อธิบดี สค. มอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการฝึกอบรมวิชาชีพจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ ฯ 36 พรรษา
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2560 เวลา 10.30 น. นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้เกียรติเป็นประธานมอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการฝึกอบรมวิชาชีพจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว กล่าวรายงาน โดย นายชาญวุฒิ เมธีกุล ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ ฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี มีผู้สำเร็จการฝึกอบรมเข้าร่วมรับวุฒิบัตร จำนวน 300 คน ในการนี้ อธิบดีกรม สค. ได้เยี่ยมเยียนบูธแสดงสิ้นค้าและผลิตภัณฑ์จากฝีมือกลุ่มอาชีพที่ได้รับการฝึกอบรมจากศูนย์ฯ กว่า 10 บูธ จากจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกและจังหวัดใกล้เคียงกว่า 11 จังหวัด นายเลิศปัญญา กล่าวว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการส่งเสริมความเข้มแข็งของสตรีและครอบครัว ซึ่งเป็นภารกิจที่ พม. ให้ความสำคัญมาก เพราะนอกจากสตรีจะเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศแล้ว สตรียังเป็นกลุ่มพลังที่ช่วยในการขับเคลื่อนสังคมในหลายมิติ และในปัจจุบันสตรีไทยเข้ามามีบทบาทด้านเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งในระดับชุมชน ระดับประเทศ หรือแม้แต่ในระดับนานาชาติ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวทั้ง 8 แห่ง ทั่วประเทศ เป็นกลไกในการขับเคลื่อนการป้องกันความเสี่ยงแก่เด็ก และสตรี หรือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตลอดจนใช้พัฒนาศักยภาพสตรีในระดับพื้นที่เพื่อเปิดโอกาสให้สตรีไทยมีโอกาสที่จะได้ใช้ศักยภาพของตนเอง ทั้งนี้ ผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับการดูแลสวัสดิการด้านต่าง ๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และได้รับการฝึกอาชีพตามความสนใจ หรือตามความถนัด และเมื่อจบหลักสูตรการฝึกอบรมแล้ว ยังดูแลเรื่องการหางานทำเพื่อหารายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวอีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจำนวนมาก สามารถสร้าง ธุรกิจเป็นของตนเองรวมถึงประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และบุคคลเหล่านี้ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับรุ่นน้อง ๆ ผู้รับการฝึกอบรมรุ่นหลัง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน นายเลิศปัญญา กล่าวต่ออีกว่า ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพ ฯ 36 พรรษา จังหวัดชลบุรี เป็น 1 ใน 8 ศูนย์ ที่ได้ดำเนินการจัดสวัสดิการด้านการฝึกอบรมวิชาชีพให้แก่เยาวชน สตรี และประชาชนทั่วไปที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ และสังคม ขาดโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพและสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยมีการปรับหลักสูตรการเรียนการสอนมาตลอด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งนอกจากการฝึกอบรมวิชาหลักแล้วศูนย์ฯ ยังได้จัดการฝึกอบรมการทำกระเป๋าผ้าด้นมือ และพวงกุญแจลูกปัด เป็นวิชาเสริมให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม รวมทั้งจัดการอบรมให้ความรู้ในการสื่อสารภาษาอังกฤษ การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร เช่น กีฬา นันทนาการ และดนตรี ฯลฯ การจัดอบรมพิเศษตามโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มทักษะการใช้ชีวิต การแนะแนวทางในการประกอบอาชีพกฎหมายต่างๆ ที่จำเป็น อาทิ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และการอบรมโครงการค่ายเตรียมความพร้อมก่อนกลับสู่สังคม นอกจากนี้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมยังได้มีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ศูนย์ฯ และสังคมอีกด้วย สำหรับผู้สำเร็จการฝึกอบรมในครั้งนี้ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความประสงค์จะให้ศูนย์ฯ จัดหางานให้ โดยศูนย์ฯ ได้ประสานกับสถานประกอบการทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจำแนกตามหลักสูตรต่างๆ ดังนี้ 1)หลักสูตรภาคปกติ 6 เดือนรุ่นที่ 50 มีผู้สำเร็จการฝึกอบรม จำนวน 122 คน ศูนย์ฯ ได้จัดหางานให้ทำ คิดเป็น 85% ส่วนผู้ที่ไม่ได้แจ้งความจำนงให้ศูนย์ฯ จัดหางานส่วนหนึ่งกลับไปทำงานที่ภูมิลำเนาเดิม ที่เหลือได้ไปศึกษาต่อ 2)หลักสูตร 4 เดือน นวดแผนไทยและนวดประคบสมุนไพร รุ่นที่ 47 มีผู้สำเร็จการฝึกอบรม จำนวน 39 คน ทำงานในสถานประกอบการที่มาติดต่อรับสมัครภายในศูนย์ฯ คิดเป็น 100 % 3)หลักสูตร 120 ชั่วโมง (เสาร์ – อาทิตย์) จำนวน 4 หลักสูตร ได้แก่ แผนกเสริมสวยสตรี แผนกตัดผมชาย แผนกโภชนาการและแผนกตัดเย็บเสื้อผ้า มีผู้สำเร็จการฝึกอบรม จำนวน 133 คน 4)หลักสูตรโครงการสร้างชีวิตใหม่ให้แก่สตรีและครอบครัว จำนวน ๒๒ รุ่น ๆ ละ 30 คน รวมทั้งสิ้น 660 คน ได้ดำเนินการฝึกอบรมในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ดังนี้ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัด ฉะเชิงเทรา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว จังหวัดนครยก เป็นต้น "เมื่อท่านออกไปทำงานแล้วขอให้ท่านตระหนักว่าวุฒิบัตรที่ได้รับเป็นเพียงสิ่งที่บอกให้ทราบว่าท่านได้ผ่านการฝึกอบรมจากสถาบันแห่งนี้ และได้รับความรู้ด้านอาชีพขั้นต้นเพื่อให้ท่านสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ แต่การที่ท่านทั้งหลายจะประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตได้นั้น ท่านต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ตรงต่อเวลา หมั่นเรียนรู้ มีความซื่อสัตย์สุจริต และรู้จักเก็บออม ประพฤติตนที่เหมาะสมเป็นแบบอย่างที่ดีของคนในครอบครัว ดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าเพื่อตนเองและเพื่อสถาบันวิชาชีพนี้ สำหรับผู้สำเร็จการฝึกอบรมที่เป็นเยาวชนขออย่าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและมิจฉาชีพ ขอให้ท่านเป็นตัวแทนของกรมกิจการสตรีและสถาบันนะครอบครัว นำสิ่งที่ได้รับไปเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ภารกิจให้แก่คนในหมู่บ้านในอำเภอของท่าน และขอให้ท่านช่วยในการเฝ้าระวังไม่ให้เกิดปัญหาการกระทำความรุนแรงต่อเด็กและสตรีในชุมชนของท่านด้วยครับ" นายเลิศปัญญากล่าวในตอนท้าย