บมจ. โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 2 พ.ค. นี้

บมจ. โกลบอลกรีนเคมิคอล บริษัทแกนนำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมของกลุ่ม PTTGC พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2 พ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 11,050.67 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “GGC”


ดร. สันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. โกลบอลกรีนเคมิคอล จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม หมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “GGC” ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 โดย GGC ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้ผลิตภัณฑ์ผลปาล์ม (น้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ และน้ำมันเมล็ดในปาล์มบริสุทธิ์) เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสารโอลีโอเคมีพื้นฐาน ได้แก่ เมทิลเอสเทอร์ แฟตตี้แอลกอฮอล์ และกลีเซอรีน ซึ่งในอนาคตสามารถต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมจากวัตถุดิบธรรมชาติอื่น และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง


GGC เป็นบริษัทแกนนำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม (green flagship company) ของกลุ่ม บมจ. พีทีที      โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อมในระดับโลกที่โดดเด่นในทุกตลาดที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทฯ เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ผลิตเมทิลเอสเทอร์รายใหญ่ที่สุดและเป็นผู้ผลิตแฟตตี้แอลกอฮอล์เพียงรายเดียว ในประเทศไทย


GGC มีทุนชำระแล้ว 9,866.67  ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10.00 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 740.00 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 246.67 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) แบ่งเป็น      ผู้ลงทุนสถาบัน 123.33 ล้านหุ้น และ บุคคลทั่วไป 123.33 ล้านหุ้น (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) เมื่อวันที่ 20-21 และ 24 เมษายน 2560 ในราคาหุ้นละ 11.20 บาท มีมูลค่าระดมทุนราว 2,762.67 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 11,050.67 ล้านบาทโดยมี บล. ฟินันซ่า และ บล. ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย


นายจิรวัฒน์ นุริตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. โกลบอลกรีนเคมิคอล (GGC) เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินและตอบสนองแผนการเติบโตให้กับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการเมทิลเอสเทอร์แห่งที่ 2 และโครงการ Biocomplex รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนและเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวข้างต้น (หากมีความจำเป็น) และโครงการในอนาคตของบริษัทฯ

หลัง IPO GGC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) ถือหุ้น 71.25% (ซึ่งเป็นสัดส่วนหลังจากที่ PTTGC ได้ให้ผู้จัดสรรหุ้นส่วนเกินยืมหุ้นเพื่อการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน โดยที่ยังไม่ถึงกำหนดการคืนหุ้นที่ให้ยืม) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 0.91% และ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 0.84% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนสถาบัน (book building) โดยอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ของบริษัทฯ เท่ากับ 11.91 เท่า โดยพิจารณาเปรียบเทียบกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทฯ ที่เท่ากับ 0.94 บาทต่อหุ้น 

ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัทฯ (เฉพาะส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่) สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2559 หารด้วยจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วของบริษัทฯ ที่ไม่รวมหุ้นที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินอาจใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินจากบริษัทฯ ตามการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิของบริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีเงื่อนไขว่าการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับแผนการลงทุน ความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นๆ ในอนาคตด้วย


ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th  และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.ggcplc.com และที่เว็บไซต์ www.set.or.th