้านจะมีเมนูมังสวิรัติ 15-20 อย่าง อาหารเจที่ทานได้โดยไม่จำเป็นต้องรอเทศกาล จะมีคนมังสวิรัติมาทานด้วย อาหารเจเราจะแยกวัสดุที่ใช้ปรุง ไม่ว่าจะเป็นหม้อหรืออะไร เพราะบางคนเข้มงวดมาก”

... ไม่นานนัก อาหารเมนูแนะนำจากฝีมือเชฟจากัวร์ คุณธีรวีร์  ดิษยะไชยพงษ์ ก็ทยอยเสริฟให้ได้ชื่นชมและชื่นชิมกันอย่างไม่ขาดสายอย่างที่คุณสุขเทพ ได้เล่าให้ฟัง

ว้าวววว.... มิเสียแรงที่ฝ่าสายฝนกระหน่ำมาจริงๆ



เริ่มกันด้วย ส้มตำปูดองเทพรส 



ปูไข่ดองจากสมุทรสาครสดๆ เป็นๆ นำมาทำความสะอาดด้วยโซดาแล้วนำมาดองกับสูตรน้ำปลาดี หลังจากนั้นนำไปแช่ในช่องแช่แข็งทันที ก่อนนำมาเสิร์ฟความอร่อยกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดแบบแซ่บๆ



ถัดมา เป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ก็ว่าได้ ซี่โครงหมูอบซอส BBQ เทพรส 



ด้วยไซส์ขนาดใหญ่ของซี่โครงหมู ที่ถูกเคี่ยวจนนุ่ม ใส่สมุนไพร 8 อย่าง แล้วนำซอสไปอบ จนเข้าเนื้อเสิร์ฟกับผักย่าง เช่น ฟักทองย่าง มะเขือเทศ เห็ด เพื่อให้มีกลิ่นหอมของกระทะ นอกจากจะหน้าตาดีชวนให้ลิ้มลองแล้ว ยังนุ่มละมุนลิ้นมั่กๆ



หลังจากนั้น ก็มาถึง แกงปูใบเหลียง 



เสริฟพร้อมขนมจีนและผักสด สำหรับรสชาติไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นสูตรของเชฟจากัวร์หนุ่มใต้แท้ ๆ เมนูนี้ใช้กะทิสดๆ กับแกงปูแบบปักษ์ใต้ ส่วนผสมพริกแกงใต้ใส่เนื้อปูพร้อมใบเหลียงชุมพร จากนั้นใส่กะทิลงไปต้มให้เดือด เสร็จแล้วจัดจานเสิร์ฟ 

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเนื้อ ต้องเมนูนี้เลยคะ บีทริปนิวส์ว่า มัสมั่นเนื้อน่องลาย 



เสริฟร้อนๆ หอมฟุ้ง มาแต่ไกล มัสมั่นแกงแก้วตาหอมยี่หร่ารสร้อนแรง เป็นเมนูที่ติดอันดับความอร่อย ที่ใครมาแล้วต้องสั่ง เพราะเลือกน่องมาตุ๋นเคี่ยวจนนุ่มเสร็จแล้ว เติมกะทิให้นำเข้ากับเนื้อใส่เครื่องแกง แล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆจนเข้าเนื้อ  จากนั้นตักใส่กระทะร้อนพร้อมเสิร์ฟ

นอกจากนี้ยังมี ข้าวกะเพราคั่วเป็ดกรอบ 



เป็นอาหารจานเดียวที่ใคร ๆบอกว่าหอมกลิ่นคั่วกะเพรา นำเป็ดทอดกรอบมาคั่วกับกะเพราและพริกสับให้หอมแล้วนำข้าวมาคลุก จากนั้นตกแต่งจานพร้อมเสิร์ฟ

หายไปสักพัก เชฟจากัวร์ ถือ กุ้งนึ่งเทพรส 



ปิดฝามาวางเอาไว้ให้ได้ลุ้นกัน ไม่นานนัก กุ้งแม่น้ำขนาดกลาง จากอยุธยา ก็ถูกเปิดออกมาท่ามกลางควันกรุ่น กุ้งแม่น้ำสดถูกแกะเปลือกพร้อมทาน เสริฟพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดสูตรของทางร้านเทพรส



อืมมม... จี๊ดจ๊าด สุดๆ

ถัดมาเป็น เมนู หมูกรอบคั่วถั่วลิสง เชฟเล่าว่า หมูกรอบจากการต้มแล้วนำไปจิ้มตรงหนังหมู แล้วนำไปอบเตาไฟฟ้า จนแห้งจากนั้นนำมาทอดจนกรอบฟู เสร็จแล้วเตรียมเครื่องคั่วคือ พริกสับ  ถั่วลิสงตำมือหยาบๆ ปรุงรสให้ครบเครื่อง คลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่จานตกแต่งจานพร้อมเสิร์ฟ





ตามมาติดๆ ตัวเมนู หมึกกรอบไข่เค็ม จากผลตอบรับของกุ้งกรอบไข่เค็ม ที่เป็นอาหารขายดี เราก็อยากจะนำเสนอ ปลาหมึกกรอบไข่เค็ม คือ การนำแป้งผสมกับไข่แดงเค็ม นำปลาหมึกสดมาชุบแป้งที่ผสมกับไข่เค็ม แล้วนำไปทอดกรอบ จากนั้นนำมาพักทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วนำมาจัดจาน จากนั้นขูดไข่แดงเค็ม โรยบนปลาหมึกกรอบไข่เค็ม แล้วขูดผิวมะนาวโรยบนปลาหมึกกรอบไข่เค็ม จากนั้นก็นำไปเสิร์ฟได้เลย

ส่วนเมนูที่หาทานได้ยากและหายสาบสูญไปนาน กลับมาเสริฟใหม่จากการรังสรรค์ของเชฟจากัวร์ คือ หมี่สยามเทพรส 



กลับมาเสิร์ฟเนื่องจากรายการ Top Chef Thailand เชฟจากัวร์ชนะภาระกิจตามหาเมนูโบราณ คือ การผัดหมี่กับพริกเผาแล้วใส่กะทิคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมกับกุ้งแม่น้ำย่าง

ราดหน้าเส้นกรอบหมูนุ่ม 





ราดหน้าทั่วไปจะเส้นผัด แต่สูตรของทางร้านเทพรส จะนำเส้นไปทอดกรอบ จากนั้นทำน้ำราดหน้าสูตรพิเศษจากทางร้านมีความหอมน้ำมันงา และวัตถุดิบที่สด

ส่วนไฮไลท์ที่ลูกค้าชื่นชอบ เรียกว่าเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์เช่นกันคือ เมนู ต้มยำเนื้อวากิวน้ำข้นคลั่ก 





โดยต้มยำสมุนไพร ข่า ตะไคร้ พริกขี้หนู  จากนั้นเตรียมน้ำต้มยำใส่ไข่แดง 1ฟอง และใส่นมข้นจืด แล้วนำมาใส่มันกุ้งข้นๆ เพื่อให้เห็นถึงความข้นของน้ำต้มยำ เสิร์ฟกับวากิวที่สไลด์บางเพื่อให้เห็นลายของเนื้อวากิว



... แค่จุ่มเล็กน้อย เนื้อวากิวสีแดงสดก็แปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ตักเข้าปาก เคี้ยวเบาๆ นุ่มจริงๆ







คุณสุขเทพ  ฝากบอกมาว่า ซิกเนเจอร์ของร้าน วิธีการทำและรายละเอียดต่างๆ เหล่านี้จะแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ที่นี่สามารถรองรับลูกค้าได้  52 ที่นั่ง สามารถจัดเลี้ยงหรืออะไรก็จัดได้หมด

ส่วนใหญ่ลูกค้าเป็นคนไทย ต่างชาติมีบ้าง บางคนบินมาแล้วอ่านเจอในกูเกิลก็มาทาน คนญี่ปุ่นก็มี เดิมทีมีคนญี่ปุ่นเข้ามาเยอะช่วงที่เป็นอาหารอเมริกันก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นครัวเทพรสอาหารไทย ตอนนี้กำลังเอาเมนูทั้งหมดไปแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นเพื่อไปแนะนำตามอพาร์ทเมนท์หรือคอนโดในย่านนี้เนื่องจากเป็นย่านของคนญี่ปุ่นอยู่อาศัย คนญี่ปุ่นชอบอาหารไทยเยอะมาก ที่ร้านตอนนี้จึงเริ่มโปรโมทตลาดคนญี่ปุ่นด้วย 

“จริง ๆแล้วร้านเราถือว่าพยายามที่จะอนุรักษ์อาหารไทยให้มากที่สุด แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแบบโบราณ แต่ด้วยฝีมือของเชฟจากัวร์ อยากเชิญชวนให้คนที่ยังไม่เคยมา ได้มาลองชิมว่าอาหารของที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง ติได้ตลอดเวลา อาหารตรงไหนไม่ดีแนะนำได้ เราเน้นเสริฟอาหารที่ดีและราคาไม่แพงจนเกินไป ถึงแม้ว่าจะอยู่ในทองหล่อแต่ก็พยายามที่จะให้ราคาเหมาะสมสำหรับคนที่มาทาน อยากให้เป็นอีกหนึ่งร้านที่คนไทยได้เข้ามาลอง..มาชิมกัน” คุณสุขเทพ กล่าวทิ้งท้าย  

..... หลังจากเดลิเวอร์รี่กันมาจนเริ่มเบื่อ บีทริปนิวส์ ขอแนะนำให้ลองแวะมาที่นี่ ร้านเทพรส อาหารไทยรสชาติจัดจ้าน อาหารทะเลก็แซ่บด้วยน้ำจิ้มสูตรเด็ด จะต้มยำก็ข้นคลั่กส่งกลิ่นหอมหวนน่าทาน ส้มตำก็รสเด็ดรับรองไม่ผิดหวัง .... 



ที่ตั้งร้านเทพรส 

อาคาร Nihonmura Mall อยู่ในซอยอรรคพัฒน์ (ทองหล่อ 13)  เข้าซอยมาระหว่างกลางทองหล่อกับรพ.สมิติเวช ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ กรุงเทพฯ  และหาสถานที่ตั้งได้จาก  Google Map ไม่ยาก

ที่จอดรถใต้ดิน เปิดทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 11.00 - 23.00 น.

โทร : 065 549 6565

Facebook : www.facebook.com/theparosthongl