จุรินทร์ผลักดันวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE) สู่ตลาดโลกด้วยช่องทางออนไลน์

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ผู้ประกอบการกลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ก้าวสู่ตลาดโลกผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Online Business Matching) นำกลุ่มวิสาหกิจเพื่อสังคม พบผู้ซื้อ ผู้นำเข้าจากต่างประเทศ กว่า 34 ราย จาก 13 ประเทศ ตามนโยบายเพิ่มความเข้มแข็งให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคม เมื่อวันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2563 ณ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์









ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “การสร้างความเข้มแข็งให้กับวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise หรือ SE) เป็นนโยบายของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม เพื่อทำให้วิสาหกิจเพื่อสังคมได้มีโอกาสต่อยอดธุรกิจให้มีรากฐานที่แข็งแรง มั่นคง และยั่งยืนตามเป้าหมายของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนนโยบายการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในประเทศของรัฐบาล 

โดยที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญในการผลักดันผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าวมาโดยตลอด และผมเองก็ได้เป็นตัวแทนกระทรวงร่วมรับฟังความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมถึงจัดทำแผนงานในการสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้ทราบถึงจุดแข็ง ความต้องการ และส่วนที่ควรได้รับการสนับสนุนสำหรับกลุ่มนี้ จึงเป็นที่มาของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ และคาดการณ์การเจรจาธุรกิจออนไลน์ในครั้งนี้มีมูลค่าการค้ากว่า 15 ล้านบาท ” 






นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กิจกรรมเจรจาธุรกิจออนไลน์ Online Business Matching ตอบโจทย์วิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ซึ่งมีสินค้าที่มีคุณภาพ แต่เงินลงทุนน้อย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับช่องทางออนไลน์ของ ThaiTrade.com แพลตฟอร์มของกรม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่ม SE สามารถพบผู้ซื้อผู้นำเข้าศักยภาพได้โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งยังมีผู้ช่วยให้คำปรึกษาตลอดเวลา 24 ชั่วโมงอีกด้วย 

ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับกลุ่ม SE ที่จะทำให้มีประสบการณ์ในการส่งออก ก่อนจะเข้าสู่สนามการค้าแบบ Offline ในเวทีถัดไปเมื่อมีความพร้อม”




สำหรับการดำเนินงาน ที่ผ่านมาหลายงานภาครัฐได้ออกมาตรการในการสนับสนุนการดำเนินงานของ SE หลายมาตรการ อาทิ กรมสรรพาการมีประกาศให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่กิจการ SE ที่ได้รับการจดทะเบียนจาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) ผู้ลงทุนในหุ้นของกิจการ SE บริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้ SE สามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศให้กิจการ SE ที่ผ่านการจดทะเบียนรับรอง สามารถระดมทุนเสนอขายหุ้นต่อประชาชนได้ โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาตจาก ก.ล.ต.ตามปกติ เป็นต้น