Paulaner Garden Restaurant บ้านนี้อบอุ่น

ภายในซอย 9 เฉลิมพระเกียรติ ร. 9 ย่านศรีนครินทร์  ที่ตั้งของ ร้าน Paulaner Garden Restaurant ร้านที่นักชิมอาหารสไตล์เยอรมัน รู้จักกันมานานแล้วมากกว่าสิบปี ตั้งแต่เคยอยู่ที่แถวถนนสามัคคี แจ้งวัฒนะ จนกระทั่งย้ายมาเปิดอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ร้านที่ตกแต่งบรรยากาศร่มรื่นด้วยไม้น้อยใหญ่ ฝีมือการตกแต่งอย่างเอาใจใส่ในทุกจุดของร้านโดยคุณกานต์พิชชา คงสมบัติ หรือพี่ต๋อยที่เราคุ้นชิน

สำหรับสถานที่แห่งนี้มาจากที่เมื่อสิบกว่าปีก่อนคุณต๋อยยังคงพักอาศัยอยู่กับน้องสาวย่านศรีนครินทร์ แต่ด้วยสถานที่คับแคบลง เธอจึงเริ่มออกตระเวณหาสถานที่แห่งใหม่ จนกระทั่งพบว่าบริเวณนี้เปิดขาย เธอจึงตัดสินใจซื้อ โดยขณะนั้นร้านเดิมยังคงอยู่ที่ซอยสามัคคีเรียกว่าปล่อยเอาไว้กว่าห้าปี จึงเริ่มทำการก่อสร้าง ทั้งอาคาร ร้านอาหาร ลานจอดรถและโรงเก็บเบียร์นำเข้า ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงเจ้าเดียวในเมืองไทย 

รอยยิ้มที่มากด้วยอัธยาศัยไมตรีของพี่ต๋อย พี่สาวคนเดิม




โดยสถานที่แบ่งเป็นอาคารที่พักอาศัย ซึ่งด้านล่างเปิดเป็นโชว์รูมสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาชิมมาทำความรู้จักกับรสชาติของเบียร์นำเข้าอย่าง Paulaner และอื่นๆ ขณะเดียวกันชั้นใต้ดินได้เปิดบริการเป็นห้องสำหรับการจัดปาร์ตี้แบบไพรเวท รองรับลูกค้าที่ต้องการความเป็นส่วนตัว มีบาร์ มีโปรเจคเตอร์ พร้อมคาราโอเกะ เรียกว่ามีทุกอย่างครบครันสำหรับกรุ๊ปทีเดียว

ติดกับอาคารดังกล่าวซึ่งอยู่ด้านข้างกัน คุณต๋อยเปิดเป็นร้านอาหาร Paulaner Garden Restaurant โดยออกแบบให้เป็นสองโซน มีโซน open air และโซน air ซึ่งมีสองชั้น สามารถรองรับลูกค้าได้แบบไม่แออัด แม้พื้นที่จะไม่ได้กว้างขวางเท่ากับร้านย่านซอยสามัคคีย่านแจ้งวัฒนะซึ่งปิดตัวไปแล้ว

แต่พอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ ย่านศรีนครินทร์แห่งนี้ ยังคงคอนเซ็ปต์ที่เต็มไปด้วยความร่มรื่น อากาศปลอดโปร่งและมีลมพัดเอื่อยอ่อยตลอดเวลา ด้านที่จอดรถซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็สะดวกสบาย นอกจากนี้ถัดเยื้องร้านเป็นโรงสำหรับเก็บเบียร์นำเข้าต่างๆ เรียกว่าเป็นอาณาจักรย่อม ๆ ของคุณต๋อย ก็ว่าได้

ทางเข้าด้านหน้าร้าน

สถานที่เก็บเบียร์นำเข้า
มาดูบรรยากาศโดยรอบร้านกัน ด้านหน้าร้านมีที่นั่งทานอาหารในสวน พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศช่วงเวลาแห่งความสุข รวมถึงด้านในร้านเองก็มีการจัดวางโต๊ะอาหารตามโซนต่างๆ ถึง 2 ชั้น ให้บริการได้ถึง 80 ที่นั่ง พร้อมกับการเพลิดเพลินไปกับภาพบนผนังที่สื่อเรื่องราวขบวนการผลิตเบียร์ สีสันงานเทศกาลเฉลิมฉลองของชาวบาวาเรียน หรือเทศกาลงานเลี้ยงมีการตั้งชื่อต่างๆเช่น BIER CARTEN บ่งบอกบรรยากาศในหมู่บ้านของชาวบาวาเรียนที่อบอวลไปด้วยความสุข โดยเฉพาะชุมชนหรือหมู่บ้านในเมืองมิวนิก นั้น จะมีการจัดเทศกาลเบียร์กันทุกหมู่บ้าน ที่สำคัญจะมีการจัดใหญ่ระดับประเทศเยอรมันจะใช้ชื่อว่า “ออคโทเบอร์เฟส”











และมาถึงร้านพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ ทั้งทีต้องไม่พลาด  ขนมปังเพรสเซล ในรูปลักษณ์เลข 8 สไตล์เยอรมันที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นเมนูอาหารที่กินช่วงเช้าหรือระหว่างรออาหารหลักมาเสริฟ์ แต่เพรสเซลของร้านพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ มีความพิเศษและแตกต่าง เนื้อขนมปังจะกรอบนอกนุ่มในผสมผสานกับความเค็มกับเกลือเล็กน้อยได้อย่างลงตัวที่สุด 

เสริฟ์ร้อนๆ พร้อมกับตับบดในพิมรูปหัวใจสวยงาม หรือจะเป็นเสริฟ์กับเนยแท้ ๆ หอมละมุน ก็อร่อยได้อย่างลงตัวที่สุด รวมถึง ไส้กรอก บาวาเรียน เสิร์ฟมาพร้อมกับมันฝรั่งผัดเบคอนและซาวเคราท์ ซึ่งภายในจานจะมีไส้กรอก 3 ชนิด ประกอบด้วย ทูริงเจอร์ เป็นไส้กรอกที่ม้วนเป็นกลมๆในจาน ไส้กรอกชีส และ เยอรมันบราทเวิร์ส เนื่องจากทางร้านสั่งทำเฉพาะทางร้านพอลลาเนอร์การ์เด้นท์เท่านั้น และคิดค้นสูตรไส้กรอกตั้งแต่ร้านเปิดมา ซึ่งใช้เวลาลองผิดลองถูก จนมาลงตัวด้วยรสชาติที่อัดแน่นไปด้วยสมุนไพรเยอรมันนานาชนิด และมีเนื้อนุ่มมากเป็นพิเศษ และที่พิเศษก่อนเสิร์ฟไส้กรอกทางร้านจะนำไปต้มเสียก่อนเพื่อรีดไขมันออก จากนั้นจึงนำไปย่าง เมื่อกินไส้กรอกจะไม่เลี่ยน



รวมถึงไฮไลท์ ขาหมูเยอรมัน ที่เป็นขาหมูสูตรเพื่อสุขภาพ เพราะผ่านขบวนการทำกว่า 3 ชั่วโมง ด้วยเคล็ดลับที่ดีต่อสุขภาพหรือเรียกว่า ขาหมูรีดมัน ด้วยวิธีการหมักกับเครื่องเทศอย่างดีนำไปต้มจนสุกแล้วนำเข้าเตาอบ แถมยังมีการเพิ่มเบียร์เยอรมันเข้าไปผสมผสานเพิ่มความหอม และเพิ่มความนุ่มเป็นพิเศษ รับรองได้ว่าไม่เหมือนใคร การันตีความอร่อยด้วยการโทรจองล่วงหน้า จะได้ทานขาหมูเยอรมันที่อร่อยเลิศ กรอบนอก นุ่มใน และกรอบนาน อร่อยได้อย่างแน่นอน เสิร์ฟพร้อมด้วย น้ำจิ้ม 3 สูตรเด็ด สุดแซ่บเวอร์ โดยเฉพาะน้ำจิ้มซีฟู้ด



นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนูเพื่อสุขภาพอีกมากมายไม่เว้นแม้แต่ พิซซ่า ซึ่งเป็นพิซซ่าแผ่นสี่เหลี่ยม เป็นแบบเฉพาะของที่ร้านแป้งบางๆ มีหลายหน้าให้เลือกลิ้มลอง เช่น พิซซ่าเจหรือพิซซ่าหน้าผัก ที่อัดแน่นไปด้วย มะเขือเทศ ผักโขม หอมใหญ่ หอมดอง เห็ดแชมปิญอง นอกจากนี้ ยังมีพิซซ่าหน้าซีฟู๊ด เซลามี่ พามาแฮม  หรือ พิซซ่าหน้าแซลมอนสด ทางร้านเลือกใช้แซลมอน เกรดพรีเมียมจากนอร์เวย์สไลด์มาเป็นชิ้นบางๆ วางบนแผ่นพิซซ่า เป็นอีกเมนูที่อยากให้มาลิ้มลอง

 รวมถึงเมนูเด็ดยอดนิยมที่กำลังมาแรงเช่น สปาเก็ตตี้ไส้กรอกพริกแห้งกระเทียม เป็นเมนูขายดีถูกใจคนไทย เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่รวม 3 สัญชาติไว้ด้วยกัน เพราะมีเส้นสปาเก็ตตี้จากอิตาเลียน ไส้กรอกจากเยอรมัน และพริกแห้งและกระเทียมจากไทย น้ำมาผัดกับน้ำมันมะกอก ปรุงรสจัดจ้านแบบไทยๆ เส้นเหนียวนุ่มกลิ่นหอมของชีสและเผ็ดนิดๆ อร่อยดีจริงๆ ต้องลอง



และทางร้านยังมีเด็ดมากมายเช่น ลาบแซลมอนทอด พล่าปลาแซลมอนสด, ยำขาหมูพอลาเนอร์, ยำเห็ดสามอย่าง หอยแมลงภู่ชิลีผัดเบียร์ดำ  ที่ต้องลอง และไม่ลืมปิดท้ายความสุขด้วย ของหวานจานโปรดที่ขายดิบขายดี คือ แอปเปิ้ลสตูลเดิ้ล เป็นเมนูของหวานสไตล์เยอรมัน ด้านในเป็นแอปเปิ้ลผัดกับชินเนม่อน ห่อด้วยแป้งและอบจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวานิลลาหรือช็อคโกแลต ซึ่งสามารถเลือกรสชาติไอสกรีมได้ หรือ ช็อคโกแลตบราวนี่ ที่เสิร์ฟกับไอศกรีมวนิลลา จนอยากลิ้มลองเสียทั้งคู่



อาหารไทยรสจัดจ้าน
สถานที่ตั้งของร้านพี่ต๋อย เล่าย้อนให้ฟังว่า “พี่ให้ซินแสมาดูก่อน ตั้งแต่ตอนตระเวนขับรถดู ตึกโชว์รูมนี้ทำใหม่หมด ทำปีเดียวกันกับร้านอาหาร ”





ด้วยเพราะสถานที่อยู่ในบรรยากาศที่เปิดโล่ง ด้านหน้าฝั่งตรงข้ามเป็นลานจอดรถ ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยความร่มรื่น นั่งแล้วค่อนข้างสบายทีเดียว ทำให้นอกเหนือจากรสชาติของเบียร์ที่คนไทยและต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทยจะแวะเวียนกันมาแล้ว อาหารยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่หลายต่อหลายคนบอกต่อกันและกลับฟื้นขึ้นมาได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วหลังจากผ่านพ้นวิกฤติโควิดมา



พี่ต๋อย เล่าต่อว่า “เมื่อทำแล้ว อะไรก็สะดวกลงตัว โควิดแย่ขนาดไหนแต่ก็ยังประคองอยู่ได้ ช่วงโควิดยอดลดลง แต่ก็ขึ้นมาได้เหมือนเดิม ในช่วงแรกของการเกิดโควิด 19 ที่ต้องปิดร้านในช่วง 3 เดือนแรก ทุกคนแพนิคหมด ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ สมมติว่าขายเบียร์ได้ 20 ล้านต่อเดือน ก็เป็น 0 ตอนนั้นทุกคนไม่รู้จะทำอย่างไร แต่หลังจาก 3 เดือน เราก็เริ่มเปิดร้านอีกครั้งและไม่เคยปิดเลย

ขายได้หรือไม่ก็เปิดขายออนไลน์ไป ก็อยู่ได้ จนกระทั่งมาเปิดแบบ Full ปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 2564 สามารถให้นั่งทานได้ถึง 5 ทุ่ม สรุปว่าทุกคนกลับมา ยอดขายแบบก้าวกระโดด ดีกว่าสมัยก่อนด้วยซ้ำ เด็กๆ ที่อยู่ด้วยกันก็ชื่นใจ เพราะพี่ไม่ได้ให้เขาออก ทุกคนก็มาทำงานกันไป 

งานที่ทำก็เท่าที่มี ช่วยกันคนละเล็กละน้อยก็ยังดี ทำสีโต๊ะบ้าง ดูแลต้นไม้บ้าง ไม่ใช่ร้านปิดแล้วพอเริ่มเปิดมารีโนเวทพี่ไม่ทำแบบนั้น พี่ทำทุกอย่างให้สะอาดให้ใหม่พอตลอดเวลา ”



ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ ทำไมเธอถึงสามารถยืนหยัดอยู่ในธุรกิจนี้ได้อย่างมั่นคง นั่นมาจากประสบการณ์ด้านการตลาด ความเด็ดเดี่ยวและเป้าหมายที่ชัดเจนของการทำงาน

ณ วันนี้ Paulaner Garden Restaurant เริ่มกลับมาเปิดบ้านต้อนรับอย่างอบอุ่นอีกครั้ง ทำให้เราเห็นลูกค้าบ้างก็พาลูกหลาน บ้างก็นัดพบเพื่อนฝูง เข้ามาชิมเบียร์เยอรมัน เบียร์อังกฤษนำเข้ากันระรานตาทีเดียว



“เรื่องราคาอาหารขายเท่าเดิมตั้งแต่ต้นเป็นสิบปีมาแล้ว” พี่ต๋อยบอก “อาหารของเราแตกต่างจากร้านอาหารเยอรมันที่อื่น หนึ่ง วัตถุดิบ process ไม่เหมือนเรา สองร้านอาหารเยอรมันส่วนใหญ่ในบ้านเราจะอิงชาวเยอรมัน แต่พี่อิงคนไทยเพราะคนไทยไม่มี season คนไทยมีกำลังในการใช้จ่ายทำให้ธุรกิจ เราอยู่ได้ตลอด พี่ไม่ได้อิงตลาดฝรั่งเพราะพี่รู้ว่าของพวกนี้ฝรั่งเขามาเมืองไทยก็อยากกินเบียร์ไทย คนที่เป็นลูกค้าพี่คือคนไทยที่อยากลองชิมเบียร์ต่างประเทศหรือชื่นชอบรสชาติของเบียร์ต่างประเทศ  ซึ่งเราคุยกันตั้งแต่ที่ได้ license นำเข้าแล้ว”

และมาตรการความปลอดภัย หลังจากเริ่มเปิดตัวอีกครั้ง พี่ต๋อยเล่าว่า “หลังช่วงโควิดเรากลับมาเปิดเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ได้มาตรฐาน SHA เป็นที่เรียบร้อย และยังตระหนักถึงการรักษาความปลอดภัยให้นักชิม รวมทั้งพนักงานในร้านผ่านการฉีดวัคซีนครบโดส และทุกสัปดาห์ทางร้านจะมีตรวจ ATK กับพนักงาน



นอกจากนี้ ลูกค้าที่เข้าร้านต้องสแกนคิวอาร์โค้ด ไทยชนะ ต้องผ่านการตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิ ด้านหน้าร้านก่อน ส่วนภายในร้านก็ได้มีการฉีดพ้นน้ำยาฆ่าเชื้อ และมีบริการเจลแเอลกอฮอล์ให้บริการ ในทุกมุมของร้าน รวมถึงในห้องน้ำ หรือเรียกว่าทำความสะอาดใหญ่

ที่สำคัญที่สุด ทางร้านยังได้เตรียมช้อน มีด ส้อม ทิชชู ใส่ซองแยกให้กับลูกค้าทุกคน เพื่อใช้สำหรับรับประทานอาหารอย่างมั่นใจในความปลอดภัย และพร้อมบริการอาหารขึ้นชื่อ ให้ได้ลิ้มลองความเอร็ดอร่อยเหมือนเดิม”



และพิเศษทุกวันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น. 2 ชั่วโมงเต็ม นักชิมจะได้เพลิดเพลินฟังเพลงไพเราะไปกับวงดูโอ ศิลปินจากเวทีประกวดเดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ( บัง & เขี้ยว )อีกด้วย

เบียร์พอลลาเนอร์มีรสชาติหลากหลาย โดยเบียร์สดที่มีบริการคอเบียร์ของร้านมี 4 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ ไวเซ่นเบียร์ ซึ่งเป็นเบียร์ที่ไม่ได้ผ่านการกลั่น น้ำเบียร์มีสีเหลืองขุ่น ให้รสนุ่ม มีกลิ่นหอม ฟองนุ่ม ออริจินัลเบียร์ เป็นเบียร์สดที่ผ่านการกลั่น ได้เบียร์ที่เหลืองใสสีอำพัน รสนุ่มคอ ชนิดที่สามคือ ดุงเคิลเบียร์ เป็นเบียร์ดำ เกิดจากการเอามอลล์ไปคั่วให้ดำ ทำให้ได้เบียร์รสเข้มข้น 

นอกจากเบียร์สดแล้วในร้านยังมีเบียร์ขวดพอลลาเนอร์ชวนดื่มอย่าง ซัลวาเตอร์, ออริจินัล ลาเกอร์ , และเบียร์ขวดตระกูล Hacker-Pschorr สเทินไวส์ มุนเชอร์เนอร์ โกลด์ 



“เบียร์ของเยอรมันมีความพิเศษตรงที่เขาจะมีกฎหมายควบคุมเลยว่า ไม่มีสารเคมี โดยทำจากส่วนประกอบพื้นฐาน 4 อย่าง ได้แก่ ยีสต์ น้ำ มอลต์(จากข้าวสาลี)และดอกฮอพที่ให้รสขมของเบียร์ การผลิตต่างถิ่นหรือเพียงปรับเปลี่ยนส่วนประกอบเล็กน้อย หรือน้ำในแต่ละประเทศที่ต่างกัน จะได้เบียร์รสชาติที่เปลี่ยนไปด้วย”

สำหรับเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ร้านพอลลาเนอร์ การ์เดนท์ มีไว้บริการลูกค้า จะเป็นเครื่องดื่มที่ทางร้านนำเข้ามาเอง เช่น Premium UK Beer (London Pride ESB) St.Austell Brewery ( Korev,Mena DHu Stout) และจาก Samuel Smit (Pure Brewed Organic Lager, Organic Wheat Beer , Organic Chocolate Stout , และ นอกจากนี้ยังมี Organic Fruit Beer ( Strawberry , Raspberry , Apricot ) และ Organic Cider , Perry มีไว้ให้ลูกค้าได้เลือกลิ้มลอง

ร้านอาหารพอลลาเนอร์ การ์เด้นท์ ศรีนครินทร์ วันนี้พร้อมแล้วสำหรับการรอต้อนรับลูกค้า ที่ต้องการสัมผัสกับบ้านเพื่อนสไตล์เยอรมันอันอบอุ่น มาแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ

ไปไม่ถูกตั้ง GPS หรือดู ลิงค์ www.paulaner-garden.com  กันก่อนได้เลย หรือโทรสอบถามได้ที่ 082 790 1782