“พาณิชย์”ผุดโครงการใหม่ ลุยตลาดเอเชียใต้เต็มสูบ ชี้โอกาสการค้าสดใส

กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เดินหน้าเร่งรัดการส่งออกในยุคNew Normal ตามนโยบายของรนม. และรมว. จุรินทร์ฯ เตรียมจัดโครงการผลักดันการค้าในตลาดเอเชียใต้โค้งสุดท้ายปีงบประมาณ 64 หวังดันยอดส่งออกไทยในตลาดเอเชียใต้เติบโตไม่สะดุดท่ามกลางวิกฤติโควิด-19

​กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ที่ต้องการเร่งรัดการส่งออกของไทยในยุค New Normal ให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง

 โดยกำหนดจัด “โครงการผลักดันการค้าในตลาดเอเชียใต้” ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2564 ซึ่ง นับเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างสำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 1 ประจำส่วนกลางและสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ประจำภูมิภาคเอเชียใต้ รวมทั้งสิ้น 4 แห่ง ได้แก่ สคต. ณ เมืองมุมไบ/กรุงนิวเดลี/เมืองเจนไน สาธารณรัฐอินเดีย และสคต. ณ กรุงธากา ประเทศบังกลาเทศ

 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเล็งเห็นถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโอกาสทางการค้าของไทยในตลาดเอเชียใต้ที่ยังมีลู่ทางสดใสสำหรับสินค้าไทยในการขยายการส่งออกได้อีกมาก ตลอดจนมีโอกาสศึกษาทำความเข้าใจถึงพฤติกรรมผู้บริโภคท้องถิ่นและนำข้อมูลที่ได้รับมาปรับปรุงสินค้า ให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาดเอเชียใต้ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป

ทั้งนี้ ตลาดเอเชียใต้นับเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกที่มีศักยภาพของไทยที่กรมให้ความสนใจมาโดยตลอด 
โดยข้อมูลล่าสุดจากธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ จะปรับตัวสูงขึ้นเป็นร้อยละ 9.5 และร้อยละ 6.6 ในปี 2564 และปี 2565 ตามลำดับ โดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค ด้วยจำนวนประชากรกว่า 1,300 ล้านคน และมีประชากรชนชั้นกลางที่มีรายได้ปานกลางถึงสูงกว่า 400 ล้านคน 

คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินเดียในปี 2564 จะสูงขึ้นถึงร้อยละ 11 จากติดลบร้อยละ 8 ในปี 2563 และบังกลาเทศ แม้จะเป็นตลาดใหญ่อันดับ 3 ของภูมิภาค รองจากอินเดียและปากีสถาน แต่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยร้อยละ 6.85 ในปี 2562-2563 โดยพบว่าในปี 2563 บังกลาเทศมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในเอเชียใต้ คือ ร้อยละ 5.2 และคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในปี 2564-2565 คิดเป็นร้อยละ 6.8 และ 7.2 ตามลำดับ

สำหรับรูปแบบการดำเนินโครงการประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1) งานสัมมนาออนไลน์ (Webinar) วันที่ 15 ก.ค. 64 โดยผู้อำนวยการ สคต. ทั้ง 4 แห่งจะร่วมบรรยายให้ความรู้ถึงลักษณะเฉพาะของตลาดเอเชียใต้
ในกลุ่มสินค้าประเภทต่างๆ อาทิ เครื่องสำอาง สุขภาพและความงาม อาหารแปรรูป/อาหารพร้อมรับประทาน ของใช้ภายในบ้าน อาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เคมีภัณฑ์ จากนั้นเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการมีโอกาสนำเสนอสินค้า (Product Pitching) ช่วงวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2564 เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีความพร้อมและเหมาะสมมากที่สุดในการจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ (Online Business Matching) กับผู้นำเข้าเอเชียใต้ ช่วงวันที่ 1-3 กันยายน 2564 เป็นลำดับสุดท้าย

ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านระบบลงทะเบียนออนไลน์ทาง https://forms.gle/6K1mbNWBgXgAptNL6 หรือสแกนคิวอาร์โค้ดที่ปรากฏได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัคร หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานภูมิภาคเอเชียใต้ 
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร. 02 507 8209/8225/8239