“Pattani River Festival 2024” ประสบความสำเร็จ กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวชุมชนเมือง  

จังหวัดปัตตานี  ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สำหรับการจัดงาน “Pattani River Festival 2024″ ดินแดนลังกาสุกะ ปัตตานีวิถีแห่งสายน้ำ“  ซึ่งจัดโดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี  เทศบาลเมืองปัตตานี ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน และ วันที่ 6 – 8 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยในงานได้รับเกียรติจาก นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน, พร้อมด้วยนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี  นายสุชาติ ชายมัน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี และคณะผู้บริหาร ร่วมเปิดงาน ณ บริเวณสะพานเดชานุชิต ริมแม่น้ำปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี  เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์และยกระดับกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการอนุรักษ์วัฒนธรรมที่อยู่คู่สายน้ำของจังหวัดปัตตานี อีกทั้งยังช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน เพิ่มมูลค่าด้านเศรษฐกิจ โดยในงานมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน

นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เผยว่า “แม่น้ำปัตตานี เป็นแม่น้ำที่ผ่าเข้ากลางเมืองปัตตานี มีต้นน้ำอยู่ในเทือกเขาสันกาลาคีรี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ไหลผ่านเขื่อนบางลาง ผ่านจังหวัดปัตตานีและสิ้นสุดที่อำเภอเมืองปัตตานี ไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทย มีความยาวกว่า 214 กิโลเมตร เพราะฉะนั้นวิถีของคนปัตตานีจึงอยู่กับสายน้ำ น้ำเปรียบเสมือนวิถีชีวิต  ไม่ว่าจะด้านวิถีของการทำมาหากิน อ่าวปัตตานีเป็นเหมือน “ตู้เย็นของคนปัตตานี”  เพราะเรามีทรัพยากรทางทะเลมากมาย และอุดมสมบูรณ์  เรามีมิติวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตผ่านสายน้ำเลยทำให้เป็นที่มาของการจัดกิจกรรม “Pattani River Festival 2024″ ดินแดนลังกาสุกะ ปัตตานีวิถีแห่งสายน้ำ“ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของคนปัตตานีกับสายน้ำ ตั้งแต่ในสมัยดินแดนลังกาสุกะ การถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของคนพื้นบ้านในจังหวัดปัตตานี

โดยนำฉากของแม่น้ำปัตตานีมาเป็นองค์ประกอบของฉาก การนำเรื่องของแสง สี เสียงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ และครั้งนี้พิเศษสุดนอกจากการแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่แล้ว เรายังได้มีการนำการแสดงของโดรนกว่า 1,000 ลำ มาแสดงบนท้องฟ้าเพื่อบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของคนปัตตานีอย่างครบถ้วนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติของความเชื่อ มิติทางวัฒนธรรม และและมิติของการแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ หรือ ๗๒ พรรษา ที่ผ่านมาอีกด้วย”