Narisa Café & Creative Space

“....ที่นี่เป็นความทรงจำในวัยเด็กของครอบครัว ฟ้าดีใจที่ทำให้บ้านหลังนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง...”นริสา ชัยสูตร

พื้นที่แห่งความสุขและความทรงจำ

 วันนี้ B tripNews จะพาไปรู้จักกับร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่อบอุ่น Narisa Cafe & Creative Space ณ บ้านหลังน้อยสีขาวสะอาดตา ที่บริหารโดย คุณฟ้า - นริสา ชัยสูตร ลูกสาวของรศ.ดร.นริศ ชัยสูตร อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และอธิบดีกรมธนารักษ์

ตัวเรือนหลังน้อยทำจากไม้สักครึ่งตึกครึ่งไม้แห่งนี้ ตั้งอยู่ภายใต้ร่มไม้บังใบภายในซอยพหลโยธิน 17 เข้ามาเพียงไม่ถึง 200 เมตร ด้านหน้าเปิดลานโล่งรองรับผู้มาเยือนสามารถจอดรถได้นับสิบคัน ขณะที่บริเวณการจัดวางที่นั่งสำหรับลูกค้า อยู่ทั้งในตัวเรือนไม้สักและสวนภายในบ้าน อบอุ่น น่ามาเยือนยิ่ง 

เราพบกับคุณฟ้า - นริสา ชัยสูตร เจ้าของร้าน ในชุดขาวบางเบาสวมทับด้วยผ้าคลุมกันเปื้อนสีครีม กำลังสาละวนอยู่กับการจัดการกับออเดอร์จากลูกค้า ที่ดูเหมือนวันนี้จะเป็นลูกค้าวีไอพีของคุณพ่อเสียเป็นส่วนใหญ่ที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในวันเปิดร้านวันแรก





ความผูกพันเมื่อครั้งเยาว์วัย 

หลังจากออเดอร์แก้วแล้วแก้วเล่าเสริฟเรียบร้อย การสนทนาก็เริ่มขึ้นโดย คุณฟ้า พาเราขึ้นมาบนเรือนชั้นสองของร้าน ที่ปรับพื้นที่ให้เป็นที่นั่งสำหรับกลุ่มเพื่อนฝูง เธอเริ่มเล่าให้เราฟังถึงที่มาของเรือนหลังนี้ว่า “...บ้านหลังนี้เป็นบ้านคุณย่า ปิดตายไม่มีผู้อาศัยมานานนับสิบปี หลังจากคุณปู่ (ไววิทย์ ชัยสูตร) เสียชีวิตลง คุณย่า ( คุณสมจิตร ชัยสูตร ) ย้ายไปอยู่กับคุณพ่อที่บ้านย่านบางกรวย ทำให้บ้านหลังนี้เหมือนไม่มีชีวิตแล้ว”







บ้านหลังนี้สร้างขึ้นในปี 2501 ออกแบบโดย อาจารย์ประดิษฐ์  ยุวะพุกกะ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม (แบบประเพณี) ท่านเป็นศิลปินแห่งชาติที่มีอายุยืนยาวมากถึง 96 ปี ผลงานสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมจึงมีอยู่ทุกหนแห่ง ครอบครัวของท่านเป็นช่างสมัยรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 จึงได้รับอิทธิพลและได้รับการสืบทอด ตลอดจากครูบาอาจารย์อีกหลายท่านประสิทธิประสาทวิชการให้ เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ท่านยังได้ร่วมงานกับอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ในช่วงที่ท่านรับราชการอยู่ที่กรมศิลปากร

คุณนริสา ชัยสูตร


“....คุณปู่คุณย่าย้ายมาอยู่ด้วยกันตั้งแต่หลังแต่งงาน คุณพ่อฟ้าก็โตที่นี่ประมาณเกือบเจ็ดสิบปีแล้ว คุณย่าของฟ้าทำงานที่กรมศิลปากร บ้านนี้จึงมีเพื่อนมาออกแบบให้ ที่นี่มีสองห้องนอน คุณพ่อก็นอนอยู่ที่นี่”





โดยคุณย่าสมจิตร เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้เธอที่ทำให้หลงใหลในงานศิลปะ จนสอบเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยศิลปากร และจบการศึกษาได้ปริญญาตรีเกียรตินิยม จากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ จากนั้นได้จบปริญญาโทด้าน Marketing จาก Lancaster University ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านการตลาดของประเทศอังกฤษ จึงไม่แปลกใจเลยว่า  Narisa Cafe & Creative Space จึงเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและการตลาด ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็น blogger ที่มีประสบการณ์ด้านอาหารและท่องเที่ยว เคยเดินทางไปประเทศต่างๆมากกว่า 40 ประเทศ จึงมีผู้ติดตามข้อเขียนของคุณฟ้าเป็นจำนวนมาก





รศ.ดร.นริศ และแขกวีไอพีร่วมแสดงความยินดีกับลูกสาว ในโอกาสเปิดร้าน


ความทรงจำที่อบอุ่น



“.... สำหรับการปรับปรุงเพื่อทำร้านกาแฟ บ้านหลังนี้แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย ชั้นสองยังคงเป็นไม้เดิมๆ มีแต่ด้านล่างที่ปรับปรุงเป็นเคาน์เตอร์ เพราะด้านล่างเมื่อก่อนโดนน้ำท่วม พื้นเป็นไม้สักบวมและโครงเสียหาย จึงปรับใหม่



แต่ไม้สักที่บวมนั้น ฟ้าก็ไม่ได้ทิ้ง ชิ้นไหนยังสามารถนำมาซ่อมแซมได้ ฟ้าจะนำมาออกแบบเป็นชั้นวางของ ชั้นกาแฟ โดยอยากให้วัสดุต่างๆ เป็นของเดิมให้มากที่สุด

อย่างโต๊ะไม้บนห้องชั้นสอง เป็นโต๊ะโบราณที่คุณปู่คุณย่าได้รับเป็นของขวัญวันแต่งงาน สามารถแยกขยายออกเพื่อเพิ่มหน้าโต๊ะได้ โครงบ้านเหมือนเดิมเก็บไว้ทุกอย่าง ส่วนพื้นที่รอบตัวบ้าน แต่ก่อนจะมีสวน แต่เมื่อคุณย่าไม่อยู่จึงให้คนเช่าเป็นที่จอดรถ จึงต้องปรับพื้นโดยการเทปูนทั้งหมด



.... ฟ้าพยายามทำให้กระทบน้อยสุด ยังเก็บหลายส่วนเดิม ๆ ไว้ แต่ก่อนบ้านปิดตาย ให้เช่าแต่พื้นที่จอดรถด้านหน้า มาทีไรก็ไม่มีใครอยู่เลย ปิดมาสิบห้าปีแล้ว

สมัยก่อนที่คุณปู่อยู่ ช่วงฟ้าเด็กๆ ปิดเทอมก็จะมาเที่ยวที่นี่ชอบมานอนอยู่กับคุณปู่กับคุณย่า เพราะสมัยก่อนบ้านพ่อที่บางกรวยห้ามเลี้ยงหมา แต่ที่นี่เลี้ยงหมาได้ด้วย ให้เราได้มาวิ่งเล่นได้ด้วย

คุณย่าเล่าให้ฟังว่า พื้นที่สวนหลังบ้านแต่เดิมเป็นบ่อน้ำ แต่กลายเป็นว่า เพื่อนบ้านมาเคาะประตูทุกเสาร์ อาทิตย์ เพื่อมาเล่นน้ำ แต่ฟ้าเกิดไม่ทันเห็น ตอนหลังบ่อน้ำถมไปหมดแล้ว”





ความผูกพันของเธอกับคุณย่าตั้งแต่วัยเยาว์บ่มเพาะให้เธอชื่นชอบงานศิลปะ ความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมต่างๆ และเลือกที่จะเรียนศิลปากร แบบไม่รู้ตัว

“ตอนเด็กๆ ก็มาเล่นที่บ้านนี้ ตัวเองชอบ ไม่รู้เหมือนกันทำไม ตอนเรียนศิลปากร ก็ชอบนั่งดูตึกเก่าๆ แถวท่าพระจันทร์ ร้านกาแฟในแนวมินิมอลก็ไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้น รู้สึกว่า ชอบมองบรรยากาศเก่าๆ ดีใจที่เวลาเรามองกลับมาที่บ้านหลังนี้ มันกลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้ว

ฟ้าเริ่มแพลนในการทำร้านมาตั้งแต่ปี 2562 เริ่มเขียนแบบมาเรื่อยๆ ตอนแรกไปจ้างดีไซเนอร์มาออกแบบแต่เขาออกแบบไม่เป็นตัวเราเท่าไหร่ เลยตัดสินใจว่าทำเอง ออกแบบเองเลยละกัน ก็ออกมาแบบที่ชอบ ไม่ใหญ่มากเกินไป เริ่มจากที่ดูแลไหวก่อน ถ้าจะกว้างขนาดนั้นคงไม่ไหว สวนก็พยายามให้ร่มรื่นขึ้นเรื่อย ๆ แต่ช่วงเช้าและเย็นแสงดีมากเลยคะ



ที่มาของคาเฟ่ 

“....ฟ้ามีความชอบอยู่แล้ว ชอบไปตามร้านเครื่องดื่มต่างๆ ชอบไปชิมเบเกอรี่ และอยากจะทำร้านกาแฟ เบเกอรี่ แต่ไม่มีโอกาสทำ เพราะคุณพ่อหวงบ้านนิดหนึ่ง ไม่อยากให้ทำอะไร รวมถึงทุกคนทำงานเป็นข้าราชการกันหมด  จึงไม่แน่ใจกับการทำธุรกิจอะไร ท่านกลัวว่าจะไปไหวมั๊ย”  

จนกระทั่งเวลาลงตัว ในช่วงโควิด – 19 ฟ้าออกจากงานประจำด้านมาร์เก็ตติ้ง ที่โรงแรมก็คิดว่าเป็นจังหวะที่ดีแล้ว ที่ฟ้าจะค่อย ๆ เดินตามฝันทีละนิด เธอเริ่มเข้าคอร์สเรียนแบบไพรเวท คลาสเลือกครูที่ชอบ และเริ่มทำขนมจำหน่ายทางออนไลน์

“ ...ฟ้าขายเบเกอรี่ออนไลน์มาประมาณปีกว่า ก็มีการปรับสูตรเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งมีลูกค้าประจำ มีความชื่นชอบเบเกอรี่ที่เราทำ ก็เริ่มค่อยๆ วางแผนรีโนเวทบ้านนี้ โดยเริ่มจากคิดว่าทำที่เราไหว เริ่มจากแบบเล็กๆ ก่อน ทำแค่ห้องข้างล่างห้องเดียว ส่วนด้านบนก็ค่อยทำไป”



ด้านแนวความคิดของ คาเฟ่ แอนด์ ครีเอทีฟ สเปซ มาจากสิ่งที่เธอตั้งเป้า โดยการทำคาเฟ่แห่งนี้ให้มากกว่าการเป็นคาเฟ่ โดยปรับพื้นที่ห้องชั้นบน เพื่อรองรับการประชุม การจัดอีเวนท์ขนาดเล็ก รองรับราว 8- 10 คน บริเวณพื้นที่สวน เป็นเฟสถัดไปที่เธอเตรียมปรับเช่นกัน  

“ .... เริ่มจากห้องเล็กๆ ก่อน สเต็ปต่อไป จะปรับปรุงสวน ให้พื้นที่สำหรับคนมาทำเวิร์คช็อป เปิดตลาดนัดเสาร์ อาทิตย์ คือ เหมือนรวบรวมทุกสิ่งที่เราชอบไว้ที่นี่

อย่างฟ้าชอบทาน อาจจะทำ Chef Table ตรงนี้ ฟ้าเรียนศิลปะมาอาจจะเปิดเป็นเวิร์คช็อปงานศิลปะ หรืองานจัดดอกไม้ สามารถให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่แห่งความสุข ให้คนเข้ามาได้ใช้งานนอกจากแค่คาเฟ่”

ด้านเมนูต่าง ๆ เธอเล่าว่าฟ้าทำร้านออนไลน์มาปีกว่า ก่อนที่จะมาเปิดคาเฟ่ จึงเลือกนำขนมที่เป็นเมนูขายดี มาไว้บริการให้กับลูกค้าประจำ เมื่อมีหน้าร้าน ซึ่งตรงนี้ฟ้าไม่ได้กังวล แต่สิ่งที่เป็นสิ่งใหม่ คือ กาแฟ อยากให้มีคุณภาพทั้งขนมและกาแฟ โดยเป็นการรวมประสบการณ์ในการเดินทางไปยังประเทศต่างๆ

ด้านเมนูต่างๆ ด้านเบเกอรี่ ไม่ได้ทำให้เธอกังวลใจเท่าใดนักเนื่องเพราะเปิดร้านออนไลน์มานานนับปีแล้ว เมื่อมีหน้าร้านจึงเลือกนำขนมขายดีที่ลูกค้าติดใจมานำเสนอ สิ่งที่ทำให้เธอกังวลเป็นเรื่องของกาแฟ เพราะความที่ต้องการให้ได้คุณภาพทั้งขนมและกาแฟ และด้วยความที่เดินทางไปยังประเทศต่างๆ และได้รับประสบการณ์จากร้านกาแฟเหล่านั้นมานับร้อย ๆ ราย จึงทำให้เธอพยายามที่จะนำประสบการณ์เหล่านั้นมาขัดเกลา จนตกผลึกในการนำเสนอเมนูกาแฟออกมา



“ นริสา คาเฟ่แอนด์ครีเอทีฟ สเปซ สามารถมาทานเบเกอรี่อร่อยๆ และมีกาแฟ และเมนู non coffee เมนู refreshment ที่สร้างสรรค์ขึ้นมา



ใส่ไอเดียลงไป อย่างซิกเนเจอร์ของฟ้า ตัวที่เป็น espresso campana ก็เกิดจากความชอบของตัวเอง ไปทานกาแฟที่หนึ่งแล้วมีครีม ซึ่งเหมือนกับเมืองไทยหาไม่ค่อยได้บ่อย จึงเลือกมาเป็นเมนูของตัวเอง”

และนริสา ลาเต้ มาจากการเลือกสี เธอเลือกสีฟ้าจากชื่อของตัวเอง จึงนำดอกอัญชัญผสมผสานเข้าไปกับอัลมอนด์ ทำให้รสชาติแตกต่างและสีสรรต่างจากที่อื่น มีความหวานอ่อนๆ แบบละมุน เป็นเมนูที่เสริฟทั้งร้อนและเย็น สามารถหาได้ที่นี่เพียงที่เดียว





ส่วนขนม ก็นำมาจากร้านออนไลน์ของฟ้า ร้านขนมออนไลน์ที่ฟ้าขายได้ตลอดเลยคือ ซอสคุ้กกี้ ใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยมทุกอย่าง หวานน้อย อยากให้สามารถทานได้ทุกคน ไม่เบื่อและทานคู่กับเครื่องดื่มได้ เลมอน ทาร์ต ก็เป็นตัวขายดี”

และเมื่อถามถึง สไตล์ร้าน เธอบอกว่า เป็นนริสาสไตล์ ทุกอย่างเป็นตัวฟ้ามาก จาน ชาม สี ดอกไม้ ต้นไม้ ก็เลือกสีที่ชอบ เลือกจากความเป็นนริสา ไม่ใช่มินิมอลแบบเกาหลีที่เป็นขาวไม้แต่มันมีฟ้า มีสีเหลือง อย่างรูปที่ใช้ตกแต่งร้าน จริงๆ รูปที่ตัวเองวาดเอาไว้ก็เต็มบ้าน แต่ยังไม่ได้นำมาตกแต่ง อย่างรูปที่ฟ้าวาดในข้างล่างก็เป็นรูปที่ฟ้าวาดในตอนเรียนอยู่ปี 3 ”

 
ประสบการณ์ใหม่ของครอบครัว

“.... จริงๆ แล้วสิ่งที่ฟ้าทำในโรงแรมการตลาด และตัวเองก็ทำเพจท่องเที่ยวก็มิกซ์ทุกอย่าง แต่สิ่งที่บ้านฟ้าไม่มีเลยคือความเป็นนักธุรกิจ ค่อนข้างใหม่มาก



จะมีความกลัว คุณพ่อก็เป็นราชการ คุณแม่ก็เป็นข้าราชการเป็นหมอ ก็จะกลัว เพราะไม่ได้เรียนด้านธุรกิจ ฟ้าจบศิลปะที่ศิลปากร และไปจบปริญญาโทด้านมาเก็ตติ้งที่อังกฤษ เป็นอะไรที่ไม่ได้เคยทำธุรกิจมาก่อนก็เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ใหม่ การทำงานก็คิดว่าด้านมาร์เก็ตติ้ง ด้านการโปรโมท ตรงนี้ฟ้าไม่กลัวเลย เพียงแต่ว่าเรายังไม่พร้อมที่โปรโมท เพราะอยากให้น้อง ๆ ทำออเดอร์ออกไว ทุกอย่างราบรื่นก่อน เรื่องมาร์เก็ตติ้งคิดว่าไม่มีปัญหา มีแพลนอยู่ในหัวเต็มเลย

อยากให้ทุกคนมาแล้ว รู้สึกว่าเป็นคาเฟ่ที่จับต้องได้ กลับมานั่งสวนตอนเย็น มานั่งกับเพื่อนๆกัน ตอนนี้ก็ฟังคอมเม้นต์จากทุกคน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง พยายามปรับปรุงอยู่ วันนี้บ้านหลังนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง”





ภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะเริ่มโปรโมทจริงจัง  ตอนนี้ เปิด พฤ ศ ส อ จ. เวลา 8.00- 17.00 น.  ขายออนไลน์ตอนนี้ก็ยังทำอยู่เหมือนเดิม อยากนั่งทานก็ได้  เวลาเปิดให้บริการช่วง  Soft opening เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 9.00- 17.00 น.จันทร์พฤหัส ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 น. (ปิดวันอังคาร พุธ)

“ อยากจะฝากพื้นนี่ตรงนี้ไว้ ไม่ได้อยากเป็นคาเฟ่อย่างเดียว  อยากให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่แห่งความสุขของทุกคน





เรื่องการเดินทางไม่ต้องกังวลเลย ด้วยโลเคชั่นใกล้กับเซ็นทรัลลาดพร้าว และหอวัง สามารถเดินมาเข้าซอยพหลโยธิน 17 ประมาณ 100 กว่าเมตร อยู่ซ้ายมือเป็นบ้านหลังใหญ่สีขาว รอเปิดประตูต้อนรับทุกคนอยู่เสมอคะ

ตอนนี้สามารถเปิดดูข้อมูลได้ที่ Page Facebook : narisa  creative space หรือ ไอจี ก็เริ่มมีบล็อกเกอร์เข้ามารีวิวบ้างแล้ว ฝากติดตามได้เลยคะ”





การเดินทาง 

มีที่จอดรถด้านหน้าร้าน 8-10 คัน หรือสามารถจอดรถที่เซ็นทรัลลาดพร้าว หรือโลตัสลาดพร้าวแล้วเดินมาบ้านเลขที่ 5 ซอยพหลโยธิน 17 รถสาธารณะ ลง BTS ห้าแยกลาดพร้าว ทางออก 3


#narisacreative&space