รมช.ประภัตร ลงพื้นที่ขอนแก่น เปิดงานส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวคุณภาพ

นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวคุณภาพภายใต้โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ณ ที่ว่าการอำเภอแวงน้อย อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น โดยมี นายณัฎฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน

โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ เป็นการดำเนินงานซึ่งเน้นการรวมกลุ่มของเกษตรกรรายย่อย ที่อยู่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกันที่พร้อมจะพัฒนาการผลิตและการตลาดร่วมกันตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยวางระบบการผลิตและการบริหารจัดการในแนวทางเดียวกัน เพื่อประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเน้นการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ตามนโยบายการตลาดนำการผลิต นำไปสู่การจัดการ สินค้าเกษตรสู่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน สร้างเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรได้อย่างมั่นคงในอนาคต ตามแผนปฏิรูปการเกษตร

โดยเกษตรกรยังคงเป็นเจ้าของพื้นที่และร่วมกันดำเนินการบริหารจัดการการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุกขั้นตอน จนถึงการเชื่อมโยงตลาดกับ ภาคเอกชนแบบประชารัฐ ทั้งนี้ การปรับระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ โดยการนำหลักเกษตรสมัยใหม่ร่วมกับการเชื่อมโยงตลาดนั้น จะก่อให้เกิดความร่วมมือในการผลิต จากการที่เกษตรกรหรือองค์กรเกษตรกรในพื้นที่ ได้มีการดำเนินกิจกรรมที่ใกล้เคียงกันหรือมีพื้นที่ติดต่อกัน ทำให้เกิดขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ขึ้ รมช.ประภัตรกล่าว

สำหรับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่นได้ดำเนินงานโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด จำนวน 208 แปลง  และโครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าวอินทรีย์ ทั้งสิ้น 286 กลุ่ม ครอบคลุมทั้ง 26 อำเภอในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น

โดยการจัดงานส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การใช้เทคโนโลยีการผลิตข้าวคุณภาพครั้งนี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกษตรกรและผู้เข้าร่วมงานได้ทราบถึง เทคโนโลยี นวัตกรรม ในการยกระดับการผลิตข้าวคุณภาพ และเป็นตัวอย่างในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับชุดเทคโนโลยีการผลิตข้าวคุณภาพ เผยแพร่ผลการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมต่างๆ ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวขอนแก่น ให้ชาวนาและสาธารณชนทั่วไปได้รับทราบ รับรู้การถ่ายทอดเทคโนโลยีรวมถึงบทบาทหน้าที่ของศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างองค์กรชาวนาและสาธารณชนผ่านสื่อต่างๆ ผ่านกิจกรรมต่างๆภายในงาน

อาทิ การจัดนิทรรศการ / สถานีเรียนรู้ในประเด็นกิจกรรมภายใต้โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด ถ่ายทอดความรู้โดยนักวิชาการ วิทยากรผู้มีความรู้ หรือประสบการณ์เกี่ยวกับเทคโนยีการผลิตข้าวคุณภาพนวัตกรรมด้านข้าว สาธิตเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวกับการผลิตข้าวคุณภาพ

นอกจากนี้ รมช.ประภัตร ได้มอบเงินอุดหนุนให้กับกลุ่มเกษตรกรโครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าวอินทรีย์จำนวน 50 ราย นอกจากนั้นยังได้มอบปัจจัยการผลิต(เมล็ดพันธุ์ข้าว)และเครื่องจักรกล โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดอีกด้วย

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ เพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตข้าวขยายพื้นที่การผลิตและการตลาดข้าวอินทรีย์ของประเทศให้มีคุณภาพได้รับการรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ (Organic Thailand) เตรียมความพร้อมการผลิตเข้าสู่มาตรฐานอินทรีย์ต่างประเทศเพื่อสร้างความยั่งยืนในการผลิตข้าวให้กับชาวนาไทย ดำเนินการระหว่างปี 2560-2564 ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 ครม.ได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ จากเดิมสิ้นสุดปีงบ ประมาณ 2564 เป็นสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565

 โดยโครงการดังกล่าวมีเป้าหมาย1,000,000 ไร่ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการผ่านการรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์จะได้รับเงินอุดหนุนต่อเนื่อง ปี เพื่อชดเชยรายได้ที่ลดลงจากการปรับเปลี่ยนสู่การผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ที่ได้รับผลผลิตลดลงในระยะเริ่มต้น ความคืบหน้าการดำเนินโครงการดังกล่าว กระทรวงเกษตรละสหกรณ์ ได้ให้การรับรองมาตรฐาน Oganic Thailand ไปแล้วถึงปี 2563 จำนวน 3,144 กลุ่ม เกษตรกร 45,112 ราย พื้นที่ 466,456 ไร่ จ่ายเงินอุดหนุนไปแล้วจำนวน 7,418 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน

ในปี 2562 จะได้รับเงินอุดหนุน จำนวน 2,122.79 ล้านบาท กรมการข้าวได้จ่ายเงินอุดหนุนไปแล้ว 1,205 ล้านบาท ยังเหลือที่ยังต้องจ่ายอีก 917.80 ล้านบาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมการข้าวเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ

โดยนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นชอบให้ใช้งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นเงินอุดหนุนเกษตรกรตามโครงการ โดยเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเงินอุดหนุนแก่กลุ่มข้าวอินทรีย์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ  จึงได้มอบหมายนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ รองอธิบดีกรมการข้าว

ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการได้ดำเนินการเร่งรัดเบิกจ่ายเงินให้ถึงมือพี่น้องเกษตรกรกลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์โดยเร็วต่อไป