กระทรวงอุตสาหกรรม แถลงการเตรียมประกาศรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี 63

กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) แถลงข่าวพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 (The Prime Minister’s Industry Award 2020) ปีที่ 28 เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ 4.0  ตามนโยบายเศรษฐกิจใหม่ “BCG Model” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจใหม่ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม เผยในปีนี้มีผู้ประกอบการได้รับการคัดเลือกเข้ารับรางวัลจำนวน 79 รางวัล พร้อมรางวัลชมเชย 5 รางวัล จากผู้สมัครทั้งสิ้น 260 ราย



นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงานแถลงข่าวพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 (The Prime Minister’s Industry Award 2020) ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมจัดพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อมอบให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีความวิริยอุตสาหะ ในการพัฒนาการประกอบการให้มีประสิทธิภาพ และมีคุณภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กำหนด



“กระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมเพื่อก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ตามนโยบายเศรษฐกิจใหม่ “BCG Model” ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) เป็นการพัฒนา 3 เศรษฐกิจหลักพร้อมกัน 

โดยนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาต่อยอดพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curves) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดการนำกลับมาใช้และลดปริมาณขยะหรือของเสียให้เป็นศูนย์ (Zero Waste) ควบคู่กับการลดผลกระทบต่อโลกและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการพัฒนาและยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย สู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างยั่งยืน”



และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ในส่วนภาคอุตสาหกรรมของไทยก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน กระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือทั้งมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูธุรกิจในหลาย ๆ ด้านได้แก่ มาตรการพักชำระหนี้และเติมเงินสินเชื่อ การยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีโรงงานอุตสาหกรรม 56,598 แห่งทั่วประเทศ และมาตรการอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งมั่นส่งเสริมผู้ประกอบการตระหนักถึงความสำคัญในการปรับตัวเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจอุตสาหกรรมใหม่ในยุควิถีใหม่ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาปรับใช้



นายสุริยะ กล่าวว่า “รางวัลอุตสาหกรรม” เป็นรางวัลแห่งเกียรติยศสูงสุดที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการจัดพิธีมอบ "รางวัลอุตสาหกรรม" อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา ปีนี้นับเป็นปีที่ 28 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กำลังใจและประกาศเกียรติคุณผู้ประกอบการธุรกิจภาคอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพ ผ่านเกณฑ์มาตรฐานตามที่กำหนดในระดับที่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดี มีความคิดริเริ่มและมีความวิริยอุตสาหะ ในการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมกับผู้ประกอบการและสถานประกอบการต่าง ๆ

ในส่วนของผลการพิจารณาคัดเลือกรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 มีผู้ประกอบการได้รับการพิจารณาคัดเลือก จำนวนทั้งสิ้น 79 รางวัล พร้อมรางวัลชมเชยอีก 5 รางวัล จากผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกจำนวน 260 ราย โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล ผู้ที่ได้รับรางวัลในปีนี้คือ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด 2. รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น จำนวน 48 รางวัล แบ่งเป็น 8 ประเภทรางวัล 3. รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อมดีเด่น จำนวน 30 รางวัล แบ่งเป็น 4 ประเภทรางวัล

รางวัลอุตสาหกรรมที่ผู้ประกอบการได้รับ ถือเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ในการคงคุณภาพ และพัฒนาการประกอบการให้มีประสิทธิภาพแม้ในสภาวะวิกฤติได้อย่างน่าชื่นชม ในขณะเดียวกัน เหล่าคณะกรรมการและคณะทำงานที่มีหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบประเมินผล ณ สถานประกอบการต่าง ๆ ต้องใช้ความพยายามและความอุตสาหะเป็นอย่างมากในการรวบรวมข้อมูลและผลการประเมินต่าง ๆ อีกทั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิในแขนงต่าง ๆ มีการให้คำแนะนำ แนะแนวทางการพัฒนาการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในดำเนินงานให้กับผู้ประกอบการ



สำหรับการจัดพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 (The Prime Minister’s Industry Award 2020) กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบการจัดงาน กำหนดจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2563 เวลา 13.30 น. ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต โดยได้รับเกียรติจากท่านนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ NBT ในวันและเวลาดังกล่าว ซึ่งการจัดงานดำเนินงานตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน