เปิดเมือง “พัทยา” คึกคัก ผู้ประกอบการขานรับ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5

ทีมงาน B TripNews ได้มีโอกาสกลับไปยังเมืองพัทยาอีกครั้ง เพื่อเยือนสถานประกอบการ ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สปา และ walking Street Pattaya ที่นี่มีชื่อเสียงโด่งดัง ว่าเป็นเมืองยามค่ำคืนที่ไม่เคยหลับใหล นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ต่างเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศแสงสีเสียง ตลอดระยะทางในถนนสายนี้เราจะได้เห็นถึงความหลากหลายจากสถานบันเทิง ทั้งโชว์เต้น โชว์มวยไทย โชว์มายากล นักท่องเที่ยวหลากหลายทุกเชื้อชาติต่างมุ่งหน้ามาเยือน 

แต่... ในช่วงโควิด ทุกสิ่งอยู่ในความเงียบสงบ หลายต่อหลายร้านปิดตัวถาวร ขณะที่อีกหลายร้านปรับเปลี่ยนมือเจ้าของกิจการ เหลือเพียงสถานประกอบการบางแห่งที่มีความพร้อมจะยื้อธุรกิจเอาไว้เพื่อดำรงต่อ ผลกระทบต่างๆ เกิดขึ้นทั่วทุกหนแห่งของเมือง ก่อให้เกิดสภาวะวิกฤตอย่างมาก โรงแรมที่พักจำนวนนับหมื่นถูกผลประทบ

“ร้านต้องปิด เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว ทุกอย่างเงียบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ... น้าก็ไม่รู้จะไปทำอะไร คงต้องกลับบ้านเกิด ไปบ้านก่อนแล้วค่อยกลับมาสู้กันใหม่” น้าแม่ค้าเคยเล่าให้ฟังเมื่อเกือบปีก่อนที่เราได้ไปเดินสำรวจมา

เวลาผ่านไป .... วันนี้...วันที่ 10 มีนาคม 2566 สถานการณ์โควิด – 19 เบาบางลงเรียกว่าแทบจะเข้าสู่สภาวะปกติ แม้สาธารณสุขของบ้านเราจะยังคงเตือนให้ป้องกันตัวเอาไว้บ้าง แต่เมื่อมีการเปิดประเทศ อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศได้ เราจึงเห็นชาวยุโรป ชาวอินเดีย ชาวจีน และชาวไทยเดินทางเข้ามาในเมืองพัทยามากขึ้น และ... คงจะมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเสน่ห์ของพัทยายังคงอยู่ เสน่ห์ของสีสัน ความสนุกสนานของเมืองยังคงอยู่และรอรับผู้มาเยือนไม่เคยเลือนหาย



วอล์คกิ้ง สตรีท ในค่ำคืนนี้ คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่ไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

“น้ำผลไม้ปั่นค๊า” แม่ค้าขายผลไม้วัยกลางคนตะโกนเรียกนักท่องเที่ยวแข่งกับเสียงเพลงจากลำโพงจากร้านข้างเคียงที่ดังกระหึ่มถนน

“เสื้อยืดลดราคาคะ” เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ขายอีกมุมของฟากถนนที่นำเสื้อยืดสกรีนชื่อเมืองมาขายในราคาที่ย่อมเยาว์มากกว่าเมื่อก่อน ส่งยิ้มเชิญชวนผู้มาเยือนจากต่างแดน
 
 

วอล์คกิ้ง สตรีท พัทยา ซึ่งเริ่มจากสุดปลายของถนนเลียบหาดพัทยาใต้ ขยายการค้าการขาย ผ่าน โรงแรมสยามเบย์ชอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา Siam Bayshore Resort & Spa เชื่อมโยงสู่แหลมบาลีฮาย ท่าเทียบเรือของเมืองพัทยา กลับมาคึกคักอีกครั้ง

สำหรับสถานประกอบการอย่าง โรงแรม สยามเบย์ชอร์ รีสอร์ท แอนด์ สปา แห่งนี้ก่อสร้างมาตั้งแต่ยังไม่มีท่าเทียบเรือ เมื่อ 40 ปีก่อน บนเนื้อที่กว้างถึง 44 ไร่ โรงแรมห้าดาวรุ่นแรกๆของเมือง กินพื้นที่ตั้งแต่ด้านหน้าติดถนนเลียบหาด ไปจนด้านหลังติดกับถนนพัทยาสาย 2  มีห้องพักทั้งหมด 270 ห้อง ด้วยเพราะความเอาใจใส่ในทุกตารางนิ้ว ทำให้สถานที่แห่งนี้ยังดูทันสมัยและน่าเข้าพักตลอดมา









 

 

ดังจะเห็นได้จากวันนี้ นอกจากนักท่องเที่ยวจะมากันเป็นครอบครัวแล้ว ยังมากันเป็นกรุ๊ปทัวร์ดังเช่นที่เราเห็นนักท่องเที่ยวยุโรปหลายสิบคนที่กำลังฟังคำแนะนำจากไกด์ เราเห็นบรรยากาศของการปูผ้าขนหนูลงนอนผึ่งแดดบริเวณสระน้ำริมทะเลและสระว่ายน้ำบริเวณภายในรีสอรท



 

 

ภายในรีสอร์ท ยังมีหลายส่วนให้ได้รื่นรมย์ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของ Explorer Bar ตรงข้ามล็อบบี้ คนที่ชื่นชอบของสะสมโบราณ ต้องชอบแน่นอน เพราะเขาตกแต่งเอาไว้ราวกับพิพิธภัณฑ์ย่อมๆ เป็นของเก่าที่หาดูได้ยาก ซึ่งเป็นสมบัติส่วนตัวของเจ้าของ จากเอเชียและทั่วทุกมุมโลก

และด้านติดถนนพัทยา สาย 2 จะเห็นสนามเทนนิส ถึง 6 สนาม จำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน ที่นี่มีการจัดการแข่งขันเทนนิสระดับโลกมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งครั้งนั้นเราก็เป็นคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสเข้ามาชมมาเชียร์นักกีฬาไทยด้วย (อยากเห็นอีกสักครั้ง )

จะบอกว่า ... ตอนนี้แหลมบาลีฮาย เป็นท่าเรือสุดฮอตของเมืองที่นักท่องเที่ยวที่จะลงเรือจะไปล่องชมวิวหรือไปร้านอาหารกลางทะเลหรือจะไปเกาะล้าน ต้องมาลงเรือที่นี่ เคยเข้าไปจอดรถเสียค่าจอดคันละ 100 บาท เราแนะนำว่า เอาเงิน 100 บาทมานั่งทานอาหารแล้วจอดรถฟรีในโรงแรม 555 อิ่มท้องด้วย

วันนี้เราพักห้อง ทรอปิคอล ดีลักซ์ พูลวิว Tropical Deluxe Pool view Size 38 sqm. สนนราคาเริ่มต้นวันธรรมดา 3,500 บาท / ศุกร์ เสาร์ 4,000 บาท  ถ้า book ผ่านเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ลดเหลือ เพียง  2,100 วันธรรมดา และ 2,400 สำหรับ ศุกร์ เสาร์



 

แต่หากต้องการห้องหรูขนาดใหญ่เป็นห้องที่ตกแต่งแบบ Chic Suite ห้อง Deluxe Suite ขนาดถึง 100-124 ตารางเมตร อยู่ภายในบริเวณตึกโอเชี่ยนวิงเหนือล็อบบี้ มีทั้งหมด 8 ห้อง

ส่วนอาหารเช้าเราทานกันที่ ที่ห้องอาหารซันไรส์ ซันเซท บริเวณล็อบบี้โรงแรม มองเห็นวิวทะเลและถนนคนเดิน บอกได้เลยว่าที่นี่ไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารมีให้เลือกเยอะจริงๆ แถมยังอร่อยมากด้วย ใครที่ไปเที่ยวกันมาดึกๆ อาจจะสลึมสลือมานั่งทาน แต่เมื่อมาถึงตาสว่างกะทันหันกันเลยทีเดียว ไม่แปลกใจที่ทำไมเราจึงเห็นแขกที่มาพักจึงลงมาทานอาหารเช้ากันเต็มห้องอาหารทีเดียว ที่ห้องอาหารนี้เปิดทั้งวัน อาหารกลางวันหรือจะอาฟเตอร์นูนทีหรือจะดินเนอร์ ก็มีไว้บริการ







 

 

 



 

   

 

   

 

Mr. Bennet Chang  - General Manager คุณเบนเน็ต ชาง - ผู้จัดการทั่วไป และ Mr. Varut Thanvarachorn- Director of Operations  คุณวารุตม์ ธันวารชร – ผู้อำนวยการฝ่ายปฎิบัติการ ให้ข้อมูลกับเราว่า ตอนนี้ธุรกิจโรงแรมดีขึ้นเยอะ หลังจากที่โควิดเริ่มหายไป นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น ชาวยุโรป อินเดีย หรือชาวไทย ได้เข้ามาใช้บริการ

พัทยาเป็นเมืองที่เดินทางมาง่ายสะดวก และเป็นหนึ่งในห้า Destination ที่ทุกคนอยากมา ตอนนี้โรงแรม running  80 %  ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจห้องพัก อาหาร เอาท์เลทต่างๆ ของโรงแรมดีขึ้น นักท่องเที่ยวมาใช้บริการมากขึ้น

Mr. Bennet Chang  – General Manager

Mr. Varut Thanvarachorn- Director of Operations
และที่เรานั่งอยู่ตรงนี้ คือ Bali-Hai by Tha Sea จำหน่ายแบบ a la carte สามารถสั่งได้ตามใจชอบ เปิดทุกวันได้เป็นวิวบาลีฮายเบย์ และสำหรับวันศุกร์- เสาร์ จะมีบุฟเฟต์ซีฟู้ดและมีดนตรีสดด้วย”

และเมื่อถามถึง โครงการ เที่ยวด้วยกัน เฟส 5 คุณวารุตม์ บอกว่า “ตอนนี้มีเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ก็อยากจะเชิญชวนคนไทยที่อยากจะมาพักผ่อนที่เมืองพัทยา เราเริ่มต้นถูกมาก 40 % ห้องพักเราก็เหลืออยู่แค่ 1800 กว่าบาทเท่านั้น ค่าห้องพักเริ่มต้น ก็อยากจะเชิญชวนให้มาพัก ที่ใกล้ทั้งวอล์คกิ้ง สตรีท และแหลมบาลีฮาย สามารถเดินทางไปเกาะล้านได้ด้วย











 

เย็นย่ำ อาทิตย์ใกล้ลับเหลี่ยมฟ้า เราได้ลิ้มรสอาหารจากฝีมือ Chef Tawat Sunpangoen - Executive Chef  เชฟธวัช สันป่าเงิน  -หัวหน้าแผนกครัว ที่นำผลงานมาเสริฟในแบบ a la carte แต่จะบอกว่า ถ้าคุณๆ มาวันศุกร์ วันเสาร์ ไม่ควรพลาด สำหรับบรรยากาศบาร์บีคิวบุฟเฟ่ต์ในตอนเย็น ซึ่งอยู่หน้าโรงแรม เรียกว่ามีอาหารทะเลปิ้งย่าง เอาไว้บริการกันแบบไม่อั้น Bali-Hai by Tha Sea สามารถสำรองล่วงหน้าได้ที่ ! +660 38 428678




 

และมาถึงอีกสถานประกอบการหนึ่งที่คว้ารางวัลกินรีเมื่อปีที่ผ่านมากับเวที Thailand Tourism Awards จากการจัดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นั่นคือ โอเอซิส สปา พัทยา และได้รับการยกย่องให้เป็นตัวอย่างให้กับสถานประกอบการด้านธุรกิจสปาอื่นๆ ในปีนี้ ซึ่งแว่วมาว่า ปีนี้ โอเอซิสสปา ก็จะเข้าร่วมประกวดอีกครั้ง แต่ในสาขาของที่อื่น



 

 

 

 





โอเอซิสสปาพัทยา ตั้งอยู่ในโครงการชาโตเดล ใกล้วัดพระใหญ่ ที่ถนนทัพพระยา ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง เปิดให้บริการทุกวัน

ที่นี่เปิดให้บริการสปาทรีทเมนท์ที่ผสมผสานการนวดแบบไทยล้านนา ประกอบด้วยห้องทรีทเมนต์ส่วนตัว จำนวน 11 ห้อง สระว่ายน้ำ ห้องอบสมุนไพร



 

 

 

 

ด้วยการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์และความร่มรื่นของแมกไม้เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ประตู ซึ่งแทรมแซกเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัวสวยงาม เรียกว่า ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่า ยังมีสถานที่แบบนี้อยู่กลางเมืองพัทยา กลางคอนโดของเมือง

โอเอซิสสปาพัทยา จึงไมใช่แค่เพียงให้ประสบการณ์การนวดกับเราเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่แตกต่างคือความใส่ใจและการบริการที่เรียกว่าเพียบพร้อมจริงๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ว่า ทำไม โอเอซิสสปา จึงได้รับรางวัลระดับประเทศ และระดับนานาชาติมาอย่างมากมาย รวมถึงเป็นที่กล่าวขวัญถึงของชาวต่างชาติ เรียกว่า มาเมืองไทย เล่นน้ำทะเลริมหาด หากต้องการผ่อนคลาย โอเอซิสสปา ถือเป็นอันดับต้นๆของการบริการที่เราคิดว่า ไม่เป็นสองรองใคร
ส่วนของทรีทเมนต์ หรือโปรแกรมการให้บริการนวด ที่ให้ความสำคัญถึง รูป รส กลิ่น เสียง ครบถ้วน สามารถสัมผัสได้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายในสถานประกอบการแห่งนี้

หากสนใจลองสอบถามกันได้ที่ +66 038 115 888

.................

สำหรับการมาเยี่ยมเยียนสถานประกอบการในครั้งนี้ ถูกจำกัดด้วยกรอบของเวลา เอาไว้ครั้งหน้าจะมาแนะนำที่ไหนอีก ติดตามได้เลยคะ 

 



เรื่อง นาริฐา จ้อยเอม